วันนี้ (20 พฤษภาคม) เวลา 15.00 น. มีการจัดงาน ‘ร้อย รักษ์ โลก เปรมสุข ณ คลองเปรมประชากร’ ที่ชุมชนประชาร่วมใจ 1 ริมคลองเปรมประชากร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธาน มีผู้บริหารในเครือเจริญโภคภัณฑ์ นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการเขตจตุจักร นายธนัช นฤพรพงศ์ รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งชาวชุมชนริมคลองเปรมประชากรกว่า 300 คนเข้าร่วมงาน ภายในงานมีกิจกรรมปลูกต้นไม้
‘ร้อย รักษ์ โลก’ ที่คลองเปรมฯ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่า กทม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ขุดคลองเพื่อระบายน้ำไม่ได้ เนื่องจากมีบ้านเรือนที่รุกล้ำริมคลอง ทำให้การระบายน้ำไม่คล่องตัว แต่เมื่อมีการสร้างบ้านมั่นคง โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ทำให้ชุมชนมีความมั่นคงมากขึ้น มีงาน มีอาชีพ ทั้งชาวชุมชนริมคลองลาดพร้าว และชุมชนริมคลองเปรมประชากร
“ที่สำคัญ กรุงเทพมหานครมีโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น อยากให้มีสวนสวยในทุกๆ ชุมชน มีความยั่งยืนมั่นคงในด้านที่อยู่อาศัย และสิ่งแวดล้อมตามมา สุดท้ายพี่น้องทุกคนมีบ้านที่สวยงาม มีคลองที่สวยงาม ทำให้กรุงเทพฯ กลับมาเป็นเมืองที่น่าอยู่” ผู้ว่า กทม.กล่าว
นอกจากกิจกรรมการปลูกต้นไม้ริมคลองเปรมประชากรเพื่อสร้างทัศนียภาพที่สวยงามในชุมชนแล้ว ยังมีการมอบจักรยาน จำนวน 100 คันให้กับชาวชุมชนประชาร่วมใจ 1 และชุมชนประชาร่วมใจ 2 รวมทั้งหน้ากากผ้าอนามัย จำนวน 50,000 ชิ้น เงินทุนการศึกษา 100 ทุน รวม 100,000 บาท และส่งมอบโรงเรือนเพาะชำ พร้อมทั้งเมล็ดพันธุ์ผักให้กับชุมชนด้วย
นอกจากนี้ภายในงานยังมีบูธกิจกรรมต่างๆ เช่น แสดงและจำหน่ายสินค้า ศูนย์ฝึกอาชีพเขตจตุจักร บริการตัดผมฟรี เป็นต้น
ทั้งนี้ชุมชนประชาร่วมใจ 1 มี 283 หลังคาเรือน เป็นชุมชนหนึ่งในโครงการพัฒนาพื้นที่ริมคลองเปรมประชากร ซึ่งในช่วงหลายสิบปีที่ผ่าน คลองเปรมประชากรมีชาวบ้านปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ในที่ดินราชพัสดุริมคลอง บางส่วนปลูกสร้างบ้านรุกล้ำลงไปในคลอง ทำให้กีดขวางการระบายน้ำในคลอง ลำคลองคับแคบ ตื้นเขิน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม โดยมีชุมชนจำนวน 38 ชุมชน บ้านเรือนประมาณ 6,386 หลัง ปลูกสร้างอยู่ริมคลองเปรมประชากรทั้งในเขตกรุงเทพฯ และ จ.ปทุมธานี ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร
‘บ้านมั่นคงคลองเปรม–คลองลาดพร้าว’
ในปี 2562 รัฐบาลมีแผนพัฒนาพื้นที่ริมคลองเปรมประชากรต่อจากคลองลาดพร้าว โดยมอบหมายให้กรุงเทพมหานคร และกรมโยธาธิการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเพื่อให้การระบายน้ำในคลองเปรมประชากรมีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องมีการรื้อย้ายบ้านเรือนหรือขยับบ้านเรือนให้พ้นแนวก่อสร้างเขื่อนฯ
ขณะที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ หรือ ‘พอช.’ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐบาลมอบหมายให้จัดทำแผนงานรองรับที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ต้องรื้อย้ายบ้านเรือน โดย พอช.สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยตามแนวทาง ‘บ้านมั่นคง’ เพื่อให้ชาวชุมชนอาศัยอยู่ในที่เดิมได้ ไม่ถูกไล่รื้อ โดยขยับบ้านให้พ้นแนวคลองและแนวก่อสร้างเขื่อน ฯ เพื่อสร้างบ้านใหม่ โดยกรมธนารักษ์ที่ดูแลที่ดินราชพัสดุริมคลองให้ชาวบ้านเช่าที่ดินในอัตราผ่อนปรน เปลี่ยนจากชุมชน ‘บุกรุก’ เป็นอยู่อาศัยโดยถูกกฎหมาย รวมทั้งหมด 38 ชุมชน ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ จ.ปทุมธานี รวม 6,386 ครัวเรือน
เริ่มดำเนินการในช่วงต้นปี 2563 โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธียกเสาเอกสร้างบ้านหลังแรกที่ชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจุตจักร โดย พอช. สนับสนุนกระบวนการรวมกลุ่มเพื่อแก้ไขปัญหา สนับสนุนงบพัฒนาสาธารณูปโภคส่วนกลาง อุดหนุนการสร้างบ้าน และสินเชื่อไม่เกิน 360,000 บาทต่อครัวเรือน ดอกเบี้ยต่ำ ระยะเวลาผ่อนชำระ 20 ปี
ปัจจุบัน พอช.ดำเนินโครงการบ้านมั่นคงชุมชนริมคลองเปรมประชากรในพื้นที่ 10 ชุมชน จำนวน 1,159 ครัวเรือน ก่อสร้างบ้านเสร็จและชาวบ้านเข้าอยู่อาศัยแล้ว 844 ครัวเรือน ส่วนที่เหลือกำลังดำเนินการ
ส่วนคลองลาดพร้าว เป็นคลองแรกที่รัฐบาลดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เริ่มในปี 2559 โดยกรุงเทพมหานครรับผิดชอบก่อสร้างเขื่อนระบายน้ำคอนกรีต ระยะทาง 2 ฝั่งคลอง ความยาวประมาณ 45 กิโลเมตร (จากเขตวังทองหลางถึงสายไหม) และ พอช. ดำเนินโครงการบ้านมั่นคงชุมชนริมคลองลาดพร้าว รวม 50 ชุมชน จำนวน 7,069 ครัวเรือน
ปัจจุบันก่อสร้างบ้านเสร็จ จำนวน 3,553 ครัวเรือน ใน 35 ชุมชนในพื้นที่ริมคลองลาดพร้าว 7 เขต คือ วังทองหลาง ห้วยขวาง จตุจักร บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง และสายไหม
รายงานโดย จิราวรรณ หนำคอก สำนักพัฒนาที่อยู่อาศัยขุมชนริมคลอง สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)