เช้าวันนี้ (14 พ.ค.66) กาย สมพร ธรรมมะ เยาวชนดาราอางบ้านนอแล แต่งตัวด้วยชุดประจำเผ่าของตัวเอง และได้ติดตามเพื่อนของเขา ยอง คำแสน และ น.ส.โนน จองสาม เพื่อไปเลือกตั้งเป็นครั้งแรก ที่หน่วยเลือกตั้ง 14 เขตเลือกตั้ง 7 ณ ศาลาอเนกประสงค์หมู่บ้าน ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ หน่วยเลือกตั้งที่อาจจะเป็นจุดที่สูงที่สุดของประเทศบนดอยผ้าห่มปก เขตแดนระหว่างประเทศไทย-เมียนมา ซึ่งหากเราอยู่ที่จุดสูงสุดของชุมชนจะมองไปเห็นประเทศเพื่อนบ้านได้ เพราะอยู่ไม่ไกล
โนน จองสามและยอง คำแสง เป็น first time voter ในวัย 30 ปี และ 27 ปี เนื่องจากพวกเธอเพิ่งหลุดพ้นจากการเป็นผู้ไร้สถานะทางบุคคล ไร้สัญชาติ การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ได้ใช้สิทธิในการเลือกตั้งผู้แทนราษฏร (ส.ส.) ทั้งสองคน ดีใจมาก เพราะรอคอยมาทั้งชีวิต ครั้งหนึ่งอยากใช้สิทธิ ใช้เสียง ในการเลือกผู้แทนที่ดีมาพัฒนาบ้านเมือง จากที่ไม่เคยมีโอกาส
‘รู้สึกดีใจมาก เป็นครั้งแรกที่ใช้สิทธิเลือกตั้ง และต้องเลือกคนที่ใช่ที่สุดสำหรับพัฒนาประเทศไทย’
โนนเล่าให้กายฟังด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแกมดีใจว่าก่อนหน้านี้เธอเคยรู้สึกอิจฉาคนอื่นที่ได้มีสิทธิเลือกตั้ง รู้สึกน้อยใจที่ตัวเองไม่มีสิทธิเหมือนคนอื่น เธอเพิ่งได้รับสัญชาติเมื่อปี พ.ศ. 2565 หลังจากที่ยื่นเอกสารของสัญชาติไปเมื่อปี พ.ศ. 2560 เป็นการรอคอยที่ยาวนาน เธอฝากให้รัฐบาลชุดใหม่กับนายกคนใหม่ ดูแลเรื่องปากท้องของพี่น้องชาติพันธุ์ดาราอาง และคาดหวังว่ากลุ่มชาติพันธุ์จะมีสิทธิเท่าเทียมกับคนทั่วไป และอยากให้เร่งรัดเวลาในการสำรวจสิทธิสถานะบุคคลให้เร็วกว่านี้
“ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้รับสิทธิในการเลือกตั้ง รู้สึกดีใจที่ได้มีสิทธิเท่าเทียมกับคนอื่น“
นี่คือเสียงสะท้อนของยอง เพราะก่อนหน้านี้ถือบัตรบุคคลบนพื้นที่สูง และได้ยื่นขอสัญชาติในปี พ.ศ.2561 จนได้รับอนุญาตปี พ.ศ. 2565 เช่นเดียวกันที่เธอหวังว่าพี่น้องชาติพันธุ์จะมีสิทธิเท่าเทียมกับคนอื่น และมีการเร่งรัดเรื่องของหลายเลข 13 หลักให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ให้เร็วขึ้น และอยากให้แรงงานชาติพันธุ์ได้รับค่าแรงตามอัตราค่าแรงขั้นต่ำ เพราะที่ผ่านมาการไม่มีสถานะทำให้พวกเขาไม่ได้รับค่าแรงเท่าคนอื่น
ด้านกายที่ได้ชวนเพื่อนมาจับตาเลือกตั้งตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงการปิดหีบจนนับคะแนน เพื่อสอดส่องดูแลการเลือกตั้งให้มีความโปร่งใส และหวังว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าเขาจะมีสิทธิในการลงคะแนนเสียงเหมือนเพื่อนๆ เพราะตอนนี้กายอยู่ระหว่างการยื่นของสัญชาติ กายหวังว่าจะมีสิทธิในการเลือกผู้นำของตัวเอง และสามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเดินทาง การศึกษาต่อ การเข้าถึงสาธารณสุข จะช่วยเปิดโอกาสทางอาชีพช่วยทำให้เขาไปได้ถึงความฝันและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ขณะที่กายกำลังจับตาเลือกตั้งในวันนี้ และกำลังรอที่จะได้รับสัญชาติ แต่คนอีกประมาณ 983,994 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคเหนือ
- เชียงใหม่ (161,567 คน)
- เชียงราย( 132,515 คน)
- ตาก (137,410 คน )
- แม่ฮ่องสอน(44,731 คน)
ซึ่งรวมๆกันแล้วราว 476,223 คน หรือประมาณร้อยละ 48.4 ของผู้รัฐไร้สัญชาติทั่วประเทศ และคนอื่น ๆ พวกเขาหวังว่าสักวันจะได้มีสิทธิเลือกตั้ง และเป็นบุคคลคลมีสิทธิสถานะทางกฎหมายเหมือนคนอื่นในประเทศไทย
รายงานการเลือกตั้งโดยกาย สมพร ธรรมมะ