วันเสาร์ที่ 29 เมษายน 2566 ณ สถาบันการเงินชุมชนบ้านบ่อลูกรัง ตำบลคลองหินปูนอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว
เวทีสรุปบทเรียนการพัฒนาตำบลต้นแบบมิติคนมีคุณภาพ มีผู้เข้าร่วมได้แก่ แกนนำองค์กรชุมชน เจ้าหน้าที่สำนักพัฒนานวัตกรรมชุมชนจัดการความรู้และสื่อสาร เจ้าหน้าที่สำนักงานภาคกรุงเทพปริมณฑล และภาคีวิชาการวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ จำนวน 20 คน
นางสาวพัชรลดา จุลเพชร หัวหน้างานพัฒนาองค์ความรู้ กล่าวที่มาที่ไปวัตถุประสงค์การจัดเวที จากนั้น รองศาสตราจารย์ ดร.สุภาวดี ขุนทองจันทร์ ชวนชาวบ้านพูดคุยแบบเป็นกันเอง ประกอบด้วย ข้อมูลที่ไป ความโดดเด่นของพื้นที่ รูปแบบโครงการกิจกรรมการดำเนินงาน กลไกการขับเคลื่อน ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความสำเร็จ อุปสรรคปัญหาและวิธีการแก้ไข เครือข่ายการทำงาน สุดท้ายภาพฝันในอนาคต
วันนี้นายละอองดาว ลีลาน้ำเที่ยง หรือผู้ใหญ่ละอองดาวและแกนนำสำคัญที่เข้าร่วม เล่าให้ฟังเรื่องการบริหารทุนภายในของตำบล ตำบลคลองหินปูนประกอบด้วย 16 หมู่บ้าน แต่ละหมู่บ้านต่างมีกองทุนของตนเอง กองทุนสวัสดิการชุมชน กองทุนฌาปนกิจ กองทุนหมู่บ้าน เงินประชารัฐ ดอกเบี้ยของกองทุนนำมาเป็นเงินสิทธิประโยชน์ ใช้ซ่อมแซมถนน ระบบประปา เมื่อมีปัญหาที่ต้องดำเนินการแก้ไขเพื่อช่วยเหลือสมาชิกในชุมชนสามารถดำเนินการได้ทันที ขอแค่มีมติที่ประชุม หากรอหน่วยงานอาจต้องผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างระบบเอกสารทำให้ล่าช้า ไม่ทันแก้ไขความเดือดร้อนให้สมาชิกในชุมชน สถาบันการเงินมีความพร้อมจะอำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารต่าง ๆ ให้กับสมาชิก
“ระบบการบริหารการเงิน คือ ความซื่อสัตย์ หากหมู่บ้านมีทุนที่เข้มแข็ง ยามลำบากช่วยเหลือจุนเจือกันได้” นายสุด มากจันทึก ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลคลองหินปูนกล่าว ซึ่งมีความสอดคล้องกับคำบอกเล่าของแกนนำที่เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อสม. นักบริบาลชุมชน คนทำงานตัวจริงในพื้นที่ แม้หลายคนออกตัวว่าคุยไม่เก่ง แต่เป็นผู้รู้ข้อมูลข้อเท็จจริงของสมาชิกในชุมชน บางคนเริ่มแรกเข้ามาบริหารเงินกองทุนของหมู่บ้านอาจถูกดูแคลนว่าจะบริหารเงินจำนวนมากได้หรือไม่ จากผลงานพิสูจน์แล้วว่าทำได้ดี เกิดเป็นความไว้วางใจ สร้างความเชื่อถือในปัจจุบัน
“คน คือ หัวใจสำคัญ ระบบกลุ่มย่อย ตำบลมีการทำข้อมูล GIS ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ การบริหารกองทุน มีหลักคิดว่าทำอย่างไรให้มีเงินเพิ่มเปรียบเทียบว่าหากเงิน 1 บาท จะหาเพิ่มขึ้นอีก 20 สตางค์ การสื่อสารส่งผลงานใน line กลุ่ม ใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารงาน หากิจกรรมทำอย่างต่อเนื่อง บริหารงานเพื่อดูแลสมาชิกในชุมชน การแบ่งบทบาทให้คนำทงานเป็นมีพระเอก นางเอกในพื้นที่ การตรวจสอบอย่างเสริมพลังจากตัวแทนหมู่บ้านใกล้เคียง การให้กำลังใจและดูแลคนทำงาน การส่งต่องานให้คนรุ่นใหม่ การทำงานโดยใช้ฐานข้อมูล” ผู้ใหญ่ละอองดาว กล่าวสรุปความคิดที่ตกผลึกผ่านการทำงานที่ผ่านมา จากประสบการณ์ที่ตนเองได้เป็นกลไกการทำงานในระดับตำบล จังหวัด ประเทศ ในปัจจุบัน
ช่วงท้าย นางสาวกรรณิการ์ เมืองแก้ว หัวหน้างานวิชาการภาคกรุงเทพปริมณฑลและตะวันออก แลกเปลี่ยนว่าได้เห็นพัฒนาการของพื้นที่ ความสามารถในการทำงานเชื่อมโยงบูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ การพัฒนาคนรุ่นใหม่ขึ้นมาทำงาน เป็นพื้นที่เข้มแข็งรูปธรรมการสร้างแรงบันดาลใจให้กับพื้นที่อื่น ๆ ด้วย
รายงานโดยสำนักพัฒนานวัตกรรมชุมชนจัดการความรู้และสื่อสาร
ภาพ โดยสำนักงานภาคกรุงเทพปริมณฑลและตะวันออกและคนรุ่นใหม่ในชุมชน
author
