2 6 ชั่วโมงแห่งความตึงเครียด…. เหตุเกิดที่บ้านมั่นคงชุมชนเลียบคลองสอง

2 6 ชั่วโมงแห่งความตึงเครียด…. เหตุเกิดที่บ้านมั่นคงชุมชนเลียบคลองสอง

รถพยาบาลนำผู้ก่อเหตุที่ได้รับบาดเจ็บจากการบุกเข้าไประงับเหตุในบ้านพักชุมชนบ้านมั่นคงเลียบคลองสองออกมาส่ง รพ.  เมื่อเที่ยงวันนี้ (15 มีนาคม)  ยุติเหตุระทึกขวัญที่ยาวนานกว่า 26 ชั่วโมง                                                        

เสียงปืนนัดแรกดังมาจากบ้านหลังหนึ่งในชุมชนบ้านมั่นคงเลียบคลองสอง  ซอยจิระมะกร  เขตสายไหม  กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 10 นาฬิกาเศษของวันที่ 14 มีนาคม   สร้างความแตกตื่นให้กับชาวชุมชน   บางคนกำลังกินข้าวมื้อสายด้วยความเอร็ดอร่อยต้องวางมือจากจานข้าว  เพื่อออกมาดูเหตุการณ์ที่หน้าบ้าน…

หลังจากนั้นเสียงปืนยังดังติดต่อกันอีกหลายนัด  ทำให้เกิดความโกลาหลไปทั้งชุมชน  บ้างรีบจูงลูกหลานเข้าบ้าน  แล้วปิดประตูแน่นหนา   บ้างออกมาสอบถาม  เสียงตะโกนโหวกเหวกดังลั่นไปทั้งชุมชน !!

ไม่นานเสียงไซเรนจากรถยนต์ปิกอัพของอาสาสมัครกู้ภัยที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุก็มาถึงก่อน  ติดตามด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม  หลังจากนั้นกองทัพสื่อมวลชนที่ทราบเหตุ  และ  ‘หน่วยอรินทราช 26’  หน่วยปฏิบัติการพิเศษจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติหลายสิบนายได้เดินทางมายังจุดที่เกิดเหตุ

ตลอดช่วงเย็นวันที่ 14 มีนาคม  เจ้าหน้าที่พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมกับผู้ก่อเหตุ  ใช้เพื่อน  ใช้นักจิตวิทยา  และครอบครัว….แต่ไม่เป็นผล   และแม้จะใช้แก๊สน้ำตายิงเข้าใส่บ้านพัก  แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่จำนน  ยังใช้ปืนยิงตอบโต้ออกมาเป็นระยะๆ  จนล่วงเข้าสู่เช้าวันที่ 15 มีนาคม… 

จนถึงเวลาประมาณเที่ยงวัน  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบุกเข้าไปชาร์จในบ้าน  มีการยิงปะทะกัน  เสียงปืนดังสนั่นกว่า 10 นัด  เหตุการณ์จึงยุติลง  ผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส  ถูกนำส่งโรงพยาบาล  เหตุการณ์ระทึกขวัญกว่า 26 ชั่วโมงจึงยุติลง… !!

2
ควันแก๊สน้ำตาที่เจ้าหน้าที่ใช้ระงับเหตุ  แต่ไม่เป็นผลจึงต้องบุกเข้าชาร์จ (ภาพจากเพจอีจัน

บ้านมั่นคงของคนริมคลองลาดพร้าว

ชุมชนบ้านมั่นคงเลียบคลองสอง  เป็นโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยโครงการ 1 ใน 50  ชุมชนที่อาศัยอยู่ริมคลองลาดพร้าว  เขตสายไหม  เดิมชุมชนแห่งนี้ตั้งอยู่ริมคลองลาดพร้าวใกล้กับกองทัพอากาศดอนเมือง  และอยู่ไม่ไกลจากตลาดยิ่งเจริญสะพานใหม่มากนัก  สภาพเป็นชุมชนแออัด  ปลูกสร้างบ้านเรือนเรียงรายในพื้นที่ริมคลองซึ่งเป็นที่ดินราชพัสดุ  กรมธนารักษ์ดูแล  และบางส่วนปลูกสร้างรุกล้ำลงไปในคลอง

ในปี 2559  รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีโครงการป้องกันน้ำท่วมในกรุงเทพฯ  เพราะเคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2554   สาเหตุหลักส่วนหนึ่งมาจากการระบายน้ำในคลองสายหลักในกรุงเทพฯ ไม่มีประสิทธิภาพ  เนื่องจากมีสิ่งปลูกสร้าง  บ้านเรือนรุกล้ำคูคลอง

รัฐบาล คสช.มอบหมายให้กรุงเทพมหานครดำเนินการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเพื่อให้การระบายน้ำในคลองมีประสิทธิภาพ  เริ่มดำเนินการแห่งแรกในคลองลาดพร้าว   และมอบหมายให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)  หรือ ‘พอช.’ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์   จัดทำแผนงานรองรับที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ปลูกสร้างบ้านเรือนรุกล้ำลำคลอง

3
สภาพบ้านเรือนที่รุกล้ำคลอง (ชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ) ย่านสายไหม  ก่อนการพัฒนา

พอช. ใช้แนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองตามแนวทาง ‘บ้านมั่นคง’  ที่พอช.ใช้แก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศมาตั้งแต่ปี 2546  โดยมีหลักการสำคัญ  คือ  “ให้ชาวชุมชนที่เดือดร้อนเป็นแกนหลักในการแก้ไขปัญหา”  พอช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีบทบาทเป็นฝ่ายสนับสนุน

เช่น  สนับสนุนกระบวนการรวมกลุ่ม  จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อออมเงินเป็นรายเดือน  เพื่อเป็นทุนในการพัฒนาที่อยู่อาศัย  ฝึกการบริหารจัดการการเงิน  จัดตั้งสหกรณ์ขึ้นมาบริหารโครงการ   สนับสนุนงบประมาณก่อสร้างบ้าน (บางส่วน) งบพัฒนาสาธารณูปโภคส่วนกลาง  สินเชื่อก่อสร้างบ้าน  ซื้อที่ดิน (กรณีอยู่ในที่ดินเดิมไม่ได้)  หากอยู่ในชุมชนเดิมได้  กรมธนารักษ์ในฐานะดูแลพื้นที่ราชพัสดุริมคลองจะให้เช่าที่ดินในระยะยาว (ระยะแรก 30 ปี)  ในอัตราผ่อนปรน

ในเดือนเมษายน 2559  ชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ  เขตสายไหม  (ตรงข้ามตลาดยิ่งเจริญ)  จำนวน 64 ครอบครัว  เข้าร่วมโครงการ ‘บ้านมั่นคงคลองลาดพร้าว’ เป็นชุมชนแรก  โดยรื้อย้ายบ้านเรือนออกจากพื้นที่ริมคลองเพื่อก่อสร้างบ้านใหม่   โดยมีพลเอกประวิตร  วงษ์สุวรรณ  รองนายกฯ ในขณะนั้น  เป็นประธานในพิธียกเสาเอก

หลังสร้างบ้านเสร็จในช่วงต้นปี 2560  ชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญมีสภาพสวยงาม  เปลี่ยนจากชุมชนบุกรุกเป็นชุมชนเช่าที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  มีหน่วยงานต่างๆ  เข้ามาส่งเสริมเรื่องอาชีพ  การจัดการน้ำเสีย  กำจัดขยะ  ปลูกต้นไม้  มอบเครื่องออกกำลังกายให้ชุมชน  ฯลฯ  ทำให้ชุมชนต่างๆ  เห็นเป็นแบบอย่างและทยอยเข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคง

4
พลเอกประวิตร  รองนายกฯ  เป็นประธานพิธียกเสาเอกสร้างบ้านชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญในเดือนเมษายน 2559

เช่นเดียวกับชาวชุมชนเลียบคลองสอง (คลองลาดพร้าว) ที่อยู่เยื้องกับชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ  มองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น  และอนาคตที่ดีกว่าเดิมของลูกหลานและครอบครัวจึงเข้าร่วมโครงการ  มีการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อเป็นทุน   ออมเงินกันอย่างน้อย 500-1,000 บาทต่อเดือน  ใครมีมากก็ออมมาก

แต่เนื่องจากชุมชนเลียบคลองสองเป็นชุมชนใหญ่  มีชาวบ้านอยู่อาศัยเกือบ 300 ครอบครัว  เมื่อรื้อบ้านออกจากแนวคลองแล้ว  พื้นที่ชุมชนเดิมไม่เพียงพอที่จะอยู่อาศัยได้ทั้งหมด  ชาวชุมชนจึงรวมกลุ่มกันไปหาที่ดินแปลงใหม่  ไม่ไกลจากชุมชนเดิมมากนัก  ได้ที่ดินเปล่าในซอยจิระมะกร  เขตสายไหม  เนื้อที่ประมาณ  10 ไร่เศษ  ราคาประมาณ 50 ล้านบาท  รองรับชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 280  ครอบครัว

โดย พอช.สนับสนุนสินเชื่อซื้อที่ดินและงบประมาณก่อสร้างบ้าน  (บางส่วน)  และสาธารณูปโภคส่วนกลาง  เช่น  ถนน  ระบบประปา  ไฟฟ้า  ฯลฯ  ชาวบ้านใช้สินเชื่อเฉลี่ยครัวเรือนละ  330,000  บาท  ผ่อนชำระประมาณเดือนละ 2,900 บาท  ระยะเวลา 20 ปี   และได้ร่วมกันจดทะเบียนเป็น ‘สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงเลียบคลองสามัคคีจำกัด’  เพื่อก่อสร้างบ้านและบริหารสหกรณ์

เริ่มก่อสร้างบ้านในปี  2560  เป็นบ้านแถว 2 ชั้น  ขนาด 4 X 6 ตารางเมตร   ก่อสร้างบ้านเสร็จทั้ง 280 หลังในเดือนเมษายน 2562  หลังจากนั้นชาวบ้านจึงทยอยเข้าอยู่อาศัย  เปลี่ยนสภาพจากชุมชนแออัดบุกรุกริมคลอง  มีบ้านใหม่ที่มั่นคง  สวยงาม  ลูกหลานมีที่วิ่งเล่น  ฯลฯ

5
สภาพชุมชนเลียบคลองสองในปัจจุบัน  รวม 280 หลัง/ครอบครัว

เสียงจากชาวชุมชนเลียบคลองสอง…
ก่อนยุติเหตุระทึกขวัญ 
!!

นางทัศนีย์  พุฒแก้ว  ประธานชุมชนบ้านมั่นคงเลียบคลองสอง  บอกว่า  ชาวบ้านทั้งชุมชนมีทั้งหมดประมาณ 500  คน  ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป   เป็นพนักงานบริษัท    ทำงานนอกชุมชน  และค้าขายเล็กๆ น้อย    อยู่กันด้วยความสงบสุขมาตลอด  ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา  ชุมชนได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก พอช.  ทำครัวกลาง  แจกจ่ายอาหารช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ

ส่วนตำรวจนายที่ก่อเหตุไม่ได้มีสิทธิ์ในบ้านมั่นคง  แต่เป็นเพื่อนกับเจ้าของบ้าน  ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเจ้าของบ้านหลังนี้ไปเปิดอู่ซ่อมรถที่ต่างจังหวัด  บ้านจึงว่าง  เพื่อนตำรวจรายนี้และอีกคนที่เป็นตำรวจ สน.วิภาวดี  ได้มาขออยู่อาศัย  อยู่มาได้ประมาณ 1 ปีเศษ

นางสาววิริยาณัฐ  สุดโท  เจ้าหน้าที่สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงเลียบคลองสองฯ   บอกว่า  เมื่อวาน (14 มีนาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นเขตไม่ให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเข้าไปที่บ้านเพื่อป้องกันเหตุร้าย   เมื่อคืนมีชาวบ้าน 2 ครอบครัวที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุมานอนพักอยู่ที่ทำการสหกรณ์ซึ่งห่างออกมาประมาณ 100 เมตร  ในจำนวนนี้มีเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเกาะ 1 ราย  เรียนระดับประถม  วันนี้ (15 มีนาคม) ไม่สามารถไปโรงเรียนได้  เพราะชุดนักเรียน  กระเป๋าหนังสืออยู่ในบ้าน  ไม่ได้เอาออกมา

นอกจากนี้ยังมีแม่ค้าขายผัก 1 คน  ไม่สามารถออกไปขายผักที่ตลาดได้  รวมทั้งเมื่อคืนมีชาวบ้าน 2 ครอบครัว  ต้องออกไปเช่าห้องพักชั่วคราวอยู่นอกชุมชน  ส่วนครอบครัวอื่นๆ ไปอาศัยนอนกับเพื่อนบ้าน  รวมแล้วมีชาวบ้านได้รับผลกระทบประมาณ 20 ครอบครัว

“ชาวบ้านอยากจะให้เหตุการณ์จบเร็วๆ เพราะหลายคนยังไม่ได้นอนหลับพักผ่อน  หลายคนออกไปทำมาหากิน  นอกบ้านไม่ได้  เพราะเข้าไปเอาของไม่ได้   นักเรียนก็ไม่ได้ไปเรียน  บางคนไม่ได้ไปสอบ    เจ้าหน้าที่เขตสายไหมบอกว่า  ถ้าเย็นนี้   เหตุการณ์ยังไม่จบ  จะให้ชาวบ้านที่เข้าบ้านไม่ได้ไปนอนที่โรงเรียนประชานุกูลที่อยู่นอกชุมชนก่อนเป็นการชั่วคราว”  เจ้าหน้าที่สหกรณ์รายนี้บอก

ล่าสุดวันนี้ (15 มีนาคม) เวลาประมาณ  12 นาฬิกาเศษ   หลังการเจรจาเพื่อยุติเหตุไม่เป็นผล  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบุกเข้าไปชาร์จในบ้าน  มีการยิงปะทะกัน  เสียงปืนดังสนั่นกว่า 10 นัด  เหตุการณ์จึงยุติลง  ผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส  ถูกนำส่งโรงพยาบาลภูมิพล  เหตุการณ์ระทึกขวัญนานกว่า 26 ชั่วโมงจึงยุติลง… !!

6
เจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่  ก่อนเหตุระทึกขวัญจะยุติลง (ภาพจากเว็บไซต์คมชัดลึก)

ความห่วงใยจากกระทรวง พม.-พอช.

          นับจากเหตุการณ์ตึงเครียดตั้งแต่เมื่อวาน   นายจุติ  ไกรฤกษ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)  และผู้บริหารกระทรวง พม.  มีความห่วงใยผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง  เช่น  ผู้สูงอายุ  ผู้ป่วยติดเตียง  และเด็ก  จึงให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ หรือ พอช.ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

7
นายกฤษดา   ผอ.พอช. เยี่ยมชาวชุมชนบ้านมั่นคงเลียบคลองสอง

               โดยในวันนี้ (15 มีนาคม)  เวลาประมาณ 13,30 น. นายกฤษดา  สมประสงค์  ผู้อำนวยการ พอช.  และคณะเจ้าหน้าที่ พอช.ได้เยี่ยมสมาชิกในชุมชนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ  ผู้ป่วยติดเตียง  และผู้เปราะบางในพื้นที่   เพื่อให้กำลังใจ  และสอบถามชีวิตความเป็นอยู่

ขณะที่ชาวชุมชนได้สอบถามเรื่องสวัสดิการผู้สูงอายุ   บางคนเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่มีรายได้  และเข้าไม่ถึงการบริการของรัฐที่ทันท่วงที   โดย ผอ.พอช.  กล่าวกับชาวชุมชนว่า  พอช.พร้อมที่จะให้การสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องของชาวชุมชนในทุกมิติต่อไป

ทั้งนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ  มีโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนกลุ่มเปราะบาง  เช่น  ผู้สูงอายุ  ผู้ป่วยติดเตียง   แม่เลี้ยงเดี่ยว  ผู้มีปัญหาทางสังคม  ผู้ที่มีรายได้น้อย  การส่งเสริมอาชีพ  ฯลฯ  ขณะที่ พอช.ก็มีการสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนเพื่อดูแลสมาชิกในชุมชนตั้งแต่เกิดจนถึงตาย

8
ผอ.พอช.. (ที่ 5 จากซ้าย)  และคณะกรรมการชุมชนบ้านมั่นคงฯ
9

เรื่องและภาพ :  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ