มิติใหม่กับเด็กสื่อใหม่จากบทละครวิทยุในชั้นเรียนสู่ละครเวที NMC

มิติใหม่กับเด็กสื่อใหม่จากบทละครวิทยุในชั้นเรียนสู่ละครเวที NMC

การกลับมาของละครเวทีอีกครั้ง เมื่อสาขาการสื่อสารสื่อใหม่ของเรา ทำงานบนเทคโนโลยีที่ท้าทายและเกิดเหตุการณ์ขึ้นแทบจะทุกวัน แน่นอนต้องมีสิ่งที่พร้อมผุดขึ้นมาได้ลุ้นและตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา รวมถึงได้รับหน้าที่ในครั้งนี้โดยการทำละครเวทีเป็น Final Project ซึ่งนับว่าเป็นงานใหญ่พอสมควรเพราะต้องทำงานสานสัมพันธ์ระหว่างน้องปี 2 กับพี่ปี 3 เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นบททดสอบในการออกทำงานจริงเลยก็ว่าได้

จุดเริ่มต้นการเกิดละครเวที

    เริ่มจากเป็นบทละครวิทยุที่มีแต่เสียงบ่งบอกอารมณ์เรื่องราวทุกอย่างของเรื่อง ซึ่งอยู่ในรายวิชาการสร้างเสียงประกอบของนิสิตปี2 กลับต้องได้เพิ่มบทพัฒนาขึ้นมาเป็นละครเวทีที่พร้อมทั้งภาพและเสียงอย่างชัดเจนโดยละครเวทีของเราจะมีด้วยกัน 2 เรื่อง 2 สไตล์และ 2 อารามณ์ นั่นคือ เรื่องส้มตำกลับใจ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวที่หัวรั้นไม่ฟังใคร อยู่มาวันหนึ่งกลับมีจุดทำให้ชีวิตของเธอนั้นเปลี่ยนไป และอีกเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เรื่องไข(Who) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ การไขคดีลับของนักเรียนทั้ง 5 คน สืบหาความจริงเรื่องผอ.ที่โดนกล่าวหาว่าฆ่าเพื่อนสาวตัวเองเพื่อแย่งผู้ชายกัน

วันแรกของการเริ่มซ้อมละคร

    วันแรกเราเริ่มหาตัวนักแสดงที่เข้ากับบุคลิกหรือนิสัยของตัวละครจริงๆ แต่ที่ยากกว่าการหาตัวนักแสดงคือต้องหาคนพากย์เสียงให้เข้ากับอารมณ์ของนักแสดง เพราะละครเวทีในครั้งนี้กลับมีความแปลกใหม่ ที่ต้องแยกระหว่างคนแสดงกับคนพากย์ โดยที่นักแสดงที่อยู่บนเวทีไม่สามารถพูดบทตัวเองออกมาเป็นเสียงได้ต้อง lip sync หรือทำรูปปากตามเสียงคนพากย์เท่านั้น รวมถึงการทำเสียง Foley ต้องทำตามกิริยาท่าทางการแสดงออกของนักแสดงไม่ว่าจะเป็นการทำเสียงเดิน เสียงวิ่งตามตัวละคร กว่าจะหาตัวนักแสดงและตกลงแบ่งหน้าที่กันลงตัวทุกอย่างต้องใช้เวลาในการหาทางออก เราคุยกันด้วยเหตุผลมากกว่าอารมณ์

เมื่อเราได้รับหน้าที่นั้นมาทุกฝ่ายต่างทำตามหน้าที่ของตัวเองอย่างตั้งใจ ในการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เพื่อนๆในปีเดียวกันที่ต้องพูดคุยงานกันเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน แต่มีรุ่นพี่ที่ต้องมาทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน พวกเราอยู่กันแบบครอบครัวเป็นมิตรต่อกัน น้องเป็นฝ่ายบทและการแสดงพี่เป็นฝ่ายProduction ถ่ายทอดการแสดงออกมาอย่างดีที่สุด จากห้องกว้างๆที่มีแต่เก้าอี้นั่งเรียน กลับกลายมีผู้คนเป็นร้อยอยู่ในนั้นทำงานร่วมกัน

วันเวลาในการซ้อมละครเวที
ถ้าถามถึงวันเวลาที่เราซ้อมและทุ่มเทกันมา เกือบจะ 2 เดือนที่ใช้เวลาอยู่กับบทละครและตัวนักแสดงทุกอย่าง ต้องหาวันและเวลาที่ว่างเพื่อนัดซ้อม หาวันเวลาที่ว่างพร้อมกันว่ายากแล้วเราต้องวุ่นหาห้องซ้อมยิ่งยากกว่าประสานงานกันหัวหมุนเลย ต้องทำการขออนุญาตการใช้ห้อง เพราะของในการทำละครเวทีของเรามีเยอะพอสมควร และแต่ละวันที่เรานัดซ้อมกันเป็นช่วงที่ยังไม่ปิดภาคเรียน หรือมีแค่สาขาเราที่เรียนห้องที่จองซ้อม แน่นอนว่าต้องมีการขนของย้ายไปแต่ละที่ โดยเฉพาะการทำเสียง Foley ของในการทำค่อนข้างเยอะและหนักต้องใช้จำนวนคนเคลื่อนย้าย บางวันถ้าสถานที่ไม่อำนวยความสะดวกจริงๆ เราซ้อมโดยที่ยังไม่มีอุปกรณ์ ให้ทำแค่ท่าทางและจับจังหวะการทำเสียงของนักแสดงไปก่อน เราซ้อมกันแทบจะทุกวันเลยก็ว่าได้

เสาร์อาทิตย์เป็นวันหยุดใครไม่รู้

แต่สำหรับเด็กสื่อใหม่คือวันธรรมดา

ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น
การทำงานไม่ว่าจะงานอะไรก็ตามมักแฝงอุปสรรคไว้อยู่เสมอ อยู่ที่เราจะแก้ไขปัญหานั้นดีแค่ไหน ตอนซ้อมกับวันแสดงจริงเราพบเจอปัญหามากมาย อาจจะมีผิดพลาดโดนติชมบ้าง ทั้งเรื่องของตัวนักแสดงถ่ายทอดอารมณ์ไม่ตรงกับตัวละครแสดงแข็งกระด้าง หรือแทบจะทุกอย่างที่มีปัญหา แต่เราก็ปรับแก้ไขโดยทันที อาจจะไม่ได้ดีมากแต่ทุกคนมีความกระตือรือร้นมีสติแก้ไขปัญหาให้ผ่านมาได้

สิ่งที่ภูมิใจที่สุด
วันแรกที่เราได้รับโจทย์มาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับละครเวทีทุกคนต่างเกิดความเครียดและกังวลขึ้นมา เพราะเราไม่เคยมีประสบการณ์ในด้านนี้มาก่อน ต่างฝ่ายต่างวุ่นสับสนในหน้าที่ตัวเอง รวมถึงดิฉันได้รับโอกาสเป็นตัวนักแสดงรับบทเป็นสมรเพื่อน ผอ. ยอมรับเลยว่าตื่นเต้นและท้าทายมาก อีกอย่างที่ภูมิใจเหมือนได้สานฝันคือ ได้ขับร้องบทเพลงประกอบละครเวที เป็นครั้งแรกที่ร้องแบบจริงจังแล้วอัดเสียง เพลงนั้นออกมาดีมาก ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ ที่เลือกเราได้ทำหน้าที่ในครั้งนี้

วันสุดท้ายเป็นการทำงานที่เราต้องทำงานร่วมกันในภาคเรียนนี้เป็นวันที่ต้องแสดงจริง ทุกคนตั้งใจทำตามหน้าที่ทุ่มเทให้ละครเวทีครั้งนี้อย่างมาก มีอาจารย์คอยให้คำติชมและแก้ไข อีกอย่างขาดไม่ได้เลยคือพี่ตี้กับพี่เอก ที่ช่วยมาคุมเสียงเพลงที่ออกมาไพเราะติดหูมาก การถ่ายภาพรวมไปถึงการถ่ายทอดสด และพี่ๆปี 3 ถึงจะดุบ้างแต่ก็ใจดีตั้งใจถ่ายทอดบทละครออกมาดีมาก

ทุกสิ่งจะไม่เกิดขึ้นและจะไม่ประสบความสำเร็จถ้าทุกคนไม่ร่วมมือกัน ทุกอย่างมีทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังในการทำ ล้วนต้องใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาดแก้ไขสู่ความจริงที่ต้องเผชิญ อาจมีบาดแผลในการทำงานมากมาย แต่เราจะใช้เวลารักษาบาดแผลนั้นไปด้วยกัน การเปลี่ยนแปลงที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เราสามารถที่จะปรับตัวเองให้เข้ากับสภาวะนั้นได้เช่นกัน

จากห้องที่ใช้แค่นั่งเรียนที่อาจมีน้ำตาและรอยยิ้ม

สู่ห้องเก็บความทรงจำของเด็กสื่อใหม่

Have a good memory

สามารถติดตามและรับชมไลฟ์สดย้อนหลังสาขาวิชาการสื่อสารสื่อใหม่ของเราได้ที่นี่ CLICK https://www.facebook.com/studyatNMCUP

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ