ไม่มีอีกต่อไปแล้วการสอบทฤษฎีในห้องสอบแบบเดิมๆ เด็กสื่อใหม่อย่างพวกเราต้องเป็นการสอบปฏิบัติที่ได้มีการลงมือสร้างผลงานสุดปังของจริงกันเท่านั้น
ที่เรานั้นกำลังจะพาทุกๆคนไปรับรู้ถึงขั้นตอนต่างๆของงานสอบFINALครั้งนี้ไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งเบื้องหน้า หรือ เบื้องหลัง และการสอบFINALครั้งนี้นั้น ก็คือ การทำละครเวที ที่พวกเรานิสิตปี2 ทุกคนในsecได้ช่วยกันสร้างมันขึ้นมา โดยsecเรานั้นได้ทำ เรื่องส้มตำกลับใจ
ที่ก่อนหน้านี้นั้นเรื่องนี้เป็นงานละครวิทยุสั้น พวกเราก็ได้มีการแต่งบทเพิ่มเติม เพื่อให้เนื้อหาใจความมีความยาวและน่าสนใจมากขึ้น และไม่ใช่เพียงแค่บทเท่านั้นที่พวกเราได้แต่งเพิ่มกันขึ้นมาเอง ในเรื่องของเพลงประกอบละครเวทีพวกเราก็ได้แต่งขึ้นมาเอง ร้องเอง ทั้งเนื้อเพลง และทำนองเพลง ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เป็นสไตล์ของพวกเราเอง ซึ่งแน่นอนว่าส่วนตัวเราเองนั้นรู้สึกว่าเพื่อนๆทำออกมาได้ดีมากๆ เป็นเพลงที่ฟังแล้วสนุก แถมยังติดหูอีกต่างหาก
และในส่วนของการเตรียมตัวและฝึกซ้อมก่อนขึ้นแสดงวันจริงนั้น พวกเราได้มีการฝึกซ้อมกันเป็นอย่างดี ซึ่งงานนี้ก็มีอาจารย์เป็นผู้คอยจัดหาสถานที่ให้พวกเราได้ซ้อมกัน ได้มีการกำหนดวัน/เวลาในการซ้อมให้ อาจารย์ได้กำหนดให้พวกเราเริ่มซ้อมในสถานที่ที่อาจารย์จัดหามาให้ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ยาวไปจนถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ และมาซ้อมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เพื่อเตรียมตัวแสดงจริงในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ แม้ว่าอาจารย์จะมีกำหนดมาให้และมีวันหยุดพักเสาร์-อาทิตย์ให้ แต่พวกเราเองก็ตั้งใจที่จะฝึกซ้อมกันเป็นอย่างมาก พวกเราได้มีการนัดซ้อมกันนอกสถานที่มาก่อน ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์
เพราะว่าการแสดงละครเวทีนั้นมีความแตกต่างไปจากละครโทรทัศน์ ทุกๆซีน/ฉาก ตัวละครจะต้องเล่นให้สมบทบาท ดังนั้นจึงต้องมีการเล่นใหญ่ เพื่อให้คนดูนั้นได้อรรถรสและสามารถรู้ได้อย่างชัดเจน ว่าตัวละครนี้กำลังทำอะไร ไปที่ไหน และเป็นใครมีความสัมพันธ์อะไรกับใครในเรื่องราวนี้ และที่สำคัญเลยคือไม่ผิดพลาดหรือผิดพลาดให้น้อยที่สุด เพราะเป็นการแสดงสดที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขหรือหยุดการแสดงได้กระทันหันเหมือนกับละครโทรทัศน์ เพราะไม่ได้เป็นการถ่ายวิดีโอเพื่อมาตัดต่อในภายหลังได้ ทุกฝ่ายจึงตั้งมีการฝึกซ้อมเป็นอย่างดี
เพราะไม่ได้มีแค่นักแสดงที่แสดงสดเท่านั้น ในเรื่องของบทพูดพวกเราก็จะมีทีมพากย์เสียง ที่คอยพากย์เสียงสดๆไปพร้อมๆกัน และในเรื่องของเสียงต่างๆที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตัวละครก็ยังมีทีมFoley ที่คอยสร้างเสียงประกอบเพื่อให้บรรยากาศรอบๆมีความสมจริงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียงของการเดิน หยิบจาน ตำส้มตำ ทุกๆเสียงเราใช้เทคนิกการทำเสียงแบบสดๆขึ้นมา และความยากที่สุดเลยก็คือการที่ทุกๆอย่างจะต้องดำเนินไปพร้อมๆกันอย่างมีความสัมพันธ์กัน ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง/ทีมพากย์/Foleyและฝ่ายทำพร็อบสร้างฉากต่างๆ เพื่อให้ละครเวทีครั้งนี้ดูสมจริงและได้อรรถรสแก่ผู้ชมมากยิ่งขึ้น
และไม่ใช่แค่พวกเรานิสิตปี2เท่านั้นที่ได้ลงมือทำงานละครเวทีแบบนี้ ในรายวิชานี้อาจารย์ได้ให้มีการทำงานร่วมกันระหว่างเด็กสื่อใหม่ปี2 และเด็กสื่อใหม่ปี3 โดยพี่ๆปี3 ได้ทำหน้าที่รับผิดชอบในด้านของการถ่ายทอดสดผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก สาขาวิชาการสื่อสารสื่อใหม่ มหาวิทยาลัยพะเยา
เราก็ได้มีการฝึกซ้อมร่วมกันเพื่อที่พี่ๆจะได้รู้มุมกล้องต่างๆ รู้ตำแหน่งของการจัดไฟ การปล่อยคิวต่างๆ เพื่อให้ผู้ชมที่ได้มารับชมในสถานที่จริงและผู้ชมที่รับชมผ่านทางการถ่ายทอดสดได้เห็นภาพการแสดง แสง สี เสียงต่างๆออกมาอย่างสวยงาม ทำให้ละครเวทีนี้ไม่น่าเบื่อและเพิ่มความสนุกยิ่มขึ้นจากการจับภาพมุมกล้องต่างๆของพี่ๆปี3
และที่ขาดไปไม่ได้เลยเหมือนกันก็คือฝ่ายคลอสตูม ที่เป็นคนคอยเนรมิตตัวละครนั้นๆขึ้นมา โดยมีการแต่งหน้า ทำผม สวมใส่ชุดต่างๆ ที่ฝ่ายคลอสตูมเป็นคนคอยจัดการหาทุกอย่างมาให้นักแสดง เพื่อได้สวมบทบาทของตัวละครนั้นๆอย่างสมจริงมากขึ้นในวันแสดงจริง
ซึ่งทุกๆฝ่ายมีความสำคัญมากๆจริงๆ ถ้าขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไป หรือมีการทำงานที่ไม่สัมพันธ์กัน ละครเวทีก็จะไม่มีความสมบูรณ์ได้ขนาดนี้
และทั้งหมดนี้ที่เราได้เล่ามาก็คือผลงานของการสอบFinal ที่ไม่ใช่การสอบในทางทฤษฎีอย่างเดียว แต่เราได้นำทฤษฎ๊ ความรู้ เทคนิคต่างๆที่ได้เรียนในรายวิชานี้มาตลอดทั้งเทอม นำมาลงมือปฏิบัติจริง เพื่อเป็นการฝึกฝนเพิ่มทักษะ พัฒนาฝีมือของแต่ละคนก่อนที่จะออกไปสร้างสรรค์ผลงานของการทำงานในอนาคต