ได้มีโอกาสทำละครเวที นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตเราเลย ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ทำ พอได้ยินก็ตื่นเต้นไม่ไหว รู้สึกมีพลังทำงานเต็มเปี่ยม ตอนนี้เรากำลังเรียนนิเทศศาสตร์ สื่อใหม่ที่ม.พะเยา วิชาที่เราลงเรียน คือวิชาการสร้างเสียงประกอบ SFX ตอนที่อาจารย์พูดว่าจะให้ทำละครเวทีส่งงานFinal เราไม่คิดว่าProductionจะใหญ่ขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานกับคนหมู่มากทั้งสาขา และยังได้ร่วมงานกับพี่ปี3อีก เป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายของเรามาก
ไข WHO ตอน “ เดอะฉำฉา”
ส้มตำกลับใจ
ในสองเรื่องนี้ เราได้ทำเรื่อง ส้มตำกลับใจ จะมีการแบ่งหน้าที่แยกย้ายตามแต่ละฝ่าย ก็จะมี Producer, Director, เขียนบท ผู้กำกับเวที, ผู้กำกับเสียง, Acting coach, เสียงดนตรีประกอบ, Foley,นักพากย์เสียง,ทีมprop, Costume/Make-up and Hair Designer ส่วนพี่ปี3 เป็นฝ่าย Production คอยควบคุมไฟ มุมกล้อง รวมไปถึงการ สตรีมให้ชมผ่านทางfacebookอีกด้วย ทั้งหมดนี้ ปี2และปี3ทำเองทั้งหมดตั้งแต่เขียนบทออกมาไปจนถึงผลิตเป็นผลงานให้ได้ชม และยังได้รับคำแนะนำชี้แนะจากอาจารย์ผู้สอนให้งานผ่านอย่างราบรื่น
เราอยากทำหลายอย่างมาก ทั้งพร๊อพ นักพากย์ ฝ่ายCostume แรกๆเราได้อยู่พร๊อพ แต่พอเพื่อนๆเริ่มซ้อมเริ่มแสดง นักพากย์ไม่พอ เราก็เลยได้พากย์ พอได้ทำเราก็รู้เลยว่า…นี่เป็นหน้าที่ที่เราอยากทำมากที่สุด มันคือการทำด้วยความสมัครใจและอยากทำมากที่สุด เราคิดได้อย่างหนึ่งว่า พอเป็นหน้าที่ที่เราตั้งใจเราอยากทำสิ่งที่ตามมาด้วยไม่แพ้ความอยากทำคือ ความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำ ไม่ว่าจะทำอะไรอยากทำหรือไม่อยากสิ่งที่ควรมีคือความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำต่อหน้าที่ต้องทำ
เราขอพูดถึงในมุมของนักพากย์ นักพากย์ที่ไม่ได้เป็นแค่นักพากย์เพียงอย่างเดียว ในละครเวที ส้มตำกลับใจ เรามีการทำเพลงเสริมเข้าไปด้วย ดังนั้นเเล้ว นักพากย์บางส่วนก็จะได้ทำเพลงที่ช่วยกันคิดค้นขึ้นมา และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ฉันอยากทำมากๆคือการเป็นอัดเสียงร้องเพลงในสตูของเรา555555 ใครว่าร้องเพลงง่าย นั้นไม่จริง ไม่เคยกังวลพากย์เสียงเท่าที่ต้องร้องเพลงเลย เราเคยเห็นนักร้องเขาร้องกันก็นึกว่าจะง่าย พอได้มาทำจริงๆต่างกับสิ่งที่คิดไว้มาก แต่เหนือกว่าอื่นใด คือมันสนุกและท้าทายสุดๆ ถึงจะมีอุปสรรคบ้างในบางครั้งแต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดีจากความช่วยเหลือของเพื่อนๆ และครูผู้ช่วยช่วยพวกเราทำเพลง สอนตั้งแต่กระบวนการคิดจนถึงการทำเพลงสมบูรณ์แบบ ถ้าไม่ได้ครูผู้ช่วยคนนี้ นิสิตแย่แน่ค่ะ555555
ตอนเริ่มพากย์ใหม่ๆเราไม่มั่นใจในเสียงตัวเองเลย มักจะคอยถาม Acting coach เสมอว่า “เสียงโทนนี้ได้ไหม” “สูงไปรึเปล่า” แต่ก็ได้รับคำแนะนำดีๆจากเพื่อร่วมงานหลายคนเลย ไม่ได้พากย์สดแค่ตัวละครตัวเดียว แต่พากย์ถึงสามตัวละคร ซึ่งเสียงที่เราพูดออกมาก็ต้องต่างกัน แยกคาแรคเตอร์ให้ชัดเจน คนดูจะได้ไม่สับสน และไม่ใช่แค่เสียงอย่างเดียวแต่รวมไปถึงการพูด การอ้าปาก อารมณ์ในนํ้าเสียง เราได้ทริคดีๆมาเยอะมากจากการทำละครเวทีในครั้งนี้
นอกจากนี้ฝ่ายอื่นๆก็น่าสนใจไม่แพ้กัน จุดเด่นของเราคือทำFoleyสด คือการเน้นเสียงให้ชัดขึ้น เพิ่มความอรรถรสของการชม เช่น เสียงตำส้มเราอาจจะได้ยินไม่ชัดเลยจะต้องมีFoleyเข้ามาช่วย ไม่ใช่แค่ละครเวทีเท่านั้นที่มี แต่รวมถึงละคร หนัง การ์ตูน ที่ใช้Foley เข้ามาช่วยอีกด้วย ฝ่าย prop ,Costume ก็ไม่สามารถที่จะขาดไปได้ ต้องหาฉากและชุดที่เหมาะกับเรื่องที่จะทำ และเรายังทำฉากในโรงพยาบาลขึ้นเอง เพื่อความสมจริงยิ่งขึ้น
เราซ้อมกันนานมาก กว่าจะได้ตรงตามที่ต้องการ เพราะกว่าทุกอย่างจะลงตัว เราต้องซ้อมด้วยกันทั้งหมดทั้งปี2และปี3 ก็ใช้เวลาหลายวันกันเลยทีเดียว งานจะไม่ราบรื่นหากไม่มีอาจารย์คอยชี้แนะ จะไม่ราบรื่นหากทุกคนไม่ช่วยกัน งานนี้เราได้เห็นความตั้งใจของทุกคนเยอะมาก ทุ่มทุนทั้งแรงกายแรงใจ เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกมั่นใจเวลาออกกล้อง เพราะ เราซ้อมกันมาเยอะมาก555555 เหมือนกับที่ซ้อมทุกขั้นตอน มันทำให้ลดความประหม่าไปได้เยอะเลย ขอขอบคุณอาจารย์ทุกท่านและเพื่อนๆพี่ๆทุกคนที่ช่วยกันทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี มันเป็นโอกาสที่ดีมากที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆและสนุกแบบนี้ NMC สื่อใหม่!!
ไม่ใช่แค่หน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งที่สำคัญ…….แต่ทุกๆหน้าที่มีแสงสว่างในตัวของมันเอง
ตั้งใจและมั่นใจ ในตัวเอง
ติดตามชมละครเวทีของเราได้ที่