กว่าจะมาเป็นละครเวทีที่สมบูรณ์แบบ
เป็นการกลับมาทำละครเวทีกันอีกครั้งหลังจากที่หายไปพักนึง โดยนิสิตสาขาการสื่อสารสื่อใหม่ ทำเอาตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะไม่เคยมีประสบการณ์ในด้านการทำละครเวทีกันมาก่อน การกลับมาของละครเวทีในครั้งนี้มีความท้าทายต่อตัวนิสิตทุกๆคนเป็นอย่างมาก โดยจะต้องอาศัยความรู้และความสามารถทั้งหมดที่เคยได้เรียนมาก่อนหน้านี้ นำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย แต่ก็อาจจะมีหลายๆอย่างที่ต้องใช้การเรียนรู้จากหน้างานหรือการศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยตัวเอง ในทุกๆหน้าที่นั้นล้วนมีความท้าทายรอให้นิสิตได้เผชิญหน้าและรับมือกับมัน ยกตัวอย่างเช่นในด้านของการแสดงเพราะด้วยความที่ละครเวทีนั้นต้องใช้เอนเนอจี้ที่มากกว่าละครทั่วไปเพื่อจะได้สื่ออารมณ์และถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกของตัวละครมาให้แก่ผู้ชมได้ นอกจากการแสดงแล้วก็ยังมีการทำเสียงประกอบที่ทำสดๆหน้าเวทีให้ได้รับชมไปพร้อมๆกับการแสดงหรือที่เรียกกันว่า Foley เป็นการทำเสียงประกอบที่ทำให้ละครเวทีนั้นดูสมจริงมากยิ่งขึ้น เช่น การเดิน การขุดดิน เสียงของตก ฯลฯ และในส่วนของการพากย์เสียงที่เป็นการแยกเสียงพากย์กับตัวนักแสดง การพากย์เสียงเป็นการถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกผ่านเสียงของตัวละครนั้นๆ ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะต้องใช้น้ำเสียงและโทนเสียงที่เหมาะสมกับคาแร็คเตอร์ตัวละคร เพื่อให้ฟังแล้วสามารถเข้ากับตัวละครนั้นๆได้
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเบื้องหน้ายังมีงานเบื้องหลังที่หลายๆคนอาจจะยังไม่เคยรู้จักคนที่ทำเบื้องหลังก็มีความสำคัญพอๆกับเบื้องหน้า อย่างงานเบื้องหลังที่ได้ทำก็ได้ทำในส่วน Prop/Art Director ถามว่างานนี้สำคัญอย่างไรกับการแสดงละครเวที ฉากหรือพร้อบเป็นส่วนสำคัญอย่าหนึ่งที่จะทำให้เรารู้ว่าตัวละครกำลังทำอะไร ที่ไหน หากขาดส่วนนี้ละครเวทีมันก็จะจืดไม่มีอะไรเลย
ในส่วนของพี่ปี 3 ได้รับผิดชอบเกี่ยวกับการ Live Streaming บนสื่ออินเตอร์เน็ต โปสเตอร์โปรโมทละคร
ทั้งหมดนี้จะทำไม่ได้เลยหากทุกคนไม่ร่วมแรงร่วมใจกันทำเป็นการทำละครเวทีครั้งแรกที่ทั้งเหนื่อยและสนุกไปในเวลาเดียวกันการทำละครเวทีครั้งนี้ได้ประสบการณ์มากมายและได้มิตรภาพกลับมาอีกด้วย การที่ละครเวทีครั้งนี้ออกมาดีไม่ได้มีเพียงแต่ตัวนิสิตเท่านั้นยังมีอาจาร์ประจำวิชาทั้ง 3 ท่านคอยให้คำแนะนำ คำติชมในการทำละครครั้งนี้