อยู่ดีมีแฮง : น้องนัท หมอแคนบ้านนา

อยู่ดีมีแฮง : น้องนัท หมอแคนบ้านนา

แคนเป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองชนิดหนึ่งของภาคอีสานของไทย  แคนเป็นเครื่องเป่ามีลิ้นโลหะ เสียงเกิดจากลมผ่านลิ้นโลหะไปตามลำไม้ที่เป็นลูกแคน การเป่าแคนต้องใช้ทั้งเป่าลมเข้าและดูดลมออกด้วย จึงเป่ายากพอสมควรและถือเป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่ให้เสียงไพเราะ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างเสียงประสานได้ในตัวเอง บ่งบอกถึงวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง  

ท่ามกลางอากาศหนาว ของเดือนพฤศจิกายน เสียงแคนลอยดังไปทั่วหมู่บ้าน ปรากฎภาพเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งฝึกเป่าแคนอยู่หน้าบ้านอย่างตั้งใจ พร้อมๆกับรอยยิ้มของคุณยายและน้องสาว เด็กหนุ่มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความฝันในการเป็นหมอแคน  

นัทเล่าให้ฟังว่าก่อนจะมาเป็น หมอแคนนั้น ชีวิตนัทนั้นค่อนข้างลำบาก  “ตั้งแต่เด็กๆ แม่ก็ทิ้งเอาไว้แล้วไปกรุงเทพ ยายได้เลี้ยงเอาตั้งแต่เด็ก ตอนแรกก็ว่าจะเรียน พอดีก็คิดสงสารยายกับตาว่าไม่มีคนอยู่ด้วยอยู่แล้ว ถ้าจะไปเรียนก็ทางบ้านไม่มีคนดูแล ทั้งเรียนด้วยทั้งทำงานด้วย ไม่ทิ้งสักอย่าง ผมก็เลยเลือกเรียนนอกระบบ จะได้มีเวลามาดูแลครอบครัวตรงนี้ด้วยครับ”

นัทต้องตื่นตั้งแต่ตี 1 เพื่อออกมากรีดยาง กว่าจะเสร็จประมาณตี 5 ตอนเที่ยงกินข้าวแล้วไปเลี้ยงวัว ตกเย็นกลับบ้านมาก็หาข้าวกิน อาบน้ำ นอน  เป็นกิจวัตรประจำวันวนไปแบบนี้ทุกๆ วัน

ไม่ทำก็ไม่ได้ครับ เพราะว่าตัวคนเดียวก็ต้องทำเพื่อเป็นการเสริมสร้างให้ตัวเองมีอาชีพทำกินตลอดครับ สู้มาตั้งแต่เด็กเลยครับ แม้ชีวิตของนัทจะต้องทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว แต่มีสิ่งหนึ่งที่เป็นงานอดิเรกและนัทชื่นชอบ นั้นคือการเป่าแคน ทุกครั้งที่ได้ยินราวกับมีมนตร์สะกด ทำให้ลืมความเหน็ดเหนื่อย

“แต่ก่อนก็เห็นแต่คนแก่เป่า เขาว่าถ้าเป่าแคนเป็นจะมีนากิน ผมก็ชอบในเสียงแคนอยู่แล้ว ก็เลยลองเป่าดูครับ ตอนแรกเป้าไม่ได้ ใจนิออกเลยครับ ยาก  แต่เราก็ฝึกฝน หาความรู้ ดูครูบาอาจารย์เยอะๆ ถ้าได้ยินเสียงแคนตามงานต่างๆ ผมก็จะไปฟังเลยครับ ไปฟังคนแก่เขาเป่าแคน”

ในช่วงแรกกว่าจะเล่นแคนได้ ถือว่ายากมากเพราะต้องฝึก การจะใช้ลม ลิ้นและนิ้ว ว่าจะทำยังไงให้มันสัมพันธ์กัน ให้คล้องจองกัน ร่ำเรียนจากครูบาอาจารย์แนะนำ ทำตามยูทูป ดูในโทรศัพท์ สอบถามคนที่รู้ในด้านแคน พยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเรื่อย ๆ

พอมีประสบการณ์มากพอก็เริ่มได้ออกงาน ปัจจุบันน้องนัทรับงานเป่าแคนให้งานหมอลำ “ภูมิใจที่สุดที่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ ทำตามความฝันครับ เป็นงานที่ผมรักครับ แล้วก็หารายได้ให้กับครอบครัวครับ ครั้งละประมาณ 1500 บาท”  ซึ่งเป็นอีกรายได้สำคัญที่เข้ามาหล่อเลี้ยงครอบครัว

“ความสุขที่ภูมิใจว่าเป่าได้ คนเขาเห็นก็ฟ้อนด้วย เรียกว่าภูมิใจ ว่าง่ายๆก็คือเป่าสนุกขนาดนี้ คือคนแก่เห็น เป่าที่เวทีหมอลำ คนเห็นเขาก็ลุกขึ้นเต้นตาม ภูมิใจที่ทำให้คนมีความสุข ให้คนมีรอยยิ้มได้ครับ ผมก็ภูมิใจในตัวเอง”

พอมีประสบการณ์มากพอก็เริ่มได้ออกงาน ปัจจุบันน้องนัทรับงานเป่าแคนให้งานหมอลำ “ภูมิใจที่สุดที่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ ทำตามความฝันครับ เป็นงานที่ผมรักครับ แล้วก็หารายได้ให้กับครอบครัวครับ ครั้งละประมาณ 1500 บาท”  ซึ่งเป็นอีกรายได้สำคัญที่เข้ามาหล่อเลี้ยงครอบครัว

“ความสุขที่ภูมิใจว่าเป่าได้ คนเขาเห็นก็ฟ้อนด้วย เรียกว่าภูมิใจ ว่าง่ายๆก็คือเป่าสนุกขนาดนี้ คือคนแก่เห็น เป่าที่เวทีหมอลำ คนเห็นเขาก็ลุกขึ้นเต้นตาม ภูมิใจที่ทำให้คนมีความสุข ให้คนมีรอยยิ้มได้ครับ ผมก็ภูมิใจในตัวเอง”

ไม่เพียงอยากจะเห็นผู้คนรอบข้างมีความสุข จากการเล่นแคนแล้ว นัทยังตั้งเป้าหมายว่าอยากจะส่งต่อความรู้ให้แก่คนรุ่นหลัง พอแก่ตัวมา ในอนาคตผมก็อยากจะเป็นศุนย์เรียนรู้ให้กับหมู่บ้าน ผมเต็มใจสอน มีรุ่นน้องรุ่นลูก เขาชอบในเสียงแคน ผมก็ยินดีสอนให้ครับ สอนแบบพื้นบ้านเลยครับ อยากให้เสียงแคนอยู่กับมรดกอีสาน ไม่ให้หายไปจากอีสานของเรา ให้อยู่คู่กับคนรุ่นใหม่ไปตลอด เพราะว่าหมอแคนทุกวันนี้ก็หายากครับ

น้องนัท นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจ ที่แหม่ว่าชีวิตจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่ก็เลือกที่จะกำหนดเส้นทางชีวิตของตัวเองได้ ขอแค่เรามีเป้าหมาย และค่อยๆ ทำมันไปที่ละก้าว ในบางครั้งอาจจะมีอุปสรรค จนทำให้เราไปได้ช้ากว่าคนอื่นๆ แต่เชื่อว่าจะเข้าใกล้เป้าหมายไปเรื่อยๆ ในทุกๆวัน ขอแค่ไม่หยุดที่จะลงมือทำ

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ