ลัดเลาะสองฝั่งคลอง ทำความเข้าใจชุมชนริมคลองสำโรง สงขลา

ลัดเลาะสองฝั่งคลอง ทำความเข้าใจชุมชนริมคลองสำโรง สงขลา

คลองสำโรงบริเวณชุมชนหลังการเคหะ

“พวกเขาไม่มีที่นอน ถ้าหากเป็นคนมีเงินก็ไม่มาอยู่กันแบบนี้หรอก แม้แต่ตัวผมเอง ถ้าวันนี้ผมมีเงิน ผมก็ไม่อยู่แบบนี้หรอก”

เสียงสะท้อนจากคนรุ่นแรกที่อาศัยอยู่ริมคลองสำโรง อ.เมืองสงขลา เล่าถึงสภาพความเป็นอยู่ของคนสองฝั่งคลองสำโรงในปัจจุบันที่กลายเป็นชุมชนแออัด แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาเหล่านี้จะมีทางเลือกที่มากนัก

สภาพบ้านเรือนริมคลองสำโรง

คลองสำโรงมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตรเศษ  เชื่อมระหว่างทะเลสาบสงขลากับอ่าวไทย  ในอดีตเป็นร่องน้ำใหญ่ มีความกว้างประมาณ  50  เมตร  เรือสินค้าหรือเรือสำเภาต่างชาติสามารถแล่นผ่านทะเลอ่าวไทยเข้าสู่คลองสำโรงเพื่อไปค้าขายกับเมืองท่าต่าง ๆ ในทะเลสาบสงขลาได้

 “วิถีชุมชนริมคลอง เป็นคนที่มาจากนอกพื้นที่เยอะ พอเริ่มล้น คนก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนก็จำเป็นต้องล้ำไปในเขตคลองนิดหน่อย จะให้พวกเขาทำอย่างไร ก็เขาไม่มีที่นอน อย่างพึ่งไปโทษพวกเขา เพราะถ้าพูดกันตรง ๆ แล้ว หน่วยงานรัฐก็เพิกเฉยเช่นกัน แต่ถ้าเราไปถามสมาชิกชุมชน จะให้ไล่พวกเขาออกก็เกินไป เราก็เห็นใจเพื่อนบ้าน

เมื่อก่อนคลองเส้นนี้น้ำใสสะอาดตลอดสาย เป็นป่าเสม็ด พวกผมก็ไปหาปลากัด ไปช่วยกันซ่อนเพื่อเอามากัดกัน เล่นสนุกกันตามประสาเด็ก โตมาหน่อยก็ออกทะเล เริ่มจากช่วยพายเรือ ฝึกดำน้ำฟังเสียงปลา(ดูหลำ) และปัจจุบันคนที่นี่ส่วนใหญ่ก็ยังคงยึดอาชีพประมงพื้นบ้าน

ในอดีตคลองสำโรงยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของสัตว์น้ำนานาชนิด รวมถึงเป็นแหล่งอาหารของคนริมคลอง และเป็นที่หลบลมมรสุมของเรือขนส่ง และเรือประมง ทั้งยังแล่นเรือจากทะเลอ่าวไทยผ่านคลองสำโรงเข้าสู่ทะเลสาบสงขลาได้สะดวก ไม่ต้องอ้อมไปทางปากทะเลสาบที่อยู่ห่างจากปากคลองสำโรงประมาณ 20 กิโลเมตร

“3 ชุมชนแรก ๆ ของจังหวัดสงขลาคือชุมชนวชิรา ซึ่งคนที่เข้ามาอาศัยในยุคแรกส่วนใหญ่มาจาก อ.ระโนด จ.สงขลา และชุมชนเตาอิฐ จะเป็นคนที่มาจาก จ.เพชรบุรี ส่วนชุมชนเก้าเส้งส่วนใหญ่เป็นคนมุสลิม”

ข้อมูลสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ร่วมกับชาวชุมชนและภาคีเครือข่าย พบว่า ปัจจุบันมีชุมชนตั้งอยู่ริมคลองสำโรงจำนวน 15 ชุมชน ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองเขารูปช้าง 6 ชุมชน และในเขตเทศบาลนครสงขลา 9 ชุมชน รวมประมาณ 584 ครัวเรือน ประชากรประมาณ 2,400 คน ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป หาเช้ากินค่ำ และทำประมงพื้นบ้าน  สภาพบ้านเรือนแออัด  ทรุดโทรม บางหลังอยู่อาศัยกันถึง 15 คน  คุณภาพชีวิตไม่ดี  น้ำประปา ไฟฟ้าไม่มี ต้องพ่วงจากข้างนอกเข้ามาใช้ ไม่มีทะเบียนบ้านถาวร ที่ดินส่วนใหญ่เป็นที่ดินราชพัสดุ และกรมเจ้าท่า

ปากคลองสำโรงฝั่งทะเลสาบสงขลา ที่มองเห็นบ้านเรือนและอาคารต่าง ๆ ภายในเมืองสงขลา

ทุกวันนี้มีมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นกี่แห่ง และประชาการในพื้นที่ตรงนี้อีกกี่พันครอบครัว ผมเลยอยากถามว่าคูระบายน้ำเสีย ที่คนเมืองปล่อยลงไปในแต่ละวันนั้น ก็ใช้คลองเส้นนี้เป็นที่รับน้ำเหล่านั้นทั้งหมด ทำให้เกิดน้ำเน่าเสียในคลอง เมื่อก่อนเราเคยกินปลาในคลองนี้ แต่ตอนนี้ไม่มีใครกล้ากินอีกแล้ว

เมื่อเมืองสงขลาขยายตัว ทั้งโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ และความพยายามในการสร้างเป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองกีฬา รวมถึงการมีสถานบันการศึกษาใหญ่ ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นที่ดึงดูดผู้คนจำนวนมากเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้

1 พฤศจิกายน 2565 กระทรวง พม. และ พอช. ร่วมกับขบวนองค์กรชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมเนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลกปี 2565 ที่จังหวัดสงขลา  “Kick off  การออกแบบอนาคตคนริมคลองสำโรง  คลองสวย  น้ำใส  ไร้ขยะ  ชุมชนมีสุข” มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of  Understanding) ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ  ในจังหวัดสงขลาและส่วนกลาง  รวมทั้งหมด 25 หน่วยงาน  เพื่อร่วมกันพัฒนาชุมชนริมคลองสำโรง  จ.สงขลา

ไม่ใช่ว่าคนริมคลองสำโรงไม่อยากย้ายออกจากพื้นที่

พวกเขาอยากย้าย แต่ก็มีคำถามว่า ถ้าให้พวกเขาย้ายออกไป มีการเตรียมพื้นที่ไว้รองรับพวกเขาหรือยัง?

เราะหีม หัสดี หรือบังหีม ประธานชุมชนเก้าเส้ง อ.เมืองสงขลา

เราะหีม หัสดี หรือบังหีม ประธานชุมชนเก้าเส้ง อ.เมืองสงขลา เป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชนเก้าเส้ง (ประมาณ พ.ศ. 2502) และเห็นการเปลี่ยนแปลงของคลองสำโรงมาตั้งแต่ต้น เขาอธิบายสิ่งที่เคยเกิดขึ้นและกำลังดำเนินต่อไป ซึ่งตอนนี้เขายังคงรอดูการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ และความชัดเจนของหน่วยงานที่เกี่ยวอีกครั้ง

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ