อยู่ดีมีแฮง : สะระแหน่ บ้านเกษตรพัฒนา อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

อยู่ดีมีแฮง : สะระแหน่ บ้านเกษตรพัฒนา อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี


หากเอ่ยถึง “สะระแหน่” หลายคนก็คงเคยเห็นและรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าบ้านไหน ๆ ก็ต่างปลูกสะระแหน่ไว้ตามสวนผัก หน้าบ้าน ข้างบ้าน เพราะสะระแหน่เป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว และเก็บกินได้นาน แม้จะมีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ไกลถึงยุโรป และแพร่กระจายพันธุ์อยู่ทั่วไปในยุโรปและอเมริกาเหนือ รวมทั้งภูมิภาคอื่น ๆ ของโลกโดยเฉพาะเขตร้อนและเขตอบอุ่น แล้วจึงมีการพัฒนาสายพันธุ์เองตามธรรมชาติ เพื่อให้อยู่รอดตามสภาพต่าง ๆ ที่กระจายพันธุ์ออกไป สะระแหน่เป็นญาติกันในตระกูลเปปเปอร์มินต์ และมีญาติห่าง ๆ เป็นกระเพรา ที่มีแหล่งกำเนิดมาจากแถบยุโรปตอนใต้และแถบทะเลสาบเมดิเตอร์เรเนียน แม้สะระแหน่จะเดินทางมาไกลจากทวีปยุโรป แต่เมื่อมาถึงประเทศไทย โดยเฉพาะในแถบภาคอิสาน ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ติดตัวมา คือ กลิ่น รสชาติเผ็ดร้อน ที่มีความหอมแต่ฉุนไม่เหมือนผักชนิดอื่น ๆ  เมื่อนำมาผสมสนานกันกับอาหารที่มีกลิ่นคาว จะช่วยดับกลิ่น ทำให้สะระแหน่ได้รับความนิยมอย่างมากในหลาย ๆ เมนูของคนอิสาน เช่น ลาบ ก้อย ต้ม ยำ พร่า น้ำพริก เราจึงมักพบเห็นสะระแหน่ในฐานะผักเครื่องเคียง  ที่มักจะมาพร้อมเมนูเหล่านี้ และสะระแหน่ยังได้รับความนิยมในภูมิอื่น ๆ ของประเทศไทยอีกด้วย  

ผู้เขียนในนาม “อยู่ดีมีแฮงออนไลน์”จะนำพาทุกท่านไปทำความรู้จักสะระแหน่ให้มากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องสรรคุณในการประกอบอาหาร เทคนิคการปลูก การดูแล และช่องทางการตลาด เพื่อให้ใกล้กับชิดแปลงสะระแหน่มากยิ่งขึ้น เราจึงเดินทางมาที่ บ้านเกษตรพัฒนา ต.ปุเปือย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่นี่คือแหล่งปลูกสะระแหน่ ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นแต่แปลงปลูกสะระแหน่ เพื่อส่งขายให้กับตลาดในตัวเมืองจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง วันนี้เรามีนัดกับพ่อบุญทัน สุขเลิม ชาวบ้านเกษตรพัฒนา ต.ปุเปือย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี  พ่อบุญทัน คือเจ้าของแปลงสะระแหน่ แม้จะพึ่งเข้าวงการสะระแหน่ได้เป็นปีที่ 2 แต่ก็มีสะระแหน่ส่งขาย มีรายได้เข้ากระเป๋าทุกวัน

พ่อบุญทันเล่าให้ทีมงานอยู่ดีมีแฮงฟังต่ออีกว่า “ช่วงหน้าฝนจะได้ราคาดีที่สุด เพราะช่วงหน้าฝนพื้นที่อื่นทำไม่ได้ พื้นที่บ้านเกษตรพัฒนานี้ ภูมิประเทศเป็นพื้นที่ลาบสูง น้ำไม่ท่วมขัง ถ้าเป็นบริเวณอื่นช่วงหน้าฝนน้ำจะท่วม ทำให้ปลูกไม่ได้ หน้าฝนจึงได้เปรียบเพราะพื้นที่สูงและได้ราคาดี”

สะระแหน่ผักสมุนไพร ปลูกง่าย รายได้งาม

ที่บ้านเกษตรพัฒนาแห่งนี้จะปลูกสะระแหน่กันเรียกได้ว่าเกือบทั้งหมู่บ้าน มีทั้งปลูกไว้ตามแปลงผักข้างบ้าน ปลูกในสวน ที่เป็นสวนผลไม้ก็จะมีสะระแหน่เสริมเข้าไป ทำให้เวลาขับรถผ่านเราจะเห็นแปลงสะระแหน่ตามข้างทาง ในสวนผลไม้ ตั้งแต่ปากทางเข้าหมู่บ้าน จนถึงท้ายหมู่บ้าน ทั้งปลูกเพื่อบริโภคในครัวเรือน และจะมีพ่อค้า แม่ค้ามารับไปขายที่ตลาดในเมือง

ปลูกครั้งเดียวเก็บขายได้ 2-3 ปี

“เมื่อก่อนจะปลูกผักคะน้า ผักสลัด ผักชี หอม กระเทียม แต่สู้ปลูกสะระแหน่ไม่ได้ เพราะสะระแหน่ปลูกครั้งเดียว ตัดขายได้ถึง 2-3 ปี ไม่ต้องปลูกหลายรอบ ถ้าเป็นผักชนิดอื่น เช่น ผักคะน้า ถ้าตัดเสร็จก็ต้องปลูกใหม่ ลงทุนใหม่ แต่สะระแหน่ลงทุนแค่ครั้งเดียว ขายได้ถึง 3 ปี”

เตรียมดินปลูกสะระแหน่

สำหรับการปลูกสะระแหน่นั้นหลายคนคงเคยปลูกมาบ้างแล้วไว้สำหรับบริโภคในครัวเรือน จะเห็นว่าสะระแหน่นั้นปลูกง่ายกว่าผักชนิดอื่น ๆ เพียงแต่เลือกลำต้นที่สมบูรณ์ของสะระแหน่ มาปักชำลงในดิน ลดน้ำเช้า เย็น ใช้เวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ก็สามารถเก็บกินได้แล้ว  แต่ถ้าหากเราจะปลูกลงในแปลงใหญ่เพื่อส่งขายให้ตลาด เราก็ต้องมีการเตรียมดินและระบบน้ำให้พร้อม พ่อบุญทันเล่าหั้บทีมงานอยู่ดีมีแฮงฟังต่ออีกว่า “ครั้งแรกจะไถพรวนดิน ต่อมาก็จะไถยกร่อง จะต้องยกแปลงขึ้นให้สูงประมาณ 15-30 เซ็นติเมตร เพราะเวลาฝนตกน้ำจะได้ไม่ขังในแปลง ทำให้ดินไม่ชื้นเกินไป หลังจากไถเสร็จก็จะเตรียมแปลง พรวนดินให้ละเอียด ปลูกระยะห่างประมาณ 50 เซนติเมตร โดยเลือกช่วงเวลาการปลูกที่เหมาะสมคือช่วงฤดูหน้า เพราะเป็นช่วงที่อากาศเย็นไม่ร้อนมาก จะทำให้สะระแหน่โตได้ดี”

ถึงจะปลูกง่าย แต่ก็ต้องดูแลพิเศษโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน

ช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะความชื้นที่มากเกินไปจะทำให้สะระแหน่เสียหายได้ เพราะในช่วงหน้าฝนมักจะมีหนอนมากัดกินใบ ทำให้ใบหงิกงอ ใบไม่สวย นอกจากหนอนกินใบยังมีเชื้อราที่ตามมา ช่วงนี้จะดูแลยากเพราะมีทั้งเชื้อรา ใบเปื่อย แต่สะระแหน่จะได้ราคาสูงช่วงหน้าฝน เพราะดูแลยาก ประกอบกับช่วงหน้าฝนหลายพื้นที่น้ำท่วมไม่สามารถปลูกได้ ทำให้สะระแหน่ขาดตลาด จึงทำให้สะระแหน่ที่มีในตลาดราคาสูงขึ้น

รับซื้อถึงหน้าสวน ช่วงหน้าฝนราคาดีที่สุด

“หลังจากปลูกเสร็จเมื่อถึงเวลาขายจะมีพ่อค้า แม่ค้า มารับซื้อถึงหน้าสวน เวลาประมาณ 09.00-10.00 น. ของทุกวันจะมารับซื้อผักถึงหน้าสวน ก็จะตัดผักไว้รอ 5-10 ถุง บางวันถ้าสั่ง 10 ถุง แต่ตัดได้ 5-6 ถุง ก็ต้องเอาไปให้พ่อค้า แม่ค้าก่อน เพราะต้องรีบเอาผักไปขายที่ตลาดวาริน ตลาดเจริญศรีในตัวเมือง จ.อุบลราชธานี ก่อนหน้านี้ราคาจะอยู่ที่ถุงละ 50 บาท แต่พอมีเหตุการณ์น้ำท่วมหลาย ๆ พื้นที่ไม่สามารถปลูกสะระแหน่ได้ ทำให้สะระแหน่มีราคาสูงขึ้น จากเดิมถุงละ 50 บาท ก็ขยับขึ้น 60 70 80 90 จนถึงราคาถุงละ 100 บาท  ช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่ได้ราคาดีที่สุด”

สะระแหน่ถึงเป็นพืชล้มลุก แต่ก็มีอายุเก็บเกี่ยวได้ถึง 3 ปี ทำให้เกษตรกรบ้านเกษตรพัฒนา ต.ปุเปือย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี นิยมที่จะปลูกสะระแหน่เพื่อส่งขาย อีกทั้งสะระแหน่เมื่อเทียบกับพืชผักชนิดอื่น การดูแลก็ไม่ยุ่งยาก ปัญหาโรคพืชก็น้อย ไม่ต้องลงทุนในการปลูกหลายครั้ง อีกทั้งเมื่อปลูกเสร็จก็มีพ่อค้า แม่ค้ามารอรับถึงหน้าสวน ทำให้มีรายได้จากการขายสะระแหน่ทุกวัน สะระแหน่จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหลับเกษตรกรที่ไม่ต้องการลงทุนเพาะปลูกหลายครั้ง ช่วยประหยัดทั้งเงินทุน เวลา และสะระแหน่ยังเป็นที่นิยมในตลาดอีกด้วย

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ