นับเนื่องจากกรณีน้ำมันดิบ ของ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟนนั่ง จำกัด (มหาชน) รั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทำเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใด้ ประมาณ 20 กิโลเมตร เมื่อเวลา 21:06 น. ของวันที่ 25 มกราคม 2565
วันนี้ 27 ม.ค. 2565 ทีมงานสื่อพลเมืองสำรวจความเคลื่อนไหวและกลไกการเฝ้าระวังผลกระทบทางสุขภาพ สิ่งแวดล้อม ของเครือข่ายพลเมืองในพื้นที่
นายภาราดร ชนะสุนทร ประธานกลุ่มเฝ้าระวังน้ำผิวดิน บ้านค่าย จ.ระยอง กล่าวถึงสถานการณ์ของเครือข่ายภาคพลเมืองว่า กลุ่มประมงเรือเล็กตื่นตัว เพราะคาดว่าจะได้รับผลกระทบแน่ หากพบน้ำมันเข้าบริเวณชายฝั่ง ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่มีความเปราะบางก็จะเตรียมรวมรวมหลักฐาน เพื่อฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทผู้ก่อเหตุ เนื่องจากบทเรียนครั้งใหญ่จากเหตุการณ์ท่อส่งน้ำมันรั่วในปี 2556 พบว่ามีการเอาสารเคมีไปโปรยให้น้ำมันตกลงสู่ก้นทะเล แก้ปัญหาเฉพาะหน้าแต่สร้างปัญหาระยะยาว ทำให้ชาวประมงต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ต้องหยุดออกไปจับปลาเป็นเดือน
ประสบการณ์ครั้งก่อนเห็นผลกระทบกับแนวประการัง ส่วนตัวเห็นว่าน้ำมันลอยบนผิวน้ำล้อมจับดึงขึ้นเก็บจะมีผลกระทบน้อยกว่า
สำหรับเหตุการณ์รอบนี้ ตนคาดว่าพื้นที่ที่น่าจะกระทบมากสุด คือ เกาะเสม็ด ส่วนกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กแบ่งเป็น 100 กว่ากลุ่ม จากชายหาดบ้านฉาง – อ.แกลง ตอนนี้เริ่มหารือเตรียมการรับมือยังไงกับผลกระทบ และความเดือดร้อนที่จะตามมา อาทิ
- ประมงพื้นบ้าน เตรียมประชุมเรื่องค่าเสียหายต่อวัน
- การฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ ประการัง เคย เสียหายหมด
- อาหารทะเล อาหารสด ของคนระยองพึ่งพาเรือเล็กเช้าไปเย็นกลับ
- เคยระยอง ตลอดแนวชายฝั่งกระทบแน่นอน
อย่างไรก็ตามพบว่า น้ำมันยังไม่ถึงฝั่ง แต่ผู้แทนบริษัทยังไม่มาคุย ขณะที่เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (26 ม.ค.) มีการประชุมของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตัวแทนผู้บริหารท้องถิ่น และตัวแทนของบริษัทฯ เพื่อรับฟังรายงานการแก้ไขสถานการณ์กรณีน้ำมันรั่วในทะเล มาบตาพุด จังหวัดระยอง ร่วมกับ ส.ส.อภิชาติ ศิริสุนทร ประธานกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ส.ส. พรรคก้าวไกล
นายกฤช ศิลปชัย ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระยอง เขต4 และที่ปรึกษาประธานกมธ.การที่ดินฯ กล่าวภายหลังลงพื้นที่พูดคุยกับชาวประมงที่เฝ้าสังเกตการณ์ความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และพ่อค้าแม่ค้าอาหารทะเลสดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในเชิงเศรษฐกิจ
ชาวประมงระบุว่า ตอนนี้คราบน้ำมันน่าจะใกล้เข้าชายฝั่งเต็มที่แล้ว จากที่เมื่อวานนี้น่าจะห่างฝั่งอยู่ราว 20 กิโลเมตร เพราะมองจากชายหาดยังไม่เห็นความเคลื่อนไหวอะไร แต่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (27 ม.ค. 65) ชาวประมงลงไปดูอวนปูพบว่ามีคราบน้ำมันเข้ามาใกล้แล้ว ซึ่งมีการถ่ายภาพเอาไว้ด้วย
นอกจากนั้นยังมองเห็นเรือของกองทัพเรือ เรือเมย์ รวมทั้งสื่อมวลชน ลงพื้นที่มาปฏิบัติงานที่ชายหาดจำนวนมาก รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจ ชาวประมงคาดว่า ระยะทางของคราบน้ำมันขณะนี้น่าจะห่างจากชายฝั่งราว 3 ไมลล์ หรือราว 5 กิโลเมตร ถือว่าเป็นการเคลื่อนที่ที่เร็วกว่าที่มีการประเมินในวอร์รูมของจังหวัดเมื่อเย็นวานนี้ (26 ม.ค. 65)
ทีมเองมีการเก็บข้อมูลไปแล้วที่ปากน้ำระยอง และหาดแหลมรุ่งเรือง วางแผนว่าพรุ่งนี้เช้าตี 5 จะลงไปทะเลกับชาวประมงเพื่อไปสังเกตุสถานการณ์เพิ่มเติม
นายกฤช กล่าวอีกว่า ในด้านเศรษฐกิจ จากการลงสำรวจตลาดอาหารทะเลในช่วงเวลา 11:30 น. ผู้ค้าขายอาหารทะเลต่างบอกว่าจำนวนคนเดินตลาดลดลงอย่างผิดตาเมื่อเทียบจากเมื่อวาน เพราะไม่มีคนซื้อ คนขาดความเชื่อมั่น แม้แต่คนในพื้นที่เอง โดยตนและทีมงานวางแผนกันว่าจะเก็บตัวอย่างอาหารทะเลเพื่อส่งแลปตรวจ โดยใช้ตัวอย่างในวันนี้ พรุ่งนี้ และ 1 เดือน ข้างหน้า ด้านหนึ่งเพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่หากพบว่ามีสารตกค้าง ก็จะนำผลมาเทียบเคียงกับการรายงานของภาครัฐ
ทีมสื่อพลเมือง รายงานอีกว่า สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ นอกจากสื่อมวลชนจำนวนมากที่ลงมาติดตามข่าว และเจ้าหน้าที่รัฐที่ลงมาแก้ปัญหา ก็มีกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อมที่เข้ามาทำงานกับหน่วยงานรัฐ และนักวิชาการอิสระที่มาลงพื้นที่ โดยประชาชนในพื้นที่ขณะนี้อยู่ในภาวะการเฝ้าระวัง
นอกจากนี้ ทีมสื่อพลเมืองและC-site ชวนชาวประมงและผู้ประชาชนร่วมปักหมุดสื่อสารเฝ้าระวังและจับตาผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง จากคราบน้ำมันในทะเลอาจมีการเคลื่อนตัวหรือตกค้างส่งผลต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง ด้วยขั้นตอนง่ายๆ 5 ขั้นตอน
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันค้นหา C-site (ไลน์กดเพิ่มเพื่อนค้นหา @csite)
- สมัครสมาชิกครอบครัว C-site
- โพสต์ข่าว
- พิมพ์รายละเอียด / โลเคชัน/ใส่รูปภาพ
- กดโพสต์ข่าว
author
