ค่ำคืนยามราตรีอันแสนมืดมิด ณ หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งติดริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ทางตอนใต้ของประเทศไทย ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยทรัพยากรทรงคุณค่า ทั้งสัตว์น้ำสัตว์บก พืชผัก ผลไม้ งอกงามอุดม หมู่บ้านอันแสนสงบถูกล้อมรอบด้วยความหลากหลายของประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ นานา ช่วงเวลานี้มีเด็กสาวคนหนึ่งกำลังลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรก
เธอลืมตาดูโลกในหมู่บ้านแสนสงบ ขณะที่ความวุ่นวายหดหู่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาอย่างช้าพร้อมกับชายในเสื้อสูทและผู้มีอิทธิพล
พวกเขาเหล่านั้นเอานิ้วชี้ตรงไปในแผ่นที่ตรงกับหมู่บ้านเล็ก ๆ ของเธอ และพร้อมเอ่ยวาจา “ที่นี่แหละเหมาะสมจริง ๆ พื้นที่โล่งมีหมู่บ้านเล็กน้อยไม่ใหญ่มาก คงจะจัดการได้อย่างง่าย ฉันจะใช้พื้นที่แห่งนี้มาพัฒนา เอาโรงงานนิคมอุตสาหกรรมมาลงทันที”
ในตอนนั้นเธอทำได้แค่รับรู้เรื่องราวเหตุการณ์ที่ไม่อาจจะรับได้ว่ามีคนกำลังพยายามจะมาเอาหมู่บ้านที่อุดมไปด้วยทรัพยากรล่อเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้านและคนในเมือง ทั้งอากาศบริสุทธิ์ อาหาร ชีวิต กำลังจะมีคนเอามันไปต่อหน้าต่อตา ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ล่อเลี้ยงชีวีคนมากมายหลายชั่วคน
ฉะนั้น !! จะไม่มีใครหน้าไหนมาแย่งพื้นที่ตรงนี้ไปเป็นของส่วนตัวของใคร เพื่อทำกำไรให้พรรคพวกและตัวเองทั้งนั้น
พื้นที่ตรงนี้ยังต้องเป็นพื้นที่อนุรักษ์ของเรา ดินแดนอุดมเต็มเปี่ยมกับความสุข หากจะทำลายต้องข้ามศพพวกข้าไปก่อน
ด้วยความผูกพันธ์ ความรักที่ชาวบ้านมีให้ต่อหมู่บ้าน จึงมีคนตะโกนขึ้นมาเสียงดังว่า “เราจะปกป้องบ้านเกิดของเราให้ถึงที่สุด” ด้วยพลังแห่งความรักที่ชาวบ้านมีต่อบ้านเกิดจึงทำให้ชาวบ้านต่อสู้กับวิกฤตนี้ไปได้ สาวน้อยยัผู้นี้งคงหลับไหลแต่ประสาทสัมผัสของเธอนั้นรับรู้ทุกความเจ็บปวดที่พ่อ แม่ ลุง ป้า น้า อา ของเธอได้ร่วมปกป้องพื้นที่อันแสนอุดมให้กับเธอ สาวน้อยที่กำลังหลับไหลพูดอะไรไม่ได้
เมื่อเหตุการณ์สงบลง สาวน้อยได้เติบโตบนดินแดนแสนสุข ทุก ๆ วันเธอใช้ชีวิตอยู่กับทะเลและหาดทราย เธอเล่นน้ำทะเลตั้งแต่เช้าจนบ่าย ทุกๆวัน แม่ของเธอได้ตำหนิเธอว่า “เล่นน้ำทะเลอีกแล้วหรอ แม่ซักเสื้อผ้าที่ลูกใส่เล่นน้ำทะเลทุกวันไม่ไหวแล้ว ฉะนั้น ! เลิกเล่นน้ำทะเลซะ”
สาวน้อยจะยังคงเชื่อฟังคำที่แม่พูดไหม มาดูกัน
นี่คงเป็นมิติใหม่ในการเล่นน้ำทะเลของเธอ เพราะเธอต้องเลือกระหว่างความสบายใจของแม่กับความสนุกสนานที่เธอได้เล่นน้ำทะเลใส ๆ กับหาดทรายขาว ๆ เธอไม่เคยจะอดกลั่นใจได้เลย เช่นนี้แหละ เมื่อเธอเล่นน้ำทะเลจนอิ่ม เธอได้ชวนเพื่อนๆหาหอยเสียบ ก่อไฟ และต้มมาม่ากับหอยเสียบที่เธอและเพื่อนได้หามาได้จากทะเลหน้าบ้านของเธอ เธอเลือกที่จะไปนั่งบนสันทราย มีเนินสูงเหมือนผู้เขา ที่ราบคล้าย ๆ จะเป็นที่ระบายน้ำได้ยามมรสุม กว่าจะก่อไฟติด มาม่ายังไม่สุกเสียที นั่งโม้กันจนอิ่ม เสื้อผ้าของเธอและเพื่อนก็โดนลมและแสงแดดสับจนแห้ง จากนั้น เธอได้เดินเข้าบ้านอย่างมั่นใจว่าฉันจะไม่โดนแม่ดุเป็นอันขาด
“ฮ่าๆ ฉันนี่หลักแหลมจริงๆ”
เธอรำพึงกับตัวเองพร้อมกับความรู้สึกมีความสุขที่ได้เอาลำตัวสัมผัสกับคลื่นทะเลและหาดทรายขาว
เธอทำแบบนี้ทุกวันจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน อยากจะรู้เสียจริง ทำไมเธอชอบเล่นน้ำทะเลหนักหนา นึกขึ้นได้ หน้าบ้านของเธอเป็นทะเล พ่อเธอเป็นชาวประมงพื้นบ้านออกทะเลหาปลาทุกวัน แม่ก็มักจะเอาปลาที่พ่อของเธอหาได้ไปขายในเมือง เพื่อมาเลี้ยงดู ทั้งซื้อของเล่น ค่าเทอม เกือบจะเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครัวเรือน
สาวน้อยคนนี้เธอช่างซนสะเหลือเกิน ชอบไปวุ่นวายงานอนุรักษ์ทะเลของผู้ใหญ่ เธอเป็นอะไรกันน่ะ นอกจากจะชอบเล่นน้ำทะเลยังมายุ่งวุ่นวายกับงานของผู้ใหญ่ ชอบฟัง ชอบถาม เธอสงสัยไปทุกเรื่อง จนผู้ใหญ่รำคาน แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรถึงความรำคานที่ผู้ใหญ่มีให้กับเธอ เธอยังคงสนุกสนานต่อไป เธอยังคงวุ่นวายไปเรื่อย ๆ ในทุกวัน เธอชินกับตื่นเช้าเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลหน้าเธอ เธอมองผ่านหน้าต่างที่บ้าน ช่วงบ่ายฟ้าหลังฝนเธอยังเห็นฝูงปลาโลมาที่มาทักทายสาวน้อยกันอย่างองอาจมีหลากสีหลายตัว ยามเย็นเธอโน้มลงตัวไปคลุกกับหาดทรายขาว เห็นชาวประมงขึ้น-ลงผ่านหน้าบ้านเธอเป็นประจำทุกวันเพื่อไปออกทะเลหาปลาเลี้ยงดูคนในครอบครัวเหมือนพ่อของเธอ เธอมีความสุขเหลือเกิน
ตอนนี้ที่เธอกำลังมีความสุข กำลังซน วุ่นวายไปทั่วหมู่บ้าน สอดรู้สอดเห็นทุกอย่าง จนทำให้เรื่องนี้เข้าหูของสาวน้อย เธอใจสลายความรู้สึกในตอนนี้เธอยังเยาว์วัย เธอสัมผัสมันได้ เธอรับรู้มันได้ มันกลับมาอีกแล้ว กำลังจะมีคนมาทำลายมันอีกแล้ว มีคำสั่งจากเบื้องบนที่มองหมู่บ้านเล็ก ๆ ของเธอจากในแผ่นที่ เพียงนั่งคุยในห้องสี่เหลี่ยม พวกเขาตัดสินใจจะทำลายล้างแผ่นดินบ้านเกิดของเธออย่างเยือกเย็น กลับมาอีกแล้วโรงงานนิคมอุตสาหกรรม ชะตากรรมครั้งนี้ช่างยิ่งใหญ่สาหัสเหลือเกิน เป็นชะตากรรมที่เธอและคนในหมู่บ้านไม่ได้รับมันไว้เพียงลำพัง เพียงแต่แผนการของชายในเสื้อสูทและผู้มีอิทธิพล หมายจะครองปลายด้ามขวานของประเทศไทยทั้งหมด นี้มันหมายรวมถึงความหายนะ สิ่งเหล่านี้ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำลายอากาศบริสุทธิ์ นี่เป็นการขโมยทรัพยากรของคนทั้งโลก
เช่นนี้ สาวน้อยผู้มีความผูกพันธ์กับสิ่งแวดล้อม และเติบโตบนทรัพยากรอย่างแท้จริง ทั้งเป็นแผ่นดินที่บรรพบุรุษยอมพลีชีพเพื่อปกปักษ์รักษาไม่ให้ใครหน้าไหนมาทำลาย สิ่งที่เธอได้สัมผัส ทุกความทรงจำที่เธอได้เก็บเกี่ยว มันกำลังจะโดนเอาไปจากคำสั่งของเบื้องบนที่ไม่มีใครสามารถต่อกอนได้ ความรักความผูกพันธ์ของเธอที่มีให้แผ่นดิน เธอผู้นี้ไม่ยอมให้ใครมาพรากมันออกไปจากอก เธอต่อสู้ด้วยพลังแห่งรัก พลังแห่งความบริสุทธ์ที่ใสสะอาด กล้าตั้งคำถาม กล้าออกมาพูด ว่าจะมาทำลายบ้านของเธอไปด้วยเหตุผลอันใด
ไม่แปลกใจเลยทุกคำพูดที่ออกจากปากเธอ ต่างทำให้ผู้คนหันมาสนใจเธอกันอย่างแพร่หลาย เธอใช้ความบริสุทธิ์ในการตอบทุกคำถาม เธอมักจะพูดถึงสภาวะโลกร้อน แสดงให้ผู้คนได้ยิน เธอกำลังทำเพื่อทุกคนบนโลกใบนี้ เธอปกป้องอากาศบริสุทธิ์ นี่ปกป้องทรัพยากรให้คนคนทั้งโลก
พลังใจในการต่อสู้ของเธอมากจากเด็กตัวน้อยๆในรุ่นต่อไปกำลังจะเติบโตขึ้น เด็กๆควรเติบโตมาด้วยความรู้สึกแบบเดียวกับเธอคือได้สัมผัสดินแดนสวรรค์ที่เธอได้พบมาทั้งตลอดชีวิต เธอใจสลายเมื่อเธอนึกว่าเด็กๆเหล่านี้จะมาเจอชะตากรรมเดียวกันกับเธอ เธอไม่อยากให้เหตุการณ์อันเลวร้ายเกิดขึ้นกับลูกหลานของเธอ เธอเพียงอยากปกป้องและรักษา เก็บแผ่นดินนี้ไว้ให้ลูกหลานสืบไป
“คุณคิดว่าสาวน้อยคนนี้จะต่อกรกับอำนาจยักษ์ใหญ่นี้ได้หรือไม่ หากคิดทบทวนดูอีกครั้ง เรื่องราวเหล่านี้อาจเป็นเรื่องราวของเราทุกคน หากเรื่องราวนี้ทำให้ส่งผลกระทบต่อสภาวะโลกร้อนจากโรงงานนิคมอุตสาหกรรมจริง ลองไตร่ตรองว่าสาวน้อยทำเพื่อเราทุกคนที่จะให้อยู่รอดบนโลกใบนี้ แล้วเราละจะทำอะไรได้บ้างในด้านที่เราถนัด เราจะสนับสนุนความคิดของเธอได้อย่างไร สิ่งที่เธอทำมันช่างยิ่งใหญ่และหนักมากสำหรับสาวน้อยคนหนึ่งที่มาจากชนบทซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ”
เธอและเพื่อนพ้องทำอะไร เกิดเหตุการณ์ไม่เป็นธรรมอย่างไร จึงทำให้สาวน้อยคนนี้กล้ายืดหยัดต่อสู้
ที่นี่ :
- “อเล็กซ์ เรนเดลล์” ลงพื้นที่เยี่ยมชมความอุดมสมบูรณ์ของทะเล
- เมืองต้นแบบจะนะ กับทะเลที่หายไป
- เรื่องราวของหลายชีวิตที่เติบโต ผูกพัน ดูแลรักษาทะเล ณ ชายฝั่งทะเลจะนะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา