ชาวนาแนะ รัฐควรแก้ไขปัญหาชาวนาให้ตรงจุด

ชาวนาแนะ รัฐควรแก้ไขปัญหาชาวนาให้ตรงจุด

หลังจากมีนโยบายที่รัฐบาลจะจ่ายเงินให้ชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในวงเงิน 3.6 ล้านบาท โดยจะทำการโอนเงินเข้าในบัญชีของเกษตรกรที่มาขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมเกษตรกร ภายในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ จากนั้นรัฐจะตั้งงบฯคืนให้ ธ.ก.ส. ทีหลัง 

แม้นโยบายนี้ยังไม่ค่อยคุ้นหูของชาวนาสักเท่าไหร่ แต่ก็กลายเป็นเรื่องถกเถียงของเกษตรกรชาวนา อย่างเช่น คุณวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ชาวนาอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปลูกข้าวทั้งหมด 35 ไร่ ทั้งข้าวเหนียวเจ้า กข.47 และ กข. 31 บอกว่าการแจกเงิน 1,000 บาทต่อไร่ให้ชาวนายังถือว่าน้อยไป เมื่อเทียบกับชาวนาบางคนที่เช่าที่ดินของนายทุนทำนา และหากนำเงินนั้นมาใช้จ่ายภายในครัวเรือนก็อาจจะอยู่ได้ 2-3 วันเท่านั้น  

เช่นเดียวกับ คุณวิรัตน์ พรมสอน แกนนำเครือข่ายเกษตรกรจังหวัดเชียงราย  ที่มองว่า หลังจากแจกเงินชาวนาไร่ละ 1,000 บาทแล้ว จะช่วยเปลี่ยนแปลงหนี้สินที่ยังวนเวียนมาหลายสิบปีของชาวนาและเรื่องที่ดินทำกินของชาวนาได้อย่างไร เพราะปัญหาของชาวนาตอนนี้ร้อยละ 70 ของประเทศไทย ต้องเช่าที่นาของนายทุนปลูกข้าว อัตราราคาการเช่าที่ดินทำนาตอนนี้ อยู่ประมาณ 1,000 – 1,500 บาทต่อไร่แล้ว 

นอกจากนี้ คุณวิรัตน์ พรมสอน ยังมีข้อสงสัยอีกว่า ในอนาคตจะมีเงื่อนไขใดๆนอกจากนี้อีกไหม ถ้าอยากจะแก้ไขปัญหาชาวนาได้จริงๆ การแจกเงินยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เพราะความเป็นจริงต้องยอมรับว่าเกษตรกรไม่มีที่ดิน ที่ดินในประเทศไทยกระจุกตัวอยู่กับนายทุนเป็นส่วนใหญ่ ให้แนวทางมี 3 หลัก คือ

1.รัฐควรทำให้เงินกู้ยืมของชาวนาไม่มีดอกเบี้ย เช่น รัฐอาจเป็นคนให้ชาวนากู้ยืมจากรัฐโดยตรง ไร้ดอกเบี้ย

2.รัฐต้องหาที่ดินทำกินที่เหมาะสมให้เกษตรกร อย่างเช่น รัฐซื้อที่ดินของเอกชน มาให้ชาวนาเช่าต่อ และให้ค่อยๆซื้อคืนเป็นของชาวนาเอง

3.เรื่องความมั่นคงทางอาหาร ให้เมล็ดพันธ์ที่ชาวนานอกจากผลิตขายแล้วก็ต้องเป็นพันธ์ข้าวที่เก็บไว้กินได้เอง และสามารถให้ชาวนาเก็บไว้หว่านในฤดูกาลต่อไปได้เองด้วย 

แม้นี่เป็นแผนระยะสั้นเท่านั้นที่จะแก้ไขปัญหาชาวนา แต่ชาวนาก็ยังต้องการแผนระยะยาวที่สามารถมาช่วยแก้ไขปัญหาได้จริงๆสักที 

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ