สมุนไพรเสริมภูมิเพื่อ “คนพิดโลกไม่ทิ้งกัน”

สมุนไพรเสริมภูมิเพื่อ “คนพิดโลกไม่ทิ้งกัน”

เวลานี้บทบาทของ “สมุนไพรไทย” กลับมาโดดเด่นในวงการเกษตรกรรมอีกครั้ง และดูเหมือนจะเป็นความหวังหนึ่งของการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ที่ทุกวันนี้มีมากมายทั่วประเทศ ซึ่งคนป่วยจำนวนมาก “ไร้ทางเลือก” จำเป็นต้องรักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน หรือยาที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ในตอนนี้สมุนไพรจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่คนในต่างจังหวัดสามารถนำหยิบมาเพื่อใช้บรรเทาได้ในช่วงเวลานี้เพื่อช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แบบพื้นบ้าน

พื้นที่หนึ่งที่มีการหยิบสมุนไพรพื้นบ้านใกล้ตัวมาใช้คือ จังหวัดพิษณุโลก หนึ่งในจังหวัดที่รับผู้ป่วยโควิด-19 กลับมารักษาที่บ้าน ในโครงการ “คนพิดโลกไม่ทิ้งกัน” กลับบ้านเรารักรออยู่ เตรียมเตียง เตรียมหมอ รอรับคนที่เสี่ยงสูง และคนป่วยที่ประเมินอาการแล้วอยู่ในกลุ่มสีเขียวกลับมารักษาในพื้นที่ ตัวเลขไม่น้อยหลังรับกลับมา 500 กว่าคน ที่ยังไม่รวมตัวเลขผู้ป่วยในจังหวัด (ตัวเลขล่าสุดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 64)

แน่นอนว่าคนในพื้นที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็เตรียมพร้อมรับลูกหลานของตัวเองกลับบ้านในพื้นที่เช่นกัน สิ่งหนึ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือการเสริมทั้งภูมิด้านกำลังใจ อีกด้านคือด้านภูมิคุ้มกันในร่างการให้คนในพื้นที่ ที่แน่นอนว่าทั้งผู้ป่วย และคนในพื้นที่จะได้รับการดูแลโดยบุคลากรทางการแพทย์ แต่เมื่องานหนักมากขึ้นคนในพื้นที่จึงลุกขึ้นช่วยบุคลากรด่านหน้า

ที่นี่ค่ะ ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก สร้างความร่วมมือกันระหว่างสภาเกษตรกร เกษตรกร หมอยาในพื้นที่ และภาคสาธารณสุข รวบรวมผลผลิตจากเกษตรกรโดยรับซื้อสมุนไพรจากกลุ่มเกษตรกรชุมชน ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ที่มีทั้ง ขิง จำนวน 100 กิโลกรัม กระชาย จำนวน 100 กิโลกรัม และพื้นที่อื่น ๆ บางตัวเกษตรกรเองนำมาบริจาค เพื่อเป็นส่วนประกอบในการทำน้ำสมุนไพรให้กับ ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มาพักรักษาตัวในศูนย์พักคอย จ.พิษณุโลก โดยให้กับตัวผู้ป่วยและผู้รอเฝ้าดูอาการจากความเสี่ยง ทั้งกลุ่มสีเขียว และกลุ่มเฝ้าระวังดูอาการ และคนในพื้นที่ที่ประสงค์รับ

ต้มกันแบบนี้โดยทีมอาสาวันเว้นวัน วันละ 80 ลิตร นำส่ง 2 จุดหลัก ๆ คือ จุดพักคอยวิทยาลัยเทคโนโลยีพิษณุโลก และจุดโรงพยาบาลสนามโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม  

ทีมอาสาพืชสมุนไพรช่วยชาติฯ เมืองพิดโลก นาย อุบล พุทธรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดพิษณุโลก  “ในสถานการณ์ปัจจุบันทราบว่าหน่วยงานได้รับตัวผู้ป่วย และผู้รอเฝ้าดูอาการจากความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสโควิด กลับไปพักรักษาตัวที่จังหวัดภูมิลำเนาตามความสมัครใจ ทั้งกลุ่มสีเขียว และกลุ่มเฝ้าระวังดูอาการ ตามมาตรการการเว้นระยะห่าง สำหรับจังหวัดพิษณุโลกได้จัดทำโครงการ คนพิดโลกไม่ทิ้งกันโดยรับคนพิษณุโลกกลับมาพักรักษาตัวที่ศูนย์พักคอยจังหวัดพิษณุโลกก่อนส่งไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลที่ใกล้ภูมิลำเนา 

ทีมงานพืชสมุนไพรมองเห็นประโยชน์ของการใช้พืชสมุนไพรของเกษตรกรในพื้นที่ ที่มีคุณสมบัติทางยาในการบำรุงธาตุและรักษาโรค ด้วยหลักทางการแพทย์แผนไทย จึงได้ร่วมกับทีมครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธรและอีกหลายสถาบันที่มีความรู้ในศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทย ช่วยกันปรุง”น้ำสมุนไพร” ที่มีคุณสมบัติทางยาเพื่อการบำรุงเสริมภูมิในการรักษาโรคที่ติดเชื้อจากเชื้อไวรัสโควิด รวมถึงตัวยาสมุนไพรที่จะต้องใช้ต้ม และสูดดมไอระเหยของตัวยาสมุนไพรอีกหลายชนิดตามตำรับของการแพทย์แผนไทย การทำเพื่อจะใช้เสริมและรักษาสุขภาพควบคู่ไปกับการรักษาตามมาตรฐานหลักการแพทย์แผนปัจจุบันสนับสนุนภารกิจของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดพิษณุโลก

การดำเนินการดังกล่าวจึงได้ต้มน้ำสมุนไพร อุ่น ๆ รสกลมกล่อมให้ผู้ที่เดินทางกลับมาพักรักษาตัวที่ศูนย์พักคอยและผู้เกี่ยวข้องได้ทดลองชิม ปรากฏว่าได้รับผลการตอบรับที่ดี จึงร่วมกันต้มน้ำสมุนไพร เพื่อไปส่งให้ผู้รักษาตัวในศูนย์พักคอยในจังหวัดพิษณุโลก

การพึ่งพาตนเองด้วยสมุนไพรไทยใกล้ตัว อาจเป็นทางเลือกสุขภาพ “น้ำต้มสมุนไพร” ที่รวมสมุนไพรหลาย ๆ ชนิดไว้ด้วยกัน มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะสมุนไพรไทย เช่น ขิง กระชาย ตะไคร้ แต่ละอย่างมีสรรพคุณหลักคล้าย ๆ กัน คือ บรรเทาอาการหวัด บรรเทาอาการคัดจมูก บำรุงธาตุให้บริบูรณ์ มีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ประธานเกษตรกรกล่าว

นิติรัตน์ มีกาย อาจารย์ประจำกลุ่มงานหลักสูตรการแพทย์แผนไทย วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินทรจังหวัดพิษณุโลกบอกว่า สำหรับการปรุงน้ำสมุนไพร ในสูตรนี้ตัวหลักของเราจะเน้นไปที่ขิง และกระชายตะไคร้มีการแต่งสีแต่งกลิ่นด้วยใบเตยนอกจากนี้ยังมีเครื่องปรุงอื่น ๆ เพื่อให้รสชาติน่ารับประทานขึ้นใส่น้ำผึ้งและน้ำตาลเข้าไปให้ดื่มง่าย ทำในวิธีการปรุงของยาสมุนไพรแพทย์แผนไทย วิธีการตามหลักเภสัชกรรมแผนไทยซึ่งจะมีตัวยาหลักตัวยารองและตัวยาประกอบ

สรรพคุณของน้ำสมุนไพรก็จะประกอบไปด้วย เป็นสารที่จะช่วยบรรเทาในการติดเชื้อ โควิด-19 น้ำสมุนไพรที่ต้มนี้ ใช้ดื่ม เพื่อช่วยให้มีความสดชื่น เลือดลมไหลเวียนดี และหายใจโล่งขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยที่รักษาที่โรงพยาบาลสนามเป็นผู้ป่วยสีเขียว ที่มีอาการเล็กน้อย เช่น มีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ การใช้สมุนไพรจะสามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้

โดยวิธีรับประทาน ผู้บริโภคที่ต้องการดื่มเพื่อบำรุงธาตุให้บริบูรณ์ สามารถดื่มครั้งละ 1 แก้ว ช่วงหลังอาหารเช้า และกลางวัน หรือดื่มได้บ่อยตามต้องการ และสำหรับผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มผู้ป่วยโควิดสีเขียว แนะนำว่าให้ดื่มครั้งละ 1 แก้ว ก่อนอาหารเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน 

ข้อห้าม/ข้อควรระวัง 

  • เครื่องดื่มน้ำต้มสมุนไพรที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้ง หรือน้ำตาล อาจจะส่งผลเสียกับผู้บริโภค อย่างเช่นผู้ที่มีโรคประจำตัวโรคเบาหวาน อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง 
  • หากดื่มแล้วเกิดอาการผิดปกติ ให้หยุดดื่มทันทีและปรึกษาแพทย์แผนไทย 

ข้อแนะนำ 

หลักการใช้สมุนไพร เราต้องเลือกใช้แบบผสมผสาน “อย่ากินตัวใดตัวหนึ่งมากจนเกินไป

  • การดื่มน้ำต้มสมุนไพรควรบริโภคร่วมกับการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำบ่อย ๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดี 

ที่ผ่านมามีการแชร์ความรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรไทย และเครื่องเทศบางชนิดที่ใช้สำหรับต่อสู้ไวรัสโควิด-19 บางข้อความนั้นก็ยอมรับว่าอาจจะโอ้อวดเกินจริง แต่บางชนิดถือว่าช่วยเหลือผู้ป่วยได้ ในยามวิกฤติเช่นนี้  ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพร ที่ทางกรมการแพทย์แผนไทยฯ เผยแพร่นั้น มีการศึกษาตามหลักวิชาการ ก่อนที่จะแนะนำให้ประชาชนมาใช้ ศึกษาและพบว่ามันจะ “ปลอดภัย” กับประชาชน อีกทั้งสมุนไพรที่แนะนำ ก็ถือว่ามีใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เรียกว่าเป็นของที่อยู่ในครัว กินเป็นอาหารอยู่แล้ว ส่วนจะรักษา “โควิด” หรือหายป่วย 100% หรือไม่ ยังไม่สามารถ ยืนยันได้ แต่…ก็พบว่ามีมากมายหลายเคส ที่ทดลองใช้แล้วมีอาการดีขึ้น ส่วนถ้าใครที่อยากทดลองรับประทาน ก็แนะนำว่าอาจจะเริ่มจากน้อยๆ ก่อน เมื่อกินแล้วมีผลตอบสนองดี ก็ค่อย ๆ เพิ่มขนาด หากแนะนำก็คือ ให้กินเป็นอาหาร เพราะฤทธิ์ยาที่อยู่ในอาหารจะมีไม่มาก

การลุกขึ้นมาช่วยเหลือในยามวิกฤติแบบนี้ของพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เป็นอีกโจทย์ที่เราเชื่อว่าหลายพื้นที่ก็กำลังทำอยู่ นำต้นทุนทางพื้นที่ที่ตัวเองมีมาเพื่อใช้หวังให้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น

หลังจากนี้ทางเกษตรในพื้นที่และหน่วยงานจะทำการเดินหน้าต่อ จะมีการนำโครงการนำผู้นำชุมชนผู้นำท้องถิ่นมาเรียนรู้เรื่องสมุนไพรตรงนี้มาอบรม และจะกระจายความรู้ให้กับพื้นที่ในชุมชนในจังหวัดพิษณุโลกที่จะร่วมด้วยช่วยกันเพื่อให้ชุมชนร่วมเรียนรู้และหาวิธีป้องกันชุมชนทำธนาคารสมุนไพร และปลูกสมุนไพรในพื้นที่ส่งเสริมการปลูกไปกับพืชผลชนิดอื่น ๆ เป็นอีกทางลอดหนึ่งที่เราเห็นว่าไม่ใช่เพียงแค่การแก้ไขปัญหาในสถานการณ์วิกฤต แต่เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยแก้โจทย์เกษตรกรในอนาคตด้วย

วัตถุดิบในการต้มน้ำสมุนไพรในเบื้องต้นนั้นได้รับการบริจาคมาจากหลายภาคส่วน ประชาชนจิตอาสา รวมถึงสนับสนุนซื้อมาจากเกษตรกรใน จ.พิษณุโลก โดยหลังจากนี้หากสนใจบริจาควัตถุดิบในการต้มน้ำดื่มสมุนไพร สามารถติดต่อได้ที่ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดพิษณุโลก หมายเลข 080-021-1168 หรือ ที่สภาเกษตรกรจังหวัดพิษณุโลก 055-248-484

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ