วันที่ 12 ก.ย 57 จากกรณี กลุ่มผู้ปกครอง รร.สระบุรีวิทยาคม(ใช้ชื่อกลุ่มว่า กลุ่มประธานเครือข่ายผู้ปกครอง รร.สระบุรีวิทยาคม จำนวนประมาณ 30 คน(ส่วนใหญ่ห้อง 3/1 เด็กเรียนดี ) ได้รวมตัวกันเดินทางมาชุมนุมหน้า อาคารอำนวยการ รร.สระบุรีวิทยาคม กรณีไม่พึงพอใจการสอน/มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ของอจ.สอนคณิตศาสตร์ ชั้น ม.3 อาจารย์คณิตศาสตร์เสริม โดยอ้างว่าเคยร้องเรียนมาแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่ดำเนินการแก้ไข อาทิ ไม่สอนเด็กในแขนงวิชา แต่มีการสอบ ในแต่ละวันส่วนใหญ่ไม่ทำการสอนเด็กเพียงให้เด็กเรียนในตำราเรียนกันเอง จะมีการเปิดสอนพิเศษ หากเด็กคนใดไม่เรียนพิเศษด้วยจะถูกกดคะแนน ทำตัวไม่เหมาะสม พูดจาสองแง่สองง่ามกับเด็กผู้หญิง ให้เด็กไปสอบแก้ตัว ที่บ้านตนเองในขณะที่ยังนั่งดื่มสุรา
ต่อมา นายวัฒนพงศ์ เสมา ผอ.รร.สระบุรีวิทยาคมได้เชิญผู้ปกครองดังกล่าวเข้าพูดคุย ณ ห้องประชุม รร.สระบุรีวิทยาคม ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี
สรุปผลการเจรจาระหว่างผู้ปกครองกับนายวัฒนพงศ์ เสมา ผอ.รร.และนายสมบัติ บ่อสมบัติ รอง ผอ.ฝ่ายวิชาการ คือ
ฝ่ายผู้ปกครองเรียกร้องดังนี้
1.เรียกร้องให้ทางโรงเรียนเปลี่ยนไม่ให้ สอนเด็กชั้น ม.3 อีก โดยให้ไปทำตำแหน่งอื่นๆแทน
2.ให้ทางผู้บริหารดูแลการสอนของอาจารย์ว่ามีการสอนในวิชานั้นๆก่อนสอบหรือไม่
3.ให้ทางโรงเรียนปรับสอนล่วงหน้าในรายวิชาให้จบบทเรียนก่อนสอบ
4.ให้ทางโรงเรียนพัฒนาการสอบและปรับอันดับโรงเรียนให้มากกว่าที่เป็นอยู่
5.ให้ทางโรงเรียนสร้างแรงจูงใจ และเข้มงวดการเรียนการสอน
ด้านนายวัฒนพงศ์ เสมา ผอ.รร.และนายสมบัติ บ่อสมบัติ รอง ผอ.ฝ่ายวิชาการได้ชี้แจง
กรณีนี้ไม่สามารถยกเลิกการสอนของอาจารย์ดังกล่าวได้เนื่องจากไม่มีอำนาจที่จะกระทำได้ แต่การดำเนินการตามที่มีการร้องเรียนต่างๆต่ออาจารย์คนดังกล่าว นั้นได้ดำเนินการสอบสวนแล้วพบว่าเป็นความผิดวินัยร้ายแรง และได้ส่งเรื่องไปยัง ผอ.เขตการศึกษาเรียบร้อยแล้ว
ต่อมาเวลา 12.00น. ได้มีการเชิญอาจารย์ท่านดังกล่าว เข้าชี้แจง ขณะที่ผู้ปกครองได้ต่อว่า เนื่องจากได้กลิ่นสุรา และได้สอบถามกรณีต่างๆที่ทำตัวไม่เหมาะสมโดยอาจารย์คนดังกล่าวได้ยอมรับเพียงเป็นการพูดหยอกล้อกับศิษย์ แต่การแก้ข้อกล่าวหาไม่สามารถตอบคำถามผู้ปกครองได้อ้างเพียงตนให้เกรดต่ำ ตัด 60 เปอร์เซ็นต์ อ้างครูคนอื่นปล่อยเกรด
นายวัฒนพงศ์ เสมา ผอ.รร.จึงกล่าวสรุปตอนท้าย ขอให้อาจารย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการสอนใหม่ปรับปรุงตัวให้เป็นอาจารย์ที่สอนเด็กผู้ปกครองยอมรับว่าเสียงที่มาฟ้องคือเสียงเด็ก โดยเฉพาะผู้ปกครองที่มาไม่ได้มาบังคับให้อาจารย์ย้ายหรือเลิกสอนในวิชานี้แต่ต้องการให้ปรับนิสัยให้สมกับเป็นคุณครูที่สอนนักเรียนหรือพ่อพิมพ์สอนลูกมากกว่าในการกระทำตัวในตอนนี้ซึ่งมองแล้วไม่เหมาะสมพร้อมให้ทำหน้าที่ เสียใหม่ด้านอาจารย์ก็ขอโอกาสจากผู้ปกครองเพื่อจะทำตามที่ผู้ปกครองต้องการถ้ามีการผิดพลาดในคราวต่อไป จะพิจารณาตนเองจึงเป็นที่พอใจของผู้ปกครองที่มาร้องจึงได้แยกย้ายกันกลับ