เสียงร่ำร้องที่เธอไม่เคยตั้งใจฟัง

เสียงร่ำร้องที่เธอไม่เคยตั้งใจฟัง

……….

ในขณะที่ประชาชนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นพลเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายของระบบทะเบียนราษฎร์ในประเทศกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติโรคระบาดโควิด 19 ตั้งแต่ระดับเบสิคจนย่างก้าวมาถึงขั้นวิกฤตหนักขึ้น คนในสังคมทุกชนชั้น (ยกเว้นนายทุนตัวใหญ่) ได้รับผลกระทบกันทุกหย่อมหญ้า และนับวันเรายิ่งสูญเสียประชากรทั้งคนวัยทำงาน คนหนุ่มสาวและลุกลามไปจนถึงเมล็ดพันธุ์ใหม่ๆ การการปลิดชีพตัวเองเพื่อหลุดพ้นจากพันธการหลายอย่างในชีวิต เรารับรู้ด้วยตาและสัมผัสกับข่าวเศร้าๆนั้นวันแล้ววันเล่า จนหัวใจบอบช้ำเข้าไปทุกที

ทั้งหมดทั้งมวลล้วนแล้วแต่เกิดจากการบริหารประเทศที่ผิดพลาดและไม่เป็นธรรมของรัฐบาลทั้งสิ้น และเราก็เผชิญหน้ากับการบริหารประเทศแบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลที่ไม่เคยฟังเสียงของประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศและล้วนแล้วแต่จ่ายภาษีให้สังคมและเงินเดือนของพวกเขา ในขณะที่ประชาชนติดโควิดกันเพิ่มขึ้นและจำนวนไม่น้อยที่ทยอยกันล้มหายตายจากไป

เราต้องทนอยู่กับรัฐบาลที่หน้าด้าน หน้าทนที่ไล่เท่าไหร่ไม่ไปสักที รัฐบาลที่คอยเอาแต่กล่าวโทษและผลักภาระให้ประชาชนตลอดเวลา รัฐบาลที่เห็นแก่ประโยชน์ของพวกพ้อง รัฐบาลที่รังแต่จะกู้หนี้ยืมสินเพื่อเพิ่มภาระให้ประชาชน
พวกเราส่วนนึงในประเทศที่เป็นพลเมืองที่ถูกต้องตามกฏหมาย เราเรียกร้องกันได้ เราทักท้วงได้ เราหลายคนสามารถใช้ช่องทางที่มีในการจับจองวัคซีนทางเลือกได้ แต่คนอีกกลุ่มนึงที่อยู่ในผืนแผ่นดินเดียวกันกับเรา ไม่สามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้ พวกเค้าเป็นเสียงที่ไม่ถูกรับฟัง เพราะความเพียงเส้นแบ่งของความเป็นรัฐชาติและตัวบทกฎหมายมากำหนดและปิดกั้นเสียงเหล่านั้น และรัฐถะก็ปล่อยปะละเลยพวกเขาให้เผชิญหน้า ผจญชะตากรรมและเหยียบซ้ำด้วยการออกมาตรการหลายอย่างมาเบียดขับพวกเค้าออกไป ใช่คะ ฉันหมายถึงพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ คนไร้สัญชาติและคนไร้บ้าน

พวกเขาไม่มีโอกาสเข้าถึงระบบและช่องทางการเยียวยาของรัฐบาลได้เลย กระทั่งระบบสาธารณสุขที่ย่ำแย่ลงไปทุกที ทุกที พวกเขาถูกลอยแพ ถูกลืมไว้ แม้ว่าองค์กรต่างๆที่ทำงานเรื่องสิทธิมนุษยชน ชาติพันธุ์ จะพูดและส่งเสียงเพื่อช่วยเหลือพวกเขาในฐานะของเพื่อนมนุษย์ผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน

โรคระบาดไม่เลือกชนชาติ ชาติพันธุ์ ภาษา เพศและวัย

ฉันผู้ที่ช่วงชีวิตกึ่งนึงเคยมีชะตากรรมเดียวกัน ฉันเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ฉันทำได้เพียงส่งเสียงเรียกร้องผ่านตัวหนังสือ ผ่านรูปภาพ ผ่านเสียงของตัวเอง ฉันทำได้เท่านั้น เพราะตอนนี้ฉันเผชิญหน้ากับสภาวะร่างกายที่ไม่พร้อมเหมือนแต่ก่อน ฉันร่วมต่อสู้แบบก่อนไม่ได้ เพราะร่างกายของฉันมันอ่อนล้า มันเรรวนไม่เหมือนเดิม ฉันนอนบนท้องถนน ทนต่อสภาพอากาศไม่ได้ และฉันก็ไม่อยากเพิ่มภาระพี่น้องที่เดินทางมาต่อสู้ เรียกร้องการแก้ปัญหา เพราะพวกเค้าแบกรับภารกิจอันหนักอึ้งอยู่แล้ว แม้ว่าทุกคนจะเข้าใจสภาวะความจำเป็นของฉัน แต่ฉันยังรู้สึกผิดทั้งต่อพวกเขาและตัวเองตลอดเวลา

เราจะอยู่กับสภาพสังคมที่บอบช้ำนี้ไปอีกนานแค่ไหนกันนะ เราจะต้องทนดูการกระทำที่โง่เขลาเบาปัญญาของรัฐบาลที่ไม่เคยรับผิดชอบต่อชีวิตประชาชน และเหยียดหยามประชาชนเจ้าของประเทศอยู่ร่ำไป เราจะต้องรับมือกับรัฐบาลที่โชว์โง่แล้วทนงตนว่าตัวเองฉลาด ด้วยคำพูดที่ไม่เคยเชื่อถือได้เลย เราต้องเจ็บช้ำกับคำพูดที่ไร้แก่นสาร หาสาระสำคัญของผู้นำประเทศนี้ไปแค่ไหน เราต้องพากันรังเกียจคำพูดที่ครั้งนึงเราเคยเชื่อว่า มันเพราะที่สุดไป เราต้องทนกับรัฐบาลที่เห็นชีวิตและความตายของประชาชนเป็นเรื่องขบขัน รัฐบาลที่อยู่ในคราบของผู้ปกครองทั้งๆที่จริงแล้วก็เป็นฆาตกรที่ใจบาปหยาบช้าที่สุดไปถึงเมื่อไหร่

เราทนมามากเกินไป ถ้าเราทุกคนไม่พูด ไม่ส่งเสียง ถึงพวกเขาว่า คุณควรเนรเทศตัวเองออกไปสักที เพราะการมีอยู่ของพวกคุณไม่ได้มีความหมายต่อชีวิตประชาชนอย่างเรา แต่พวกคุณคือเนื้อร้ายที่กัดกินพวกเราหนักยิ่งกว่าโรคระบาดเป็นร้อยเป็นพันเท่า

ถ้าเรายังเมินเฉยอยู่ เราได้ตายไปพร้อมกับคำว่า รอและอดทนแน่นอน นับวันก็ยิ่งเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ เราอาจจะไม่ตายเพราะโควิด แต่เราจะตายเพราะเราอดอยากและตายเพราะการบริหารประเทศที่ระยำตำบอนที่สุดของที่สุดภายใต้รัฐบาลเฮงซวยแห่งชาตินี้ก็ได้ ซึ่งความเป็นไปได้นั้นเกินกว่า 99.99 เปอร์เซ็นต์

หลายคนอาจจะคิดว่า ที่เราพูดแบบนี้ คิดแบบนี้เพราะเราอคติกับรัฐบาล คะ!!! ฉันยอมรับ แต่การกระทำของเขาตลอดระยะเวลาที่เขาขอเวลาจากพวกเรา ก็สะท้อนให้เราเห็นอย่างชัดเจนอยู่แล้ว

อย่าได้พูดประโยคที่ว่า เราทุกคนต้องปรับตัว เพราะประชาชนปรับตัวจนร่างกายจวนจะโปร่งแสงได้อยู่แล้ว

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ