เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 ชาวบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่อพยพขึ้นไปยังหมู่บ้านเดิมในป่าใจแผ่นดิน ได้ส่งคลิปการเจรจาระหว่างกลุ่มเจ้าหน้าที่ตัวแทนอุทยานฯซึ่งเป็นลูกหลานชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย และกลุ่มชาวบ้านที่อพยพขึ้นไป โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยดี
ในคลิปที่ชาวบ้านส่งมามีการสัมภาษณ์นายประยูร แครจี ตัวแทนเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ซึ่งระบุว่า “เป็นลูกหลานชาวบ้านบางกลอย และคนที่อยู่ข้างบน (ป่า) เป็นญาติพี่น้อง ผมได้รับนโยบายจากนายมานะ (เพิ่มพูน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน) เพื่อเจรจา คือ 1. ขอให้พี่น้องลงไปเจรจากับภาครัฐ ว่าต้องการอะไร ขาดอะไร 2. ให้ทางผู้นำ (ชาวบ้าน) แจ้งกับตัวแทนเจ้าหน้าที่ 3. หากต้องการคุย ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เช่น อธิบดี ผู้อำนวยการ หรือรัฐมนตรี ขึ้นมาไม่ได้ ต้องขอทำลานจอดเฮลิคอปเตอร์
นายประยูร กล่าวว่า “ผลการเจรจาพี่น้องบอกว่าไม่ลง(ไปข้างล่าง) แต่ภาครัฐคาดเดาไว้แล้ว ทางชาวบ้านต้องการคุยกับอธิบดีและรัฐมนตรี โดยอยากให้มีตัวแทนพีมูฟและทนายความที่ยอมรับและเชื่อถือเข้าร่วมด้วย”
ชาวบ้านถามนายประยูรว่า การเดินทางขึ้นมาเป็นอย่างไรบ้าง นายประยูร กล่าวว่า “ส่วนตัวผมกลับลงไปเรียนหนังสือตั้งแต่ปี 2532 นับเวลาที่ผมจากไป ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี ที่ได้ขึ้นมาที่นี่” เมื่อถามอีกว่าได้มาเห็นความเป็นอยู่ของพี่น้องที่นี่รู้สึกอย่างไร นายประยูร กล่าวว่า “บริเวณที่ชาวบ้านอยู่ไม่ได้มีเพิงพักหรือเป็นแคมป์ มีแค่ปูผ้ายางเป็นที่นั่ง”
ชาวบ้านถามว่า “ได้รับทราบอยู่ใช่มั้ย ว่าพี่น้องของเราลำบากเรื่องการขาดแคลนที่ทำกิน นายประยูร กล่าวว่า “ได้รับทราบว่าเมื่อลงไปแล้วไม่มีทำกิน ผมคิดว่าภาครัฐน่าจะหาแนวทางออกที่ดีในงวดนี้ แม้งวดที่ผ่านมา ผมอยากให้ลืมกันไป เราจะได้คิดหาวิธีกันใหม่ อยากบอกพี่น้องเราว่า อย่าหาว่าผมเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ผมเป็นลูกหลานจริง ทุกคนอาจไม่เชื่อคิดว่าเจ้าหน้าที่อุทยานฯหลอกอีกแล้ว ผมอาจเสนอหัวหน้าไป เพราะชาวบ้านก็โดนมาหลายครั้ง”
ชาวบ้านถามอีกว่า “เมื่อรู้ว่าพี่น้องไม่ยอมลงเจ้าหน้าที่มีแผนอย่างอื่นหรือไม่ นายประยูรกล่าวว่า “คณะที่พวกผมมาไม่มีแผนอะไร แค่ขอทำที่จอดฮ.(ลานเฮลิคอปเตอร์) ถ้าพี่น้องอยากคุยกับคนระดับสูงๆที่ตัดสินใจได้”
เมื่อชาวบ้านถามว่าจะยังไม่มีการดำเนินคดีใดๆใช่หรือไม่ นายประยูร กล่าวว่า ยังไม่มี หัวหน้า(อุทยานฯ)บอกว่า ถ้าจะดำเนินคดีแกสั่งเป็นชุดใหญ่แล้ว แต่แกอยากประนีประนอมให้พี่น้องได้คุยกันหาแนวออกที่ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกัน”
ทั้งนี้ ในหนังสือที่ชาวบ้านเขียนด้วยลายมือที่ยื่นให้กับนายประยูร ระบุข้อเสนอไว้ 3 ข้อ คือ 1. ต้องการเจรจาในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม 2. ต้องการหนังสือยืนยันจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และ 3. ทุกอย่างต้องมีหนังสือรับรองจาก 4 ท่าน ประกอบด้วย
- นายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ
- นายประยงค์ ดอกลำไย
- นายเกรียงไกร ชีช่วง
- นายสุรพงษ์ กองจันทึก
ชาวบ้านบางกลอยซึ่งอยู่ในเหตุการณ์และออกมาส่งข่าวแจ้งว่า คณะเจ้าหน้าที่อุทยานฯที่ขึ้นไปเจรจากับชาวบ้านครั้งนี้มีด้วยกัน 17 คนโดยทั้งหมดได้ไปพักอยู่ในอีกพื้นที่หนึ่งซึ่งไม่ไกลจากจุดที่ชาวบ้านบางกลอยพัก ทั้งนี้การหารือได้มีขึ้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ โดยคณะอุทยานฯไม่ได้เข้าไปยังจุดที่ชาวบ้านอยู่ทั้งหมด แต่ได้ส่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯและเจ้าหน้าที่ปิดทองหลังพระฯซึ่งเป็นลูกหลานชาวบางกลอยจำนวน 10 คนเข้าไปหารือ
คลิปสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2564