19 ก.ย.63 ตัวแทนกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) เดินทางมาสบทบขบวนการเคลื่อนไหวของ นักเรียน นิสิต นักศึกษาและกลุ่มประชาชนปลดแอกที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสนามหลวง หลังจากวานนี้ได้ออกแถลงการณ์สนับสนุน
นายจำนง หนูพันธุ์ ประธานขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ให้สัมภาษณ์ทีมสื่อพลเมืองว่าข้อเรียกร้องของกลุ่มฯ ตรงเป้าหมายที่สมาชิกพีมูฟโดนกระทำ โดนคุกคามมาโดยตลอด เรื่องการประกาศเขตป่า การประกาศเขตอุทยานทับที่ของคนจนและนโยบายทวงคืนผืนป่าซึ่งไม่ได้ทวงจากผู้มีอิทธิพลตามนโยบายของรัฐ แต่ทวงจากคนจนทั่วประเทศและคุกคามตลอดเวลา
โดย สถานการณ์ในพื้นที่ของพี่น้องเขตป่าคือ ป่ารุกชาวบ้าน ชาวบ้านไม่รุกป่า และนโยบายทวงคืนผืนป่าทำให้พี่น้องติดคุก เมื่อกฏหมายทำให้พี่น้องติดคุก ก็ต้องกลับไปที่นโยบายนั่นแหละคือรัฐต้องยกเลิกนโยบายทวงคืนผืนป่า เพราะว่าไม่ได้ทวงกับผู้มีอิทธิพลแต่ทวงกับคนจน คนตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่มีทางสู้ อย่างคุณแสงเดือน ตินยอด ชาวบ้าน อ.งาว จ.ลำปาง ซึ่งพีมูฟเพิ่งจัดงานสัมนาที่อนุสรณ์สถาน เป็นหนึ่งในตัวอย่าง ที่แม้แต่พี่น้องที่มีเครือข่ายคอยดูแล ยังโดนขนาดนี้ แล้วคนที่ไม่มีเครือข่ายคนเหล่านั้นติดคุกไปสักเท่าไหร่ ศาลชั้นต้นยกฟ้องเพราะเจ้าหน้าที่ป่าไม้ระดับสูงเป็นพยานที่ศาล เขายกฟ้องว่าไม่มีความผิด เป็นผู้ยากไร้ด้วย เข้าหลักเกณฑ์หมดเลย บังคับให้ตัดฟันสวนยางของตนเอง จนชีวิตเขาต้องแตกแยก ลูกที่กำลังเรียนก็ต้องออกจากโรงเรียน ซึ่งศาลชั้นต้นยกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์ลงโทษ เป็นประเด็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่านโยบายทวงคืนผืนป่าไม่ได้ทวงจากผู้มีอิทธิพลแต่ทวงกับคนจนทั่วประเทศ
“เราอยากบอกให้หยุดคุกคาม อยากปรามเจ้าหน้าที่ระดับล่าง เพราะขณะนี้ทุกเรื่องอยู่ในช่วงแก้ปัญหา บางคนโดนจนไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ได้ นอกจากกรณีของแสงเดือน ยังมีคดีของป่าไม้ที่พี่น้องจะโดนอีก 13,000 คดีรออยู่ อย่างน้อยการที่เรามาเคลื่อนไหวแบบนี้เพื่อบอกว่าการคุกคามมีแต่จะสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น การมาร่วมกับนิสิตนักศึกษาก็เป็นทางที่เจ้าหน้าที่ระดับล่างไม่กล้าจะคุกคาม เพราะถ้าคุกคามเราก็นำประเด็นเหล่านั้นมาเปิดเผยให้สาธารณะชนรับทราบ”
นายจำนง กล่าวด้วยว่า อีกประเด็นที่กลุ่มประชาชนปลดแอกเรียกร้อง และพีมูฟเห็นด้วย คือเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งพีมูฟเรียกร้องมาโดยตลอดและเสนอ 9 ด้านในการแก้ให้กับรัฐบาล และรัฐบาลก็รับปากมาตลอดว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ แต่อยู่มา 6 ปีก็ไม่ได้ทำอะไรจนมีการเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาและภาคประชาชน แต่จะแก้อย่างไรสุดท้ายก็ต้องก็อยู่ในกรอบ 2 ปีเหมือนเดิม ไม่สามารถแก้ได้โดยไวนอกจากยุบสภาหรือลาออก
“เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเมืองได้ในปัจจุบัน หลายคนมองว่ารัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องปากท้อง ไม่ใช่เรื่องทำมาหากินที่อยู่อาศัย แต่รัฐธรรมนูญคือทุกเรื่องแต่เกิดจนตาย และทุกคนจะบอกว่าไม่ยุ่งกับการเมืองไม่ได้ เพราะมันอยู่กับชีวิตเรามาแต่แรกเกิด ปฏิเสธไม่ได้ จะการเมืองภาคประชาชน หรือการเมืองแบบพรรคการเมืองก็ต้องเกี่ยวกับมันเพราะมันคือการแก้ปัญหาภายใต้รัฐธรรมนูญ”
ขณะที่กลุ่มผู้หญิง ตัวแทนกลุ่มสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) ที่ต่อสู้เรื่องที่ดินทำกิน เดินทางจาก จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ระบุเรื่องที่ดินทำกินเป็นเรื่องใหญ่ ต้องแก้ที่กฏหมาย โดยรัฐธรรมนูญเป็นตัวเปิด จึงมาสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ
“พี่มาในนาม สกต สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ในพื้นที่ของพี่เราต่อสู้เรื่องที่ดินทำกินมานาน คนไร้ที่ดินทำกินในสุราษฎร์มีหลายกลุ่มมาก เราจะสู้แบบโดดเดี่ยวไม่ได้ ต้องมาสู้กับพี่น้องประชาชนให้เป็นพลังเรียกร้องมาพร้อมกัน และเพื่อเปลี่ยนสิ่งที่เราจะสามารถจะทำได้ ถึงไม่ใช่ยุคเรา ยุคต่อไปก็ต้องเปลี่ยน
เรื่องที่ดินเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ ซึ่งการแก้ไข ก็ต้องแก้ที่กฏหมาย โดยรัฐธรรมนูญเป็นตัวเปิด ถ้ารัฐธรรมนูญไม่เปิดให้ประชาชนก็ขยับไม่ได้ ซึ่งตอนนี้เรื่องที่ดินกระทบหลายกลุ่ม ชาวเขา กลุ่มเกษตรกร เราเข้าร่วมกับพีมูฟด้วย ถ้าคำสั่งคสช.ยังไม่ถูกยกเลิก ก็กดเราอยู่อย่างนั้น ขยายที่ทำกินไม่ได้ ไล่คนออกจากป่า โดนคดี โดนจำคุกหลายคน ถ้ารัฐธรรมนูญไม่เปลี่ยนเราจะสู้ได้อย่างไร เราพร้อมจะมาสู้กับนักศึกษาและประชาชน”
สำหรับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) เป็นขบวนการภาคประชาชนที่ต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมร่วมกับพี่น้องชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนจากข้อกฎหมายและนโยบายของรัฐ ซึ่งมีเครือข่ายรวมทั้งสิ้น 7 องค์กร ได้แก่ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน, เครือข่ายสลัม 4 ภาค, เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง, สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ, สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด และเครือข่ายฮักน้ำของ โดยประเด็นที่พีมูฟสนับสนุนข้อเรียกร้องของกลุ่มประชาชนปลดแอก คือ
1. หยุดคุกคามประชาชน
2. ให้รัฐบาลยุบสภา
3. ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
author
