พอช.จับมือหน่วยงานภาคีเดินหน้าพัฒนาคลองเปรมประชากรทั้งระบบ

พอช.จับมือหน่วยงานภาคีเดินหน้าพัฒนาคลองเปรมประชากรทั้งระบบ

สภาพชุมชนริมคลองเปรมประชากรก่อนและหลังการพัฒนา

จากวิกฤตน้ำท่วมกรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 2554  รัฐบาลจึงมีแผนการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ริมคลองในคลองสายหลักของกรุงเทพฯ  และก่อสร้างเขื่อนระบายน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ-ป้องกันน้ำท่วม   เริ่มดำเนินการในคลองลาดพร้าวเป็นแห่งแรกในปี 2559   และคลองเปรมประชากรเริ่มในปี 2562  ที่ผ่านมา

คลองลาดพร้าวต้นแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง

คลองลาดพร้าวมีความยาวทั้งหมดประมาณ 22 กิโลเมตร  เริ่มจากคลองสอง  เขตสายไหม  ลงมาบรรจบกับคลองแสนแสบที่อุโมงค์เขื่อนระบายน้ำพระราม 9  เขตวังทองหลาง   มีชุมชนตั้งอยู่ริมคลองทั้งหมด 50 ชุมชน  รวม 7,069 ครัวเรือน  เป็นที่ดินราชพัสดุ  อยู่ในพื้นที่ 7 เขต  คือ  สายไหม   ดอนเมือง   หลักสี่  บางเขน  จตุจักร   ห้วยขวาง  และวังทองหลาง  โดยรัฐบาลมอบหมายให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’ จัดทำแผนงานการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองทั้ง 50 ชุมชน  เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2559 

ส่วนกรุงเทพมหานคร  รับผิดชอบการสร้างเขื่อนระบายน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในคลอง  ป้องกันน้ำท่วม  ระยะทางทั้ง 2 ฝั่ง  ประมาณ 45 กิโลเมตร   นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานต่างๆ  ร่วมสนับสนุนการดำเนินงาน  เช่น  สำนักงานเขต กทม.  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กองทัพบก  กระทรวงมหาดไทย   กรมส่งเสริมสหกรณ์  กรมธนารักษ์  การประปานครหลวง  การไฟฟ้านครหลวง  ฯลฯ

ธนัช  นฤพรพงศ์   ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ  ในฐานะผู้บริหารโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว-คลองเปรมประชากร  กล่าวว่า  หลักการสำคัญในการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง  คือ  หากชุมชนใดมีพื้นที่เหลือจากแนวก่อสร้างเขื่อนฯ  สามารถสร้างบ้านใหม่ในชุมชนเดิมได้  จะต้องทำสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุกับกรมธนารักษ์  เปลี่ยนสถานะจากชุมชนรุกล้ำลำคลองเป็นผู้เช่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  ระยะเวลาเช่าช่วงแรก 30 ปี

โดยกรมธนารักษ์จะคิดค่าเช่าในอัตราผ่อนปรน (ตั้งแต่ 1.50-3 บาท/ตารางวา/เดือน)  และชาวชุมชนจะต้องรื้อย้ายบ้านเดิมเพื่อปรับผังชุมชนใหม่  เพื่อให้ทุกคนอาศัยอยู่ในชุมชนเดิมได้  โดยได้รับสิทธิในที่ดินเท่ากันทุกครอบครัว   หากชุมชนใดเหลือพื้นที่ไม่พอ  จะต้องจัดซื้อที่ดินแปลงใหม่ที่ไม่ไกลจากเดิมเพื่อปลูกสร้างบ้าน

ขณะที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ หรือ พอช.จะสนับสนุนงบประมาณการก่อสร้าง (บางส่วน) สินเชื่อเพื่อสร้างบ้านและซื้อที่ดิน (กรณีอยู่อาศัยที่เดิมไม่ได้)  รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเป็นที่ปรึกษาเพื่อให้ชุมชนบริหารจัดการเอง  ตามแนวทาง ‘บ้านมั่นคง’ ของ พอช. โดยชุมชนจะต้องรวมตัวกันจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการ  เช่น  ร่วมกันสำรวจข้อมูลชุมชน  วางผังชุมชน  จัดสรรพื้นที่ใช้สอย  ร่วมกันออกแบบบ้าน  จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อเป็นทุนสร้างบ้าน   ฯลฯ

“การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง   จะใช้แนวทางการทำงานตามโครงการบ้านมั่นคง ซึ่งมี 9 ขั้นตอน  เช่น   การสร้างการรับรู้และความเข้าใจโครงการ  การทบทวนข้อมูลครัวเรือน  การรับรองสิทธิผู้เข้าร่วมโครงการ  การจดแจ้งจัดตั้งสหกรณ์   การรังวัดที่ดินเพื่อเข้าสู่กระบวนการเช่าที่ดินราชพัสดุจากกรมธนารักษ์   การออกแบบวางผังการขออนุมัติโครงการและงบประมาณจาก พอช.   โดยชุมชนจะต้องรวมกลุ่มกันในรูปแบบของสหกรณ์ เพื่อสร้างบ้านและบริหารโครงการ”  ธนัชแจงกระบวนการพัฒนาที่อยู่อาศัย

ส่วนงบประมาณที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ สนับสนุนการก่อสร้างบ้านใหม่ แบ่งเป็น 1.การปรับปรุงสาธารณูปโภค  อุดหนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย  ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ  ฯลฯ  รวมครัวเรือนละ 147,000 บาท  2.งบสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย  วงเงินครัวเรือนละไม่เกิน 400,000 บาท  ผ่อนชำระ 20 ปี  อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4%  

บ้านใหม่ในคลองลาดพร้าว  สร้างบ้านเสร็จแล้ว 2,931 หลัง

          โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว  เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี  2559  นำร่องที่ชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบูรณ์  (ตรงข้ามตลาดสะพานใหม่) ซอยพหลโยธิน  54  เขตสายไหม  ก่อสร้างเสร็จในช่วงต้นปี 2560  รวมทั้งหมด 65 ครัวเรือน   ส่วนใหญ่เป็นบ้านแถว 2 ชั้น ขนาด 4 X6 ตารางเมตร  ในจำนวนนี้เป็นบ้านกลางชั้นเดียวที่ชาวชุมชนร่วมกันบริจาคเงินสร้างบ้านให้ผู้ด้อยโอกาสฐานะยากจนอยู่ฟรี 1 หลัง 

อวยชัย  สุขประเสริฐ  ผู้นำชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบูรณ์  กล่าวว่า  จากสภาพเดิมเป็นชุมชนแออัด  บ้านไม้เก่าๆ ผุพัง  เพราะสร้างและอยู่กันมานานกว่า 50-60 ปี  สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม  มีทางเดินเป็นสะพานไม้โย้เย้   มีขยะอยู่ในคลอง  น้ำก็ดำเน่าเหม็น  ตอนแรกที่จะทำโครงการชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อว่าจะทำได้  คิดว่ากรรมการคงจะโกงกิน 

แต่เมื่อมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาสนับสนุน  มีรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ (พลตำรวจเอกอดุลย์  แสงสิงแก้ว รมว.พม.ในขณะนั้น) มาเป็นประธานยกเสาเอกสร้างบ้านหลังแรก  ชาวบ้านจึงเริ่มเชื่อถือ  เมื่อสร้างเสร็จ 10-20 หลังแรก  ชุมชนอื่นๆ ที่อยู่ติดกันจึงทำตามบ้าง 

 “โครงการบ้านมั่นคงริมคลองเราไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง  แต่ทำเพื่อลูกหลาน  จะได้มีที่ที่อยู่อาศัยที่มั่นคง  มีสภาพ แวดล้อมที่ดี  เมื่อสร้างเสร็จทำให้ชุมชนมีสภาพดีขึ้นมาก   มีทางเดินเลียบคลอง  ปลูกต้นไม้และผักสวนครัวริมคลอง  มีลานออกกำลังกาย  สนามเด็กเล่น  มีถังบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงคลอง  และมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาสนับสนุน  เรื่องการจัดการขยะ  สร้างอาชีพ  ดูแลผู้สูงอายุ  คนพิการ   ทำให้ชีวิตของพวกเราดีขึ้นกว่าเดิม”  อวยชัยบอกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น 

ปัจจุบันชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบูรณ์ และชุมชนต่างๆ ที่สร้างบ้านเสร็จแล้ว เป็นสถานที่ศึกษาดูงานการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง  มีคณะดูงานจากต่างประเทศและในประเทศมาศึกษาดูงานตลอดทั้งปี

จากชุมชนแรกในคลองลาดพร้าวที่ขยับบ้านออกจากแนวคลอง   ขณะนี้ พอช.ได้สนับสนุนให้ชุมชนต่างๆ พัฒนาที่อยู่อาศัยไปแล้ว 35 ชุมชน  รวม 3,353 ครัวเรือน    โดยสร้างบ้านเสร็จแล้ว 2,931 หลัง  จากเป้าหมายทั้งหมด 50 ชุมชน  รวม 7,069 ครัวเรือน   

บ้านที่สร้างเสร็จแล้วในคลองลาดพร้าว (ช่วงเขตสายไหม ตรงข้ามกองทัพอากาศ)

เดินหน้าพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนคลองเปรมฯ 6,386 ครัวเรือน

ส่วนการพัฒนาและฟื้นฟูคลองเปรมประชากร  ซึ่งมีปัญหาน้ำเน่าเสีย  การระบายน้ำไม่มีประสิทธิภาพ  เนื่องจากมีสิ่งปลูกสร้างกีดขวางลำคลองเหมือนกับคลองลาดพร้าวนั้น  คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 เห็นชอบแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลองและการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร  โดยให้หน่วยงานต่างๆ นำแผนไปปฏิบัติการ

ธนัช  นฤพรพงศ์   ผู้ช่วยผู้อำนวยการ พอช. กล่าวว่า  ชุมชนในคลองเปรมฯ มีทั้งหมด 32  ชุมชนในเขตกรุงเทพฯ  และอีก 6  หมู่บ้านในจังหวัดปทุมธานี  รวมทั้งหมด 6,386  ครัวเรือน   โดย พอช.จะใช้แนวทางดำเนินงานและสนับสนุนชุมชนเช่นเดียวกับคลองลาดพร้าว  เริ่มดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักรเป็นชุมชนแรก  โดยมีพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีเป็นประธานยกเสาเอกสร้างบ้านหลังแรกเมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมา

“ขณะนี้ชุมชนประชาร่วมใจ 2 สร้างบ้านเสร็จแล้ว  เฟสแรกจำนวน  20 ครัวเรือน  จากทั้งหมด 193 ครัวเรือน  โดยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา  พลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา  ได้เดินทางมามอบทะเบียนบ้านให้แก่ชาวชุมชนที่สร้างบ้านเสร็จ 20 หลังแรก  ส่วนที่เหลืออีก 173 หลัง  ตามแผนงานจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้  และจะทยอยสร้างในชุมชนอื่นๆ ต่อไป”  ผู้ช่วย ผอ.พอช. กล่าว

                ส่วนแบบบ้านมีหลายขนาดเพื่อให้ชาวชุมชนได้ร่วมออกแบบและเลือกให้ตรงกับความต้องการ  ส่วนใหญ่เป็นบ้านแถว  เช่น  บ้านแถวชั้นเดียว  ขนาด 4 X 7 ตารางเมตร  ราคา 290,000 บาท  ผ่อนชำระเดือนละ 1,500 บาท  บ้านแถวสองชั้น  ขนาด 4 X 7 ตารางเมตร  ราคา 450,000 บาท  ผ่อนชำระเดือนละ 2,600 บาท  ระยะเวลาผ่อนชำระ 20 ปี

                ชุมชนประชาร่วมใจ 2 ถือเป็นชุมชนแห่งแรกในคลองเปรมประชากรที่ชาวชุมชนร่วมใจกันรื้อบ้านออกจากแนวคลองเพื่อให้รัฐบาลดำเนินการพัฒนาคลองเปรมฯ ทั้งระบบ    โดยก่อนหน้านี้หน่วยงานต่างๆ  เช่น  กองทัพภาคที่ 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กรุงเทพมหานคร  กรมธนารักษ์  กรมส่งเสริมสหกรณ์  สำนักงานเขตต่างๆ  และหน่วยงานท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี  ร่วมกันจัดเวทีประชุมสร้างความเข้าใจกับชาวชุมชนเพื่อให้เข้าร่วมโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย  โดยมีชุมชนที่เข้าร่วมทั้งหมด  32 ชุมชนในเขตกรุงเทพฯ  และ 6 หมู่บ้านในเขต จ.ปทุมธานี  รวมทั้งหมด 6,386 ครัวเรือน

แผนพัฒนาคลองเปรมทั้งระบบ

คลองเปรมประชากรมีความยาวทั้งหมด 50 กิโลเมตรเศษ  เริ่มจากคลองผดุงกรุงเกษม  กรุงเทพฯ-ปทุมธานี-พระนครศรีอยุธยา  มีการปลูกสร้างบ้านรุกล้ำคลองเป็นจำนวนมาก  ทำให้คลองตื้นเขิน การระบายน้ำไม่คล่องตัว  ชุมชนริมคลองส่วนใหญ่มีสภาพแออัด  สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม  มีปัญหาขยะและน้ำเน่าเสีย

แผนพัฒนาคลองเปรมฯ ทั้งระบบจะใช้ระยะเวลา 9   ปี (พ.ศ.2562-2570)  เช่น  โครงสร้างพื้นฐาน ระยะเร่งด่วน ปี 2562 – 2565 จำนวน 4 โครงการ  วงเงิน 4,448 ล้านบาท  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ  ป้องกันน้ำท่วม  และบำบัดน้ำเสียในคลองเปรมฯ ทั้งระบบ  ตั้งแต่กรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา  โดย กทม. จะก่อสร้างเขื่อนระบายน้ำจากถนนเทศบาลสงเคราะห์–สุดเขต กทม. ระยะทางทั้ง 2 ฝั่งประมาณ  27.20  กิโลเมตร   (ขณะนี้ก่อสร้างเขื่อนฯ ช่วงแรกในเขตดอนเมือง  ระยะทาง 580 เมตรเสร็จแล้ว)

กรมชลประทานดำเนินการขุดลอกคลองเปรมฯ ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี  จากคลองรังสิต–คลองเชียงรากน้อย ระยะทาง 15.3 กิโลเมตร และขุดลอกคลองในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จากคลองเชียงรากน้อย – สถานีสูบน้ำเปรมเหนือบางปะอิน ระยะทาง 8.1 กิโลเมตร  ฯลฯ 

นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานต่างๆ ร่วมสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ริมคลอง  เช่น  สร้างพื้นที่สีเขียว  ตลาดนัดริมคลอง  พัฒนาเส้นทางจักรยานเลียบคลอง  เชื่อมเส้นทางคมนาคมทั้งทางรถไฟและรถไฟฟ้า  และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน  ชมวิถีชีวิตชุมชนริมคลอง  เป็นการพัฒนาคลองเปรมประชากรทั้งระบบ..!!

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

Prev

May 2025

Next

Mon

Tue

Wed

Thu

Fri

Sat

Sun

28
29
30
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
1

22 May 2025

Nothing to show.

เข้าสู่ระบบ