ให้ยกเลิกมติ ครม.และหยุดใช้อำนาจพิเศษของ ศอ.บต. ขับเคลื่อนโครงการจะนะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ที่กำลังทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ
จดหมายเปิดผนึก
ถึงนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เรื่อง ให้ยกเลิกมติ ครม.และหยุดใช้อำนาจพิเศษของ ศอ.บต.
ขับเคลื่อนโครงการจะนะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ที่กำลังทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการ “จะนะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” ครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 และครั้งที่สองเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 อันถือเป็นการอนุมัติหลักการในการดำเนินโครงการ และอนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการนี้ 18,000 กว่าล้านบาท บนพื้นที่ทั้งหมด 16,700 ไร่ ในพื้นที่ 3 ตำบล อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา โดยมอบหมายให้ ศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. เป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้ ซึ่งจากการดำเนินโครงการที่ผ่านมาพบข้อสังเกตุที่มีความผิดปกติหลายประการ ได้แก่
1. โดยโครงการนี้ได้ใช้อำนาจของรัฐบาล และ ศอ.บต. ดำเนินการอย่างรวบรัดขั้นตอน โดยการอนุมัติโครงการพร้อมอนุมัติงบประมาณเบื้องต้น 18,000 กว่าล้านบาท ทั้งๆที่ยังไม่มีการจัดการศึกษาโครงการ ดำเนินการศึกษาผลกระทบ และจัดรับฟังความคิดเห็นโครงการก่อนการพิจารณาอนุมัติ ซึ่งถือว่า ขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน อีกทั้ง ยังสร้างความสับสนให้กับประชาชนในพื้นที่ว่า โครงการนี้ถูกอนุมัติไปแล้วไม่สามารถแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างได้
2. ภายหลังที่ได้มีการอนุมัติโครงการโดยครม.แล้ว ได้มีความพยายามจัดให้มีเวทีชี้แจงโครงการและรับฟังความคิดเห็น โดยมีการอ้างว่า ศอ.บต. และหน่วยงานได้มีความพยายามจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่ แต่กลับเป็นเพียงการจัดเวทีเพื่อเป็นการชี้แจงโครงการถึงผลดีของโครงการ มิได้มีการพูดถึงผลกระทบของโครงการแต่อย่างใด และยังมีการอ้างว่า โครงการนี้เป็นนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสร้างความเจริญให้กับพื้นที่ โดยในแต่ละเวทีผู้ที่สามารถเข้าร่วมเวทีได้นั้นเป็นเพียงผู้นำท้องถิ่นหรือประชาชนที่ได้รับการคัดเลือกให้มาเข้าประชุมเท่านั้น แต่กลับปิดกั้นกลุ่มคนที่เห็นต่างในการแสดงความคิดเห็นหรือในการเข้าร่วม
ทั้งนี้ รวมถึงการจัดเวทีเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 ที่โรงเรียนจะนะวิทยา ที่ผ่านมา ที่มีการใช้กองกำลังตำรวจและฝ่ายความมั่นคงอื่นๆ กว่าหนึ่งพันนาย ปิดล้อมบริเวณเวทีดังกล่าว จนทำให้ประชาชนในอำเภอจะนะที่ต้องการเข้าร่วมเวทีไม่สามารถเข้าถึงได้หรือเข้าถึงไม่ได้โดยง่าย ทั้งๆที่โครงการจะนะเมืองต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตนี้ เป็นโครงการขนาดใหญ่ระดับประเทศ อันจะส่งผลกระทบกับประชาชนในวงกว้างทั้งจังหวัด แต่กลับไม่ได้เปิดพื้นที่รับฟังความคิดเห็นให้ประชาชนชาวจังหวัดสงขลาทั้งหมดได้เข้ามีส่วนร่วม โดยจำกัดไว้เฉพาะพื้นที่ 3 ตำบลเท่านั้น และคนใน 3 ตำบลนี้ก็ยังกีดกันผู้ที่เห็นต่างไม่ให้เข้าร่วมเวทีอีกด้วย
3. เป็นที่เห็นได้ชัดว่า ผู้จะได้รับผลประโยชน์จากโครงการนี้ คือ กลุ่มทุนเพียง 2 บริษัท แต่กลับมีการกำหนดให้ ศอ.บต. ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ ที่อาศัยอำนาจการบริหารราชการและความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ในมือ เป็นกลไกขับเคลื่อนด้วยวิธีการพิเศษที่ไม่สนใจขั้นตอนตามกฎหมายปกติ เพื่อจะให้โครงการนี้เกิดขึ้นให้ได้ แม้ ศอ.บต. จะอ้างว่าดำเนินการตามพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 แต่กฎหมายดังกล่าวก็ไม่ได้กำหนดระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจนต่อการใช้อำนาจในเรื่องนี้ ซึ่งมองได้ว่า ศอ.บต. อาจจะกำลังดำเนินโครงการนี้เกินอำนาจหน้าที่ของตนเองเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับคนบางกลุ่มจนเกินงาม โดยการเอาความเจริญด้านเศรษฐกิจของคนจะนะและของประเทศมาเป็นข้ออ้าง ทั้งๆที่ยังไม่ได้มีการศึกษาข้อเท็จจริงต่อเรื่องนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจแต่อย่างใดทั้งสิ้น และเป็นการส่งเสริมกลุ่มทุนเป็นการเฉพาะที่ไม่น่าจะถูกต้อง
4. การดำเนินโครงการนี้ของรัฐบาลภายใต้การดำเนินงานของ ศอ.บต. มีการกำหนดรายละเอียดโครงการและพื้นที่ตั้งของโครงการมาแล้ว โดยกำหนดให้เป็นกิจกรรมและโครงการขนาดใหญ่ ที่อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิต หรือส่วนได้เสียสำคัญอื่นใดของประชาชนหรือชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ซึ่งเข้าข่ายเป็นโครงการรัฐที่จะต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 หมวดหน้าที่ของรัฐ มาตรา 58 ที่กำหนดให้รัฐต้องดำเนินการให้มีการศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนหรือชุมชน หรือการจัดทำรายงาน EIA หรือ EHIA และต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนและชุมชนที่เกี่ยวข้องก่อน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาดำเนินการหรืออนุญาต อีกทั้ง โครงการนี้จะมีผลกระทบอย่างยิ่งทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมในวงกว้าง ซึ่งจำเป็นต้องมีการจัดทำการประเมินผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA เพื่อให้เห็นถึงผลกระทบและประโยชน์ที่จะได้รับในวงกว้าง ก่อนที่จะมาจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง แต่ไม่ปรากฏว่า ได้มีการดำเนินการใดๆในการศึกษาผลกระทบไม่ว่าจะเป็นการทำ EIA หรือ EHIA หรือ SEA และไม่ได้มีการจัดรับฟังความคิดเห็นตามกฎหมายนี้ ก่อนที่จะอนุมัติโครงการ แต่อย่างใด
5. การดำเนินโครงการนี้จะส่งผลกระทบต่อสิทธิในการกำหนดทิศทางการพัฒนา และการมีส่วนร่วมของประชาชนกับรัฐในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายใต้กรอบของกฎหมายผังเมือง ซึ่งประชาชนชาวจังหวัดสงขลาได้ร่วมกันจัดทำผังเมืองรวมสงขลาไว้ก่อนแล้ว โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการจัดทำเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี อันเป็นการใช้สิทธิที่ประชาชนได้เข้าไปร่วมกับรัฐในการกำหนดการพัฒนาเชิงพื้นที่ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่โครงการนี้โดย ศอ.บต.กลับจะมาละเมิดกฎหมายผังเมือง ด้วยการดำเนินการที่จะเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดผังเมืองเพื่อให้เกิดโครงการนี้ได้
เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และภาคีองค์กรเครือข่ายภาคประชาชน 214 องค์กร ดังมีรายชื่อข้างท้าย เห็นว่า โครงการนี้จะสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อฐานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในอนาคต และจะทำให้เกิดการเปลี่ยนสภาพของชายหาดในพื้นที่อำเภอจะนะ และอำเภอใกล้เคียงอย่างหนัก อันรวมถึงผลกระทบของสภาพอากาศจากมลพิษโรงงานจำนวนมาก และน้ำเสียที่จะปล่อยลงสู่ทะเล ที่จะทำลายระบบนิเวศโดยรวมของทะเลจังหวัดสงขลา อันเป็นแหล่งสัตว์น้ำทะเลที่สำคัญของประเทศ และจะนำมาซึ่งความยากลำบากในการดำรงชีวิตปกติของประชาชนในชุมชนทั้ง 3 ตำบลที่ถูกกำหนเป็นพื้นที่โครงการ รวมตลอดทั้งตำบลใกล้เคียง ของอำเภอจะนะอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แม้ ศอ.บต. จะพยายามอ้างว่า เขตอุตสาหกรรมแห่งนี้จะมีความก้าวหน้ากว่าทุกแห่ง แต่กากขยะพิษ อากาศพิษ และน้ำเสียเหล่านั้น โครงการจะบริหารจัดการแบบก้าวหน้าแห่งอนาคตได้อย่างไร และจะเคลื่อนย้ายสิ่งเหล่านี้ไปทิ้งไว้ที่ไหน เพราะที่สุดแล้ว รัฐบาล หรือ ศอ.บต. ก็จะไม่ใช่ผู้ประกอบการหลักในเขตอุตสาหกรรมแห่งนี้ ซึ่งแม้จะมีการกำหนดเงื่อนไข ข้อตกลง หรือสนธิสัญญาใดๆก็ตามแต่ ก็ไม่ได้มีหลักประกันใดๆว่าสิ่งเหล่านั้นจะถูกยอมรับและปฏิบัติตามในอนาคตโดยกลุ่มทุนดังกล่าว เพราะทั้งรัฐบาล และ ศอ.บต. ก็อาจจะถูกยุบเลิกหายไป แต่ประชาชนในพื้นที่จะต้องอยู่กับเขตอุตสาหกรรมแห่งนี้ไปชั่วลูกชั่วหลาน
การดำเนินงานในโครงการนี้ของ ศอ.บต. ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา หลังจากรัฐบาลของอนุมัติโครงการ ได้สร้างความขัดแย้งและแตกแยกของคนในพื้นที่ 3 ตำบลอย่างหนัก และกำลังลุกลามไปทั้งอำเภอจะนะ ซึ่งขณะนี้ไม่ได้มีเพียงคนที่เห็นด้วยกับคนที่คัดค้านโครงการนี้เท่านั้น แต่กำลังมีคนอีกกลุ่มที่ใหญ่กว่าซึ่งรวมตัวกันเพื่อต่อรองผลประโยชน์จากการเกิดขึ้นของเขตอุตสาหกรรมแห่งนี้ ซึ่งปรากฏการณ์ของความอลหม่านในวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 ที่ ศอ.บต.อ้างว่า เป็นการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน 3 ตำบล นั้น บ้างก็เข้าใจว่าเป็นเวทีประชาพิจารณ์เพื่อขอมติเห็นชอบจากประชาชน บ้างก็เข้าใจว่าเป็นเวทีที่จัดขึ้นเพื่อต้องการรายชื่อประชาชนไปแนบในการขอเปลี่ยนผังเมืองจากสีเขียวให้เป็นสีม่วงอันเป็นขั้นตอนที่ต้องทำให้สำเร็จของ ศอ.บต. จึงทำให้วันดังกล่าวมีเวทีเกิดขึ้นถึง 3 เวที คือ เวทีของ ศอ.บต. ที่จัดขึ้นเองที่โรงเรียนจะนะวิทยา เวทีของกลุ่มประชาชนซึ่งจัดขึ้นที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน และเวทีของเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นที่จัดขึ้นในตลาดอำเภอจะนะ ซึ่งมีการอ้างว่า เวทีที่ อบต.ตลิ่งชันมีการรับรองพร้อมจัดสรรงบสนับสนุนโดย ศอ.บต.ด้วย จึงยังความสับสนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก รวมถึงสื่อมวลชนและสาธารณะชนที่ติดตามเรื่องราวในวันดังกล่าว จนกลายเป็นคำถามว่า สาระสำคัญที่แท้จริงของการจัดเวทีเหล่านั้น ศอ.บต. ต้องการอะไร และอยู่ในขั้นตอนใดของโครงการจะนะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต
การดำเนินงานในโครงการดังกล่าวของศูนย์อำนาจการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ครั้งนี้ กำลังสร้างความสับสนให้กับสังคม และยังนำมาซึ่งความขัดแย้งระหว่างประชาชนในอำเภอจะนะเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
ดังนั้น เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และเครือข่ายภาคีภาคประชาชนดังมีรายชื่อข้างท้าย จึงเห็นว่า การดำเนินโครงการ “จะนะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” น่าจะเป็นการดำเนินการที่ผิดขั้นตอนและกระบวนการภายในและกฎหมาย ดังนี้
- การดำเนินโครงการไม่ได้ดำเนินการภายใต้เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 58 เนื่องจากได้มีการอนุมัติโครงการไปก่อนที่จะมีการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ไม่มีการจัดทำการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนก่อนตามที่กฎหมายกำหนดไว้
- กระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่ ศอ.บต.อ้างถึง ว่าได้ดำเนินการมาแล้วหลายสิบเวที ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงเวทีเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 ไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ.2548 และไม่มีความชัดเจนว่าศอ.บต.ได้ดำเนินกระบวนการเหล่านั้นให้อยู่ในส่วนไหนของขั้นตอนการดำเนินโครงการ
- แม้ ศอ.บต. จะอ้างพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 ตามมาตรา 9 และ 10 ถึงอำนาจหน้าที่ในการดำเนินโครงการนี้ หากแต่พระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวได้กำหนดให้ ศอ.บต. จัดทำระเบียบเพื่อการปฏิบัติในโครงการนั้นด้วย ซึ่งไม่เห็นว่า การดำเนินงานในช่วงเวลาที่ผ่านมาหลังคณะรัฐมนตรีอนุมัติเห็นชอบหลักการโครงการเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ศอ.บต.ได้ยึดระเบียบปฏิบัติใดในการดำเนินการเหล่านั้น และได้หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการนั้นๆ ด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะข้อปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตลอดทั้งการแก้ไขผังเมือง
- โครงการนี้เกิดขึ้นบนฐานคิดที่ต้องการสร้างงาน สร้างรายได้ เพื่อทำให้เศรษฐกิจของประชาชนดีขึ้น ด้วยหวังว่าการมีรายได้มากขึ้นจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ จึงเป็นตรรกะเหตุผลที่ต้องตรวจสอบ และจะต้องมีการศึกษาหาข้อมูลรองรับว่าโครงการนี้จะสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนในพื้นที่แค่ไหนอย่างไร ในขณะเดียวกันจะมีผลกระทบในมิติต่างๆแค่ไหน อย่างไร รวมถึงการศึกษาศักยภาพโดยรวมของอำเภอจะนะว่าควรจะต้องพัฒนาไปในทิศทางไหน ที่มากกว่าการยัดเยียดนิคมอุตสาหกรรมให้กับประชาชนในพื้นที่เท่านั้น
เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นและเครือข่ายภาคีภาคประชาชนดังมีรายชื่อข้างท้าย จึงขอเสนอให้ท่านและรัฐบาลดำเนินการ ดังนี้
- ขอให้รัฐบาลทบทวนโครงการนี้ โดยต้องยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีทั้งสองครั้ง คือ มติเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 และมติเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ทั้งนี้ ปัจจุบันจังหวัดสงขลามีนิคมอุตสาหกรรมอยู่แล้วถึง 2 แห่ง คือ นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ (ฉลุง) และเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา ซึ่งรัฐบาลควรจะต้องสร้างมาตรการส่งเสริมสนับสนุนและเชิญชวนให้ภาคเอกชนได้เข้าไปใช้ประโยชน์พื้นที่ทั้งสองแห่งให้เต็มพื้นที่เสียก่อน อันเป็นไปตามความต้องการของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
- หากรัฐบาลจะเดินหน้าเพื่อพัฒนาอำเภอจะนะต่อไป ต้องมีการศึกษาการประเมินผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) และการศึกษา EHIA ตามมาตรา 58 เพื่อเป็นข้อมูลนำมากำหนดทิศทางการพัฒนาพื้นที่โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ เพราะการพัฒนาที่ยั่งยืนไม่อาจจะเกิดจากการพัฒนาอุตสาหกรรมเพียงด้านเดียว และขอให้มีการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้น โดยการสร้างกลไกอันเป็นที่ยอมรับ มีความหลากหลายของภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องอย่างสำคัญ เพื่อทำการขับเคลื่อนแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง และสร้างมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับคนในพื้นที่อย่างเท่าเทียมกัน โดยต้องศึกษาศักยภาพของพื้นที่ในทุกมิติเสียก่อน แล้วจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นอย่างแท้จริงก่อนที่จะกำหนดให้โครงการใดๆขึ้นในพื้นที่
โอกาสนี้ พวกเราขอประกาศว่า โครงการ “จะนะเมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” คือ โครงการที่รัฐและธุรกิจกำลังละเมิดแผนสิทธิมนุษยชนและแผนปฏิบัติการชาติว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนที่รัฐบาลกำหนดขึ้นเอง ละเมิดหลักการสิทธิมนุษยชน กระทำผิดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ และระเบียบขั้นตอนการดำเนินโครงการในกฎหมายอื่นๆอีกหลายฉบับ หากรัฐบาลไม่ทำการทบทวนโดยการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีทั้งสองครั้ง และยังปล่อยให้ ศอ.บต.ดำเนินโครงการนี้อย่างผิดระบบผิดระเบียบอีกต่อไป พวกเราจะดำเนินการในทางกฎหมายตามสิทธิหน้าที่อันบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
พร้อมกันนี้ เราขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชน ภาคประชาสังคม และองค์กรภาคีเครือข่ายต่างๆทั่วประเทศ ได้โปรดออกมาเรียกร้องในทุกรูปแบบ เพื่อให้รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นและภาคีเครือข่ายภาคประชาชนดังกล่าวต่อไป
ด้วยความนับถือ
เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และเครือข่ายภาคประชาชน 94 องค์กร
วันที่ 17 กรกฎาคม 2563
รายนามองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนร่วมลงชื่อแนบท้ายจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี
- สมาคมรักษ์ทะเลจะนะ จ.สงขลา
- กลุ่มอาหารปันรัก
- มหาวิทยาลัยชาวบ้านลานหอยเสียบ อ.จะนะ จ.สงขลา
- เครือข่ายประชาชนปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสองฝั่งทะเล
- เครือข่ายชุมชนรักษ์อ่าวปากบารา จ.สตูล
- เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล
- กลุ่มรักษ์เขาโต๊ะกรัง จ.สตูล
- กลุ่มอนุรักษ์เขาลูกเล็กลูกใหญ่ จ.สตูล
- สมาคมพิทักษ์สิทธิชุมชนเขาคูหา จ.สงขลา
- ชมรมชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดสตูล
- เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนตำบลจังหวัดสตูล
- สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย
- สมาคมชาวประมงพื้นบ้านตำบลปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล
- เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกภาคใต้
- สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้
- สมาคมสมาพันธ์สตรีประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย
- สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) สาขาหาดใหญ่
- เครือข่ายศิลปินเพื่อสิ่งแวดล้อมจังหวัดสตูล
- เครือข่ายเยาวชนคนรักษ์ท่าแพ จ.สตุล
- กลุ่มรักษ์บ้านพรุ จ.สตูล
- กลุ่มสองล้อรักบ้านเกิด จ.สตูล
- สมาคมประมงพื้นบ้านปากน้ำแหลมสิงห์ จ. จันทบุรี
- สมาคมประมงพื้นบ้านอ่าวคั่นกระได จ.ประจวบคีรีขันธ์
- กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรและสัตว์น้ำชายฝั่งบ้านคันธุลี จ.สุราษฎร์ธานี
- เครือข่ายสิทธิพลเมืองพัฒนาคุณภาพชีวิต จังหวัดสตูล
- เครือข่ายคนอินทรีย์วิถีเมืองลุง จ.พัทลุง
- เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน
- เครือข่ายเขียนอนาคตประเทศไทย
- เครือข่ายชุมชนประมงพื้นบ้านจังหวัดภูเก็ต
- สมาคมประมงพื้นบ้านหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช
- สมาคมเครือข่ายประมงพื้นบ้านอ่าวท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
- สมาคมคนรักเลกระบี่ จ.กระบี่
- สมาคมประมงพื้นบ้านในถุ้ง จ.นครศรีธรรมราช
- กลุ่มประมงพื้นบ้านหินขาว จ.ระยอง
- กลุ่มประมงพื้นบ้านเขาปิหลายร่วมใจ จ.พังงา
- สมาคมประมงพื้นบ้านรักทะเลตราด จ.ตราด
- เครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลอันดามัน
- เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองภาคใต้
- สภาชนเผ่าพื้นเมืองภาคใต้
- กลุ่มดินสอสี
- กลุ่มดีอีหลี อีสานบ้านเฮา
- กลุ่มบ้านไร่อุทัยยิ้ม
- กลุ่มสุไหงปาดีดีจัง
- กลุ่มดีจังสุรินทร์เหลา
- กลุ่มสมรมคอมปานี
- กลุ่มพงลีแป
- กลุ่มรักยิ้ม
- กลุ่มรักษ์เขาใหญ่
- สำนักกิจกรรมกิ่งก้านใบ
- กลุ่มพัทลุงยิ้ม
- กลุ่มไม้ขีดไฟ
- กลุ่มใบไม้
- กลุ่มลูกมะปราง
- กลุ่มยังยิ้ม
- กลุ่มประมงพื้นบ้านบ้านหินช้าง จ.ระนอง
- เครือข่ายชาติพันธุ์ชาวเลชนเผ่ามอแกน-มอแกลน
- เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมืองจังหวัดพังงา
- เครือข่ายผู้ประสบภัยสึนามิอันดามัน
- เครือข่ายสิทธิชุมชนพัฒนาภูเก็ต
- เครือข่ายการแก้ปัญหาคืนสัญชาติคนไทยพลัดถิ่น จังหวัดระนอง ประจวบคีรีขันธ์
- เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.)
- เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง จ.อุบลราชธานี
- เครือข่ายภัยพิบัติชุมชน
- เครือข่ายนักกฏหมายสิทธิมนุษยชนภาคใต้
- เครือข่ายภัยพิบัติตำบลท่าหิน จ.สงขลา
- เครือข่ายภัยพิบัติโดยชุมชน จ.นครศรีธรรมราช
- เครือข่ายภัยพิบัติชุมชน จ.พังงา
- เครือข่ายสิ่งแวดล้อมจังหวัดปทุมธานี
- สมาคมประชาสังคมพังงาแห่งความสุข
- เครือข่ายองค์กรชุมชนจังหวัดพังงา
- กลุ่มลูกขุนน้ำ
- กลุ่มคลองเตยดีจัง
- เครือข่ายปกป้องดิน น้ำ ป่า นครศรีธรรมราช-พัทลุง
- เครือข่ายปกป้องพื้นที่ผลิตอาหารภาคใต้
- เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพประชาชนภาคใต้
- เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้
- เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมภาคใต้
- เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (คปส.)
- สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี PerMAS
- เครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ปกป้องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ (PERMATAMAS)
- กลุ่มด้วยใจ
- วิษณุ เหล่าธนถาวร ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลแม่นางขาว
- เครือข่ายอนุรักษ์และพัฒนาลุ่มน้ำคลองภูมี
- กลุ่มประมงพื้นบ้านบ้านน้ำราบ จ.ตรัง
- กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านห้วยน้ำขาว จ.กระบี่
- คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้)
- สมาคมรักษ์ทะเลไทย
- มูลนิธิอันดามัน
- มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน
- มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม
- เครือข่ายประชาชนปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสงขลา – สตูล
- มูลนิธิภาคใต้สีเขียว
- ศูนย์สร้างจิตสํานึกนิเวศวิทยา
- มูลนิธิชุมชนไท
- เครือข่ายทรัพยากรชายแดนใต้
- เครือข่ายเกษตร
- เครือข่ายวางแผนและผังเมืองเพื่อสังคม
- เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมภาคใต้
- สมัชชาประชาชนภาคใต้
- ภาคีนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ
- แนวร่วมนวชีวิน
- กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย
- กลุ่มในนามของนักศึกษา
- กลุ่มลูกพ่อขุนฯไม่รับใช้เผด็จการ
- มูลนิธิเข้าถึงเอดส์
- สมาคมรักษ์ทะเลสาบตอนกลาง จังหวัดพัทลุง
- กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ
- ขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดสงขลา
- มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ
- สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ
- กลุ่มจับตาปัญหาที่ดิน
- สถาบันอ้อผญา
- ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชน
- สมาคมสร้างสรรค์ชีวิตและสิ่งแวดล้อม
- กลุ่มราษฎรรักษ์ป่า ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่
- กลุ่มรักษ์เชียงของ
- สมาคมพัฒนาลุ่มน้ำสาละวิน
- กลุ่มคนต้นน้ำ อ.วังชิ้น จ.แพร่
- มูลนิธิคนเพรียงไพร
- สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้
- เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง
- เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด
- เครือข่ายสลัมสี่ภาค
- ดร.โอฬาร อ่องฬะ นักวิชาการอิสระ
- เครือข่ายฮักน้ำของ
- เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน
- สมัชชาประชาชนสุโขทัย
- สมัชชาประชาชนฅนเหนือตอนล่าง
- สถาบันสร้างเสริมการจัดการทรัพยากรชุมชน
- มูลนิธิภูมิปัญญาชาติพันธุ์
- เครือข่ายประชาชนเพื่อสิทธิชุมชนและการอนุรักษ์
- สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา
- คณะกรรมการประสานงานองคก์ารพัฒนาเอกชนภาคเหนือ (กป.อพช.เหนือ)
- ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
- สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.)
- ศูนย์เผยแพร่และส่งเสริมงานพัฒนา (ผสพ.)
- สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนักพัฒนาจำกัด (NGO CU)
- ไคลเมตวอทซ์ ไทยแลนด์
- มูลนิธิพิทักษ์สตรีและเด็ก
- ศูนย์ประสานงานเพื่อการพัฒนาสตรีและเด็กเยาวชนลำพูน
- ชมรมอาสาสมัครกฎหมายเพื่อผู้หญิง
- เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก
- มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
- คณะกรรมการประสานงานองคก์รพัฒนาเอกชนภาคอีสาน (กป.อพช.อีสาน)
- เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคอีสาน
- มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย
- ศูนย์กฎหมายสิทธิชุมชน
- ศูนย์เสริมสร้างองค์กรชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูสิ่งแวดล้อ
- ชมรมพิทักธรรมชาติ(คนกับป่า) จังหวัดพิษณุโล
- คณะกรรมการประสานงานองคก์รพัฒนาเอกชนภาคเหนือล่าง (กป.อพช.นล)
- สภาพลเมืองสุรินทร์
- โครงการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านทรัพยากรแร่
- กลุ่มนิเวศวัฒนธรรมศึกษา
- เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่
- กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ (คัดค้านเหมืองโปแตชและโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.ชัยภูมิ)
- กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้าน (คัดค้านเหมืองทองคำ ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย)
- กลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส (คัดค้านการขุดเจาะสำรวจแร่โปแตช อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร)
- กลุ่มรักษ์น้ำซับคำป่าหลาย (คัดค้านการขอประทานบัตรทำเหมืองหินทราย ต.คำป่าหลาย อ.เมือง จ. มุกดาหาร)
- กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได (คัดค้านการทำเหมืองหิน ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ. หนองบัวลำภู)
- กลุ่มรักษ์บ้านแหง (คัดค้ารการขอประทานบัตรทำเหมืองถ่านหินลิกไนต์ ต.บ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง)
- สถาบันชุมชนอีสาน
- เครือข่ายรักแม่พระธรณี
- เครือข่ายประมงพื้นบ้านจังหวัดชลบุรี
- เครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดชลบุรี
- กลุ่มศึกษาการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC Watch)
- ดร. สมนึก จงมีวศิน นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ภาคตะวันออก
- เครือข่ายผู้หญิงเพื่อความก้าวหน้าและสันติภาพ
- มูลนิธิผู้หญิง
- สมาคมส่งเสริมภาคประชาสังคม
- สมาคมเครือข่ายพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้
- มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว
- มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน
- มูลนิธิคนตัวดี
- มูลนิธิเพื่อการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ (ประเทศไทย)
- มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก
- เครือข่ายผู้หญิงอีสาน
- สมาคมเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาเทือกเขาเพชรบูรณ์(สอพ.)
- สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและสาธารณะ(สปส.)
- เครือข่ายองค์กรชุมชนต้นน้ำป่าสัก
- เครือข่ายชาติพันธุ์เทือกเขาเพชรบูรณ์
- เครือข่ายองค์กรชุมชนต้นน้ำพอง
- เครือข่ายอนุรักษ์ป่าหัวไร่ปลายนาจังหวัดหนองบัวลำภู
- กลุ่มเขลางค์เพื่อการพัฒนา
- ศูนย์ส่งเสริมศักยภาพประชาชนนครราชสีมา
- องค์กรชาวบ้านบัวใหญ่-บัวลาย
- กลุ่มอนุรักษ์แก่งละว้า
- เครือข่ายชาวบ้านผู้ไร้สิทธิ์
- กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมลำน้ำพอง
- นางจันทนา เอกอื้อมณี
- คณะกรรมการองค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ (กพอ.)
- มูลนิธิเพื่อนหญิง
- นางสมจิต ฟุ้งทศธรรม กลุ่มไทรงาม 131/1ถ.ไทรงาม ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา
- คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)
- ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD)
- สถาบันสังคมประชาธิปไตย
- กลุ่มสังคมนิยมประชาธิปไตย
- มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์
- กลุ่มพะยูนศรีตรัง
- กลุ่มสตรีศรีวัง
- กลุ่มปลาดาว
- จารุณี ศิริพันธ์
- กลุ่มปลาดาว
- มูลนิธิพัฒนาอีสาน
- สมาคมสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค
- มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
- กลุ่มการเมืองหลงับา้น
- กลุ่มทา ทาง
- สภาองคก์ารลูกจา้งแรงงานยานยนตแ์ห่งประเทศไทย
- สมาพนัธ์แรงงานอีซูซุประเทศไทย
- สหภาพแรงงานยานยนตแ์ละอไหล่อีซูซุ