ท่ามกลางข่าวร้ายหายนะทั่วโลก จากการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ประเทศไทยและคนไทยได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ความช่วยเหลือจากรัฐบาลผ่านโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” ดูเหมือนมุ่งเฉพาะกลุ่ม มากกว่าครอบคลุมคนทั้งประเทศ ชาวบ้านที่ขาดแคลนแต่ไม่แร้นแค้นน้ำใจ ต่างก็หาหนทางช่วยคนที่ลำบากกว่า ให้ฟันฝ่าภาวะวิกฤตและผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 ไปด้วยกัน
วันนี้ (23 เมษายน 2563) เวลา 14.00 น. เครือข่ายชุมชนชนริมคลอง ล่องเรือแจกหน้ากากอนามัย จำนวน 10,000 ชิ้น น้ำดื่ม 40 แพ็ค ขนมสำหรับเด็กๆ 20 ลัง สิ่งของจำเป็นอื่นๆ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่มีจิตเมตตา มูลนิธิพุทธรักษา กับบริษัทCP.VAN นำมาแบ่งปันให้กับพี่น้องในชุมชนซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสถานการณ์ที่กำลังขาดแคลนและส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ไม่มีรายได้ในช่วงนี้เนื่องจากสถานประกอบการถูกสั่งปิด จึงต้องกลับเข้ามาอยู่อาศัยในชุมชน บางคนเข้าไม่ถึงการเยียวยาของรัฐบาล แต่พวกเขาต้องกินและกำลังจะอดตาย เครือข่ายชุมชนริมคลองลาดพร้าวจึงต้องให้ความช่วยเหลือกันเองในเบื้องต้น
การล่องเรือแบ่งปันสิ่งของเพื่อให้การช่วยเหลือชุมชนริมคลองในครั้งนี้ ใช้เรือจำนวน 2 ลำ เริ่มต้นจากชุมชนที่อยู่อาศัยบริเวณปากอุโมงค์ยักษ์พระราม9 ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดคลองลาดพร้าวที่ไหลมาบรรจบกับคลองแสนแสบ ล่องทวนขึ้นไปผ่านชุมชน ในเขตห้วยขวาง วังทองหลาง จตุจักร บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง และไปสิ้นสุดที่เขตสายไหม จำนวน 28 ชุมชน โดยแต่ละชุมชนได้นัดหมายและจัดทำสัญลักษณ์ไว้สำหรับจุดจอดเรือ มีการปักธงไว้ริมน้ำ พร้อมจัดเตรียมตัวแทนในการรับมอบทำให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น
จำรัส กลิ่นอุบล แกนนำชุมชน ลาดพร้าว 45 ได้กล่าวว่า ในสภาวะวิกฤตอย่างนี้ ชาวบ้านไม่สามารถที่จะรอหน่วยงานรัฐได้ ซึ่งอาจจะมีเรื่องที่ต้องคิดต้องทำมาก จนทำให้บางเรื่องโดยเฉพาะปัญหาของคนจนริมคลองลาดพร้าว คนเล็กคนน้อย อาจไม่อยู่ในภารกิจแรก ๆ ของหน่วยงาน พวกผมพร้อมทีมงานจึงอาสาเป็นตัวหลักในการประสานงานขอความช่วยเหลือ พร้อมส่งมอบต่อให้กับพี่น้องในชุมชนริมคลองลาดพร้าวและคลองอื่นๆต่อไป เนื่องจากเรามีเรืออยู่หลายลำ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้ใจบุญ พวกเรา “ทำด้วยใจครับ คนคลองลาดพร้าวไม่ทอดทิ้งกัน”
แต่ยังมีอีกหลายชุมชนที่พยามยามพึ่งตนเองในยามวิกฤตนี้ ด้วยการปลูกผักกินเองในครัวเรือนและแบ่งปันให้กับสมาชิกในชุมชน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนลดรายจ่ายครอบครัว เช่น ชุมชน กสบ.พัฒนา ชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ54 เขตสายไหม
ขณะที่ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือ พอช. มีีมาตรการพักชำระหนี้ให้แก่องค์กรชุมชนที่ใช้สินเชื่อโดยไม่ต้องชำระเงินต้น ดอกเบี้ย และไม่คิดดอกเบี้ยในระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านมั่นคง วงเงินดอกเบี้ยที่ลดลงรวมประมาณ 42 ล้านบาท สำหรับโครงการบ้านมั่นคง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเครือข่ายชุมชนริมคลองลาดพร้าวและโครงการบ้านมั่นคง ทั้งในเมืองและชนบททั่วประเทศ
จากวิกฤตดังกล่าวเราได้เห็นน้ำใจจากคนไทยด้วยกันช่วยเหลือกันในยามยาก พื้นที่ชุมชนริมคลองลาดพร้าวนั้นยากจะเข้าถึงความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ น้ำใจจากผู้ใจบุญหลั่งไหลเผื่อแผ่ไปถึงคนในชุมชน ทั้งในเรื่องของการบริจาคสิ่งของที่จำเป็น ข้าวสารอาหารแห้งเพื่อบรรเทาความทุกข์ความเดือดร้อน เพียงหวังว่าเราจะผ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
