10 สิ่งที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 (จากการรัฐประหาร)
หรือคุณอาจะเคยรู้ แต่ลืมไปแล้ว ผมเปิดด้วยภาพที่พลเอกประยุทธ์ หย่อนบัตรเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อ 2 กพ.ที่ผ่านมา
ขอเชิญหาความสำราญครับ
1. เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2497 ปีเดียวกับโอปราห์ วินฟรีย์, เฉินหลง, ปัญญา นิรันดร์กุล, อูโก ชาเบซ อดีตประธานาธิบดีแห่งเวเนซูเอลา, ชินโซ อะเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น. บวรศักดิ์ อุวรรณโณ, ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) และเป็นปีที่เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ได้รางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม และปีที่ลาวได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส
2. เขาเกิดที่จังหวัดนครราชสีมา เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก, กร ทัพพะรังสี, นพดล ปัทมะ, สุภรณ์ อัตถาวงศ์ (แรมโบ้ อีสาน), ปรัชญา ปิ่นแก้ว, จรัสพงษ์ สุรัสวดี (ซูโม่ ตู้)
3. เป็นพี่ชายคนโต จากพี่น้องทั้งหมด 4 คน
4. จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ กรุงเทพมหานคร เช่นเดียวกับ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ, นายประเสริฐ นาสกุล อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ, พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร., ขรรค์ชัย บุนปาน, ศิลา โคมฉาย, สุจิตต์ วงษ์เทศ, ศุ บุญเลี้ยง, สดใส รุ่งโพธิ์ทอง,
5. เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 ซึ่งใน สนช. ชุดปัจจุบันมีนายทหารทั้งในและนอกราชการจบเตรียมทหารรุ่นที่ 12 มากถึง 15 คน (ตท.13 มีจำนวน 14 คน, 15 มีจำนวน 12 คน หนึ่งในนั้นคือ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา )
6. รับราชการทหารอยู่ที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือ “ทหารเสือราชีนี” มาโดยตลอด
7. เคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) รัฐประหาร 19 กันยา 2549
8. นอกจากตำแหน่งว่าที่นายกฯ แล้ว ยังดำรงตำแหน่งประธานสโมสรฟุตบอลอาร์มี่ ยูไนเต็ด ประธานคณะกรรมการบริหารวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ประธานคณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ และเคยเป็นอดีตกรรมการบริษัท ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
9. ในช่วงที่เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ก็เคยเอ่ยปากถามว่าพลโทประยุทธ์ว่า “เหนื่อยไหมแม่ทัพตู่” เขาตอบว่า “ผมยังทำไหวครับ”
10. พลเอกประยุทธิ์เคยให้สัมภาษณ์เมื่อ 7 มกราคม 2557 “ไม่ยืนยัน ไม่ปฏิวัติ” โดยเป็นการสัมภาษณ์ที่มีนัยสำคัญที่ว่า “ส่วนที่มีคนระแวงว่า ทหารจะใช้การปฏิวัติเป็นทางออกสุดท้ายนั้น คนไปกลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เมื่อมองไม่เห็นก็อย่าไปกลัว คิดว่าทุกอย่างมีสาเหตุหมด ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเรื่องเดียว ทุกเรื่องต้องมีสาเหตุ ต้องมีเงื่อนไข ดังนั้นต้องไปหาให้เจอว่าอยู่ที่ไหน ถ้าไม่มีเหตุอะไรก็ไม่มีเรื่อง เหมือนเรื่องอีกากับวัว ถ้าวัวมีแผล อีกาก็จะมาจิกหลังทุกวัน ถ้าไม่มีแผลก็ไม่มีอีกา ประเทศชาติอยู่ด้วยกระบวนการ ศาลยุติธรรม องค์กรอิสระ ถ้าเราอยู่ด้วยการแก้ปัญหาที่ผิดวิธีจะสร้างปัญหาไปเรื่อยๆ”
ข้อมูลทั้งหมดผมค้นหาจากอินเตอร์เน็ตนะครับ ท่านผู้อ่านสามารถไปตรวจสอบได้ด้วยการพึ่งพา google
ด้วยจิตคารวะ