“พระจอมเกล้าลาดกระบัง” จัดรับน้องรถไฟ ปลูกฝังความปลอดภัย
สร้างจิตสำนึกคุณธรรมจริยธรรมไทยตลอด 4 ปี
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันดีในชื่อ “พระจอมเกล้าลาดกระบัง” นั้นเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอยู่คู่สังคมไทยมายาวนาน นอกจากจะมีบทบาทในการผลิตนักศึกษาหัวกะทิ เพื่อขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว ยังมีพันธกิจหนึ่งคือการบ่มเพาะสร้างบุคลากรที่เปี่ยมไปด้วยจิตสำนึกในการตอบแทนสังคมและพัฒนาประเทศไทย ทั้งนี้การสร้างจิตสำนึกนั้น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง ปลูกฝังตั้งแต่กิจกรรมการรับน้องซึ่งถือเป็นก้าวแรกของการเป็นนักศึกษา ผ่าน“ประเพณีรับน้องรถไฟ” ประเพณีการรับน้องของ “พระจอมเกล้าลาดกระบัง” ที่เป็นตำนานมากว่า 25 ปี โดยในปีการศึกษา 2557 นี้ “นักศึกษาใหม่” หรือ “เฟรชชี่” ทุกคนกว่า 5,000 คนจะได้ร่วมกิจกรรมที่มีความแตกต่างไปกว่าเดิมนั่นคือการสร้างจิตสำนึกคุณธรรมจริยธรรมไทยตลอด 4 ปี และปลูกฝังความปลอดภัยทั้งตนเอง และเพื่อคนรอบข้าง สอดคล้องกับกายภาพของสถาบันที่เป็นสถาบันแห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีเส้นทางรถไฟแล่นผ่านกลางสถาบัน ตลอดจนมีสถานีรถไฟ “พระจอมเกล้าลาดกระบัง” เป็นจุดเชื่อมต่อคมนาคมตลอดจนระยะเวลากว่า 50 ปี
สำหรับ “ประเพณีรับน้องรถไฟ” มีจุดกำเนิดจากแนวคิดกิจกรรม Train pool day โดยนักศึกษาใหม่ทุกคนจะออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพงในตอนเช้า สู่สถานีปลายทางพระจอมเกล้าลาดกระบัง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 45 นาที ในการเดินทาง ซึ่งตลอดระยะเวลาเดินทางนั้น รุ่นพี่และรุ่นน้องร่วมสถาบัน จะได้พบปะและพูดคุยกันเป็นครั้งแรก โดยรุ่นพี่และคณาจารย์ยังอธิบายระหว่างทาง สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยที่มีความเจริญสูงสุดผ่านระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟลอยฟ้า หรือแม้แต่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ยังมีความเหลื่อมล้ำของสังคมผ่านชุมชนระหว่างทาง รวมถึงระบบรถไฟที่เรากำลังใช้เดินทางที่มีมานานกว่า 100 ปี รวมถึงปลุกแนวคิดในการพัฒนาตนเอง เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติ เพื่อปลุกไฟใน “เฟรชชี่” เพื่อให้นำความรู้ที่ตนเองจะได้ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ พระจอมเกล้าลาดกระบัง มาพัฒนาประเทศให้เกิดความเท่าเทียม ทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี ตลอดจนปลูกฝังความมีคุณธรรมจริยธรรมที่ถูกต้องเหมาะสม สอดคล้องกับศีลธรรมอันดีในฐานะเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่มีความสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต
นางสาวพิชนุตร์ หม้อใจวงศ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 วิทยาลัยการบริหารและจัดการ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) นายกองค์การนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังกล่าวว่า ในปีนี้ องค์การนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้ปลูกฝังความปลอดภัย และแนวทาง ในการใช้ชีวิตนักศึกษาตลอด 4 ปี โดยนักศึกษาใหม่ทุกคนเป็นช่วงก้าวเข้าสู่วัยรุ่น สังคมเปลี่ยน สภาพแวดล้อมเปลี่ยนบนรถไฟ ดังนั้นนักศึกษาต้องได้รับคำแนะนำที่ดี โดยรุ่นพี่ทุกคนจะต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในสถาบันภายใต้แนวความคิด Super Friends เพื่อปลูกฝังให้มีความรักและสามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในกิจกรรมนี้ยังได้แทรกความเป็นสถาบัน อาทิ ประวัติความเป็นมา ตลอดจนมีกิจกรรมรณรงค์ในหลากหลายรูปแบบ อาทิ กิจกรรมโตไปไม่โกง กิจกรรมแต่งกายปลอดภัย กิจกรรมขับขี่ปลอดภัย ใส่หมวกเปิดไฟ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม องค์การนักศึกษา ยังเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ อาทิ รถโดยสารประจำทาง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์รวมถึงรถไฟ ซึ่งเป็นระบบขนส่งที่นักศึกษาใช้บริการมาก โดย องค์การนักศึกษา ให้นักศึกษามีความระมัดระวังตลอดการเดินทาง ห้ามหลับขณะเดิน ให้ระมัดระวังของมีค่า ตลอดจน เปิดสายด่วนในการแจ้งเหตุร้าย องค์การนักศึกษา จะมีเจ้าหน้าที่ในการดูแล และประสานต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
ศาสตราจารย์ ดร. โมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า สถาบัน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2503 ชื่อสถาบัน ประกอบด้วย พระนาม “พระจอมเกล้า” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระบรมราชลัญจกร “พระมหามงกุฎ” ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 เป็นตราสัญลักษณ์ประจำสถาบัน โดยถือกำเนิดขึ้นจากการรวมวิทยาลัยทางเทคโนโลยีด้านต่างๆเข้าด้วยกัน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเป็นสถาบันการศึกษา ค้นคว้าวิจัย และพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อความก้าวหน้าด้านอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศ โดยได้รับพระราชทานเครื่องหมาย “พระมหามงกุฎ” ซึ่งนอกจากจะเป็นพระสัญลักษณ์แห่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังมีอีกความหมายที่สำคัญยิ่งคือ เป็นสัญลักษณ์ให้ศิษย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังทุกคน ได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่ต่อสังคมและประเทศชาติ โดยเป็นสิ่งที่ศิษย์ทุกคนต้องระลึก ยึดถือปฏิบัติและรับผิดชอบไว้ตราบจนชั่วชีวิต” ทั้งนี้ในปี 2557 สถาบันได้กำหนดแนวคิดสถาบันเป็นดัง “รากฐานนวัตกรรมสร้างชาติ” อันหมายถึงการเป็นองค์กรใน เพื่อสร้างสรรค์ผลงานวิจัยพร้อมกับคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ผลักดันปัจจัยที่ประเทศยังล้าหลังอยู่ รวมถึงการผลักดันให้ประเทศไทย เป็นประเทศเศรษฐกิจความรู้ (Knowledge economy) ซึ่งเป็นทางออกในการยกระดับประเทศไทยสู่ประเทศชั้นแนวหน้าของ ประชาคมโลกได้รวมถึงสามารถพัฒนาอำนาจการแข่งขันของประเทศได้อย่างมีประสิทธิผล