ถึงแม้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 มี.ค.62 ) จะมีพายุฝนเข้าพื้นที่ภาคเหนือ หลายพื้นที่แต่เมื่อดูคุณภาพอากาศโดยรวมแล้ว ก็ดีขึ้นล็กน้อย แต่อากาศที่หายใจของคนเหนือนั้นยังไม่บริสุทธิ์เพียงพอต่อปอดเท่าไรนัก
กว่าหนึ่งเดือนแล้วที่คนในพื้นที่ภาคเหนือต้องเผชิญกับปัญหาหมอกหมอกควัน เจอคุณภาพอากาศที่แย่ โดยเฉพาะเมื่อสัปดาห์ก่อน จังหวัดเชียงใหม่ เมืองใหญ่ถูกจัดอันดับใน www.airvisual.com มีคุณภาพอากาศแย่เป็นอันดับหนึ่งของโลกติดต่อกัน 3-4 วัน
ซึ่งในภาวะเช่นนี้ สิ่งที่ทุกคนพึ่งปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานสาธารณะสุข และคำแนะนำทางการเเพทย์ คือ ให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง และให้อยู่ในที่ร่ม พร้อมกับมีคำแนะนำให้ประชาชนป้องกันตัวเองหากต้องอยู่ภายนอกอาคาร ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยแบบป้องกันฝุ่นละเอียดขนาดเล็ก ( PM2.5) หน้ากาก N95 ทีมกองบรรณาธิการ TheNorthองศาเหนือที่ิอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เมืองใหญ่ในภาคเหนือ จะพยายามหาหน้ากากอนามัยุร่น N95 ป้องกันฝุ่นละเอียดขนาดเล็กแบบ PM 2.5 ตามร้านหรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำ พบว่าหาได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากมีผู้สนใจซื้อมาสวมใส่เพื่อป้องกันตัวเองเป็นจำนวนมาก จนชั้นวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าโล่งเลยที่เดียว นั้นคือเรื่องราวดี ที่ผู้คนสนใจ และใส่ใจในสุขภาพของตัวเองมากขึ้น
ของที่เป็นอุปกรณ์ช่วยป้องกันตนเองจากฝุ่นขนาดจิ๋ว ที่หายากและราคาสูงทำนั้น ทำให้เกิดความพยายามคิดช่วยเหลือกันเองของกลุ่มประชาชนทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ร่วมถึงเพื่อนจากต่างภาคด้วย เช่นกลุ่มเครือข่ายสตรีเย็บผ้าปัตตานีที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี,สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.ท้องถิ่น)ช่วยกันทำหน้ากาก DIY กรองฝุ่น PM 2.5 โดยหาซื้อผ้าป่านมัสลิน ที่มีคุณสมบัติช่วยกรองฝุ่น มาตัดเย็บเป็นโครงรูปหน้ากากอนามัย ซึ่งวิธีการใช้งาน คือ สอดไส้ในด้วยหน้ากากอนามัยแบบกันฝุ่นสีเขียวๆ ปกติที่หาซื้อได้ทั่วไป ใส่ไว้เป็นไส้ด้านใน เพื่อให้เป็นสายคล้องที่หูและกรองฝุ่นอีกชั้น
นี่คือความพยายามจากกลุ่มเล็กๆ เเต่ใจใหญ่ ที่พร้อมแบ่งปั่นให้เพื่อนจากใต้สุด ถึงเหนือสุด ในยามที่หน้ากากอนามัยแบบ N95 กัน PM2.5 โดยตรงมีราคาสูงและหาซื้อได้ลำบาก หน้ากากจำนวนกว่า 300 ชิ้นที่เย็บด้วยมือ ทั้งหมดกำลังถูกส่งต่อไปปลายทางผู้ที่ยังไม่มีใช้จริงๆ เช่น กลุ่มเปราะบางทางสังคม ที่จังหวัดเชียงราย
ขณะที่ความต้องการหน้ากากอนามัยในพื้นที่ภาคเหนือยัังคงมีอยู่ตลอด หากหมอกควันยังไม่มีทีท่าจะจางลง
นอกจากความพยายามสร้างลมหายใจให้เพื่อนจากใต้สุดสู่เหนือสุด ยังมีการช่วยเหลือกันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อย่างเช่น กลุ่มช่วยเพื่อนดับไฟ เป็นการร่วมกลุ่มของประชาชนในเมืองเชียงใหม่ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ใช้ช่องทางออนไลน์ ประกาศรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเพื่อนดับไฟจากทุกพื้นที่ ซึ่งสิ่งของที่รับบริจาคจะเป็นข้าวสาร อาหารเเห้ง ร่วมถึงอุปกรณ์จำเป็นในการดับไฟ เช่น หน้ากากอนามัย ไฟฉาย โดยในเบื้องต้นทางกลุ่มนี้ เขาประกาศรับบริจาค ถึงวันที่ 22 มีนาคม 2562
สิ่งของที่ได้ถูกส่งต่อไปยังอาสาดับไฟป่าตามพื้นที่ต่างๆ เช่น อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ บ้านป่าเเป๋ อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน และ อำเภอเเม่ออน จ.เชียงใหม่
ซึ่งเเต่ละพื้นที่ มีความจำเป็นเฉพาะ เช่น จุดที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่ที่มีเจ้าหน้าที่จำนวนประมาณ 80 คน ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันดับไฟป่า และลาดตระเวนเฝ้าระวังไฟป่าในพื้นที่ ป่ากว่า สี่เเสนไร่
เช่นเดียวกับชาวบ้านจิตอาสาที่ บ้านป่าเเป๋ อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน เป็นชาวบ้านและเยาวชนกะเหรี่ยง ที่ช่วยกันแบบนี้ทุกปี ทำแนวกันไฟ ลาดตระเวนเฝ้าระวังไฟป่าในพื้นที่รอดต่อ อ.บ้านโฮ้ง จ.ลำพูน อ.จอมทอง และ อ.ฮอด เชียงใหม่ ที่ซึ่งเชื่อมต่อกัน และเป็นเขตป่าต้นน้ำสำคัญ
และอำเภอเเม่ออน จ.เชียงใหม่ “กลุ่มช่วยเพื่อนดับไฟ” ได้ส่งหน้ากากอนามัย 120 ชิ้น เป็นหน้ากากอนามัยแบบ N95 สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้ หน้ากากทั้งหมดถูกส่งต่อไปผู้เปราะบางในสังคมในพื้นที่ เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ โดยทีมสาธารณสุขอำเภอแม่ออน เจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านหัวฝาย ต.ออนกลาง ได้ช่วยเเจกจ่าย และให้คำแนะนำชาวบ้านในพื้นที่ และหน้ากากอีกจำนวนหนึ่งประมาณ 40 ชิ้นถูกส่งต่อให้ทีมอาสาเฝ้าระวังและดับไฟป่า เพื่อเตรียมการเป็นอุปกรณ์ป้องกันเมื่อเผชิญเหตุ หากเกิดไฟป่าในพื้นที่ พื้นที่หมู่ 6 บ้านป่าตันใต้ ต.ออนกลาง ซึ่งจุดนี้ ชาวบ้านจะผลัดเปลี่ยนหมุดเวียนกันเข้ามาดูแลพื้นที่
ทั้งหมดคือความพยายามช่วยกันเองของคนเล็กๆ ที่พร้อมจะส่งต่อลมหายใจที่ดีให้แกกัน