รมว.พลังงานลาวเผยสาเหตุเบื้องต้นคันกั้นน้ำ D ของเขื่อนไฟฟ้า เซเปียน-เซน้ำน้อยแตกคือการสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบให้ชัดเจน
เว็บไซต์. Tholakong เผยแพร่ข่าวดังกล่าวปรากฏใน เว็บ http://tholakhong.com/6881/ระบุในวันที่ 26 กรกฎาคม 2018. ท่านคำมณี อินธิราช รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ แถลงข่าวว่า สาเหตุที่ทำให้คันกั้นน้ำ D ของเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตก ในเบื้องต้นคือการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน สำหรับสาเหตุรายละเอียดเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ ท่านยังกล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามสัญญาภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบทดแทนค่าเสียหาย
ท่านรัฐมนตรีได้กล่าวในการแถลงข่าวที่นครหลวงเวียงจันทน์ในวันอังคารที่ผ่านมาว่า เกี่ยวกับการทดแทนค่าเสียหายนั้นข้าพเจ้ายืนยัน โดยยึดถือตามข้อตกลงของสัมปทานการที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างเขื่อน ผู้พัฒนาโครงการต้องรับผิดชอบ
ท่านคำมณี กล่าวว่าภารกิจหลักของรัฐบาล ผู้พัฒนาโครงการตลอดถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเล็งเห็นถึงการฟื้นฟูสภาพชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เขื่อนแตกซึ่งภารกิจนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ระยะคือ ระยะที่ 1เป็นระยะสั้นคือเล็งเห็นถึงการช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์น้ำท่วม ระยะที่ 2 เป็นระยะยาวคือจะต้องมีการฟื้นฟูหมู่บ้าน ก่อสร้างบ้านเรือนจัดสรรที่อยู่อาศัยประชาชนได้มีพื้นที่ในกาดำรงชีวิต
ท่านชัยประเสริฐ พมสุภา หัวหน้ากรมธุรกิจพลังงานทรวงพลังงานและเหมืองแร่ ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงรายละเอียดการทดแทนค่าเสียหายในตอนนี้ ต้องมองเห็นสาเหตุและความเสียหายที่เกิดจากเขื่อนก่อน ภายใต้ข้อตกลงสัมปทานซึ่งมีรายละเอียดหลายอย่าง ฉะนั้นคงจะต้องได้มองกลับไปถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จะรู้ได้อย่างละเอียดว่าบริษัทจะต้องได้รับผิดชอบมากน้อยเพียงใด บริษัทเซเปีย – เซน้ำน้อยตอนนี้ยังไม่ได้ออกแถลงการอย่างเป็นทางการ กับสาธารณะชนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่ Live ของสื่อมวลชนลาว เผยแพร่ การแถลงข่าวดังกล่าวสู่สังคมออนไลน์ โดย รมว.กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ https://www.facebook.com/Laoedaily/videos/995957660583121/ ดังนี้
นาทีที 3.40 “ข้าพเจ้าขอตอบว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เขื่อนแตกนี้เป็นไปเพราะอะไร ข้าพเจ้าได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า เราได้แต่งตั้งทีมงานเฉพาะร่วมกับนักวิชาการลาว ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อลงไปสมทบกับทางบริษัทที่รับเหมา บริษัทออกแบบ เพื่อให้รู้กันจริงๆว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร ฉะนั้น ข้าพเจ้าขอตอบในฐานะที่ว่าไปเห็นสภาพแท้จริงของเขื่อนดังกล่าวนั้นจริง ๆ เขื่อนนี้ สาเหตุของมันมวลน้ำมหาศาลที่ฝนตกลงมาอย่างแรง แล้วก็บวกกับเขื่อนที่เพิ่งสร้างเสร็จ ซึ่งยังไม่ได้รับน้ำหนักของน้ำสักครั้ง ธรรมดาแล้ว เวลาเราก่อสร้าง เราต้องได้บ่ม หรือว่ารักษาน้ำไว้เพื่อให้มันได้เข้ากับเนื้อ ระหว่างเขื่อนกับน้ำอย่างมาก แต่ว่าเมื่อมันก่อสร้างมันก็กระทบเรื่องนี้ไว ก็จะได้มีสันเขื่อนแห้ง เมื่อต้นเดือนสันเขื่อนแห้ง และฝนตกใส่อีก ฝนซึมเข้าไปในจุดที่แห้งของเขื่อน ทำให้ระยะที่แห้งกว้างออก แล้วดินก็รุ่ยออก แล้วน้ำจากอ่างก็ไหลผ่าน ทำให้เกิดมีปัญหา แล้วก็สภาพความเปื่อยและความรุ่ยของดิน ค่อย ๆ รุ่ยออก ๆ แล้วมวลน้ำที่มากมายหลาย ที่อยากจะออก เพราะมีน้ำมากที่จะน้ำอยากจะออกมีมาก
คือ ประมาณ 2500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่ต้องการออกจากประตูน้ำ ประตูน้ำมี 2 ประตู หนึ่งคือประตูอยู่ที่เขื่อนเซเปียน สองคือ ประตูอยู่ที่เซน้ำน้อย ประตูที่เซน้ำน้อยจะออก 2300 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที แต่ตอนนั้นน้ำมันออก 2000 – 2500 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที ถือว่าน้ำมาก ปริมาณน้ำมหาศาล เพราะฉะนั้นมันแย่งกันออก น้ำมันมีเยอะเกินจึงไปหาที่ออก จึงทำให้จุดที่มีปัญหา มันแตก มันแห้ง ของเขื่อน Saddle Dam D พังลงไป นี่เป็นสาเหตุอันหนึ่ง และอีกสาเหตุอาจจะเป็นพื้นฐานของการก่อสร้างไม่แน่นหนัก แต่ว่าแท้ๆแล้วผู้เชี่ยวชาญกำลังตรวจสอบ
(06.59) ดินมันยุบลงไปจากสันเขื่อน 14 – 15 เมตร ยุบลงไป น้ำไหลผ่านตรงนั้น ความกว้างเกือบ 20 เมตร ทำให้มวลน้ำมหาศาลไหลลงไปสู่ลำน้ำเซเปียน ลำน้ำเซเปียนก็มีน้ำอยู่แล้ว เกิดยิ่งให้ระดับน้ำสูงขึ้น ไหลลงไปบ้านเรือนประชาชน ตามที่ทุกท่านได้เห็น
(07.20) เขื่อนทีมันมีปัญหามันแตกคือเขื่อนตัว D ไหลออกมาตามแนวสีแดง หมู่บ้านประชาชนอยู่ลุ่มตรงนี้ถึงว่ามาถึงตรงนี้ก็ไหลไปเลย หมู่บ้านประชาชนตรงนี้ เบื้องต้น 8 หมู่บ้าน เพราะฉะนั้นทำให้มีผลกระทบอย่างมาก อย่างไรก็ตามเราก็จะยังค้นหาสาเหตุให้ชัดเจนอีกครั้ง
(8.09)”สำหรับการชดเชย ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า ปัญหาที่เรามีอยู่ในสัญญาของการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ทุก ๆ ที่เกิดจากกรณีการก่อสร้าง แน่นอนผู้พัฒนาโครงการต้องรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นปัญหานี้ที่ข้าพเจ้าได้เสนอ เรามีความที่จะแก้ไขแล้ว 2 ปัญหา 1.ปัญหาเร่งด่วนแก้ไขฟื้นฟูชีวิตการเป็นอยู่ของประชาชนให้เร็วเท่าที่จะเร็วได้
การฟื้นฟูมี 2 ระยะ หนึ่งระยะที่เกิดมีปัญหาเร่งด่วน ต้องได้แก้ไข ระยะกระทันหัน ทางบริษัทได้สมทบ บริษัทต่าง ๆ เราแก้ในระยะต้น อันที่สองแก้ไขในระยะยาวเรื่องอาคารบ้านเรือนที่เสียหายต้องมีการซ่อมคืนใหม่ฟื้นฟูชีวิตให้ดีขึ้น อันนี้ทางบริษัทรับรองอยู่แล้ว