สืบยังไม่จบ คดี 6 ชาวบ้านฟ้องกลับบริษัทเหมืองทองข้อหาละเมิดทำให้เสียหาย หลังศาลชั้นต้น-อุทธรณ์สั่งยกฟ้องคดีซุ้มประตูที่บริษัทฯ ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 50 ล้าน นัดอีก 28 พ.ย.นี้
วันนี้ (22 ก.ย. 2560) เป็นวันที่ 2 ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้กับการเดินทางมาศาลของชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้าน ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย แม้ฝนจะตก แม้จะเดินทางลำบากแค่ไหนก็ต้องมาที่ศาลจังหวัดเลย เพื่อมาร่วมรับฟับการสืบพยานในคดีที่ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ 6 คน ฟ้องกลับบริษัททุ่งคำฯ ข้อหาละเมิดและเรียกค่าเสียหาย
จากคดีที่บริษัททุ่งคำ จำกัด ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท กรณีการทำป้าย “หมู่บ้านนี้ไม่เอาเหมือง” ที่ซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้าน และป้าย “ปิดเหมือง ฟื้นฟู” ริมถนนสาธารณะในหมู่บ้าน ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษายกฟ้องในคดีดังกล่าว และชาวบ้านได้ยื่นฟ้องกลับในเวลาต่อมา
หลังจากสืบพยายานโจทก์คือ ดร.อาภา หวังเกียรติ วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และโจทก์ปากแรก คือ นายสุรพันธ์ รุจิไชยวัฒน์ ไปในการสืบพยานนัดแรกเมื่อวานนี้
ในวันนี้ศาลนัดสืบโจทก์อีก 5 ปาก ประกอบด้วย
โจทก์ที่ 2 นางวิรอน รุจิไชยวัฒน์
โจทก์ที่ 3 นายกองลัย ภักมี
โจทก์ที่ 4 นายสมัย ภักดิ์มี
โจทก์ที่ 5 นางพรทิพย์ หงชัย
โจทก์ที่ 6 นางมล คุณนา
สำหรับในวันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ทนายความสรุปคดีให้กับกลุ่มชาวบ้านฟังว่า ในช่วงเช้ามีการสืบโจทก์ที่ 1 นายสุรพันธ์ รุจิไชยวัฒน์ ต่อจากเมื่อวาน และสืบโจทก์ที่ 2 อีก 1 ปาก ส่วนโจทก์ที่ 3 ยังถามไม่จบ จึงต้องสืบต่อช่วงบ่ายร่วมกับโจทก์อีก 3 ปาก
แต่เนื่องจากทนายจำเลยไม่อาจถามค้านได้เสร็จทันในช่วงบ่าย ประกอบกับในเวลา 18.30 น.ทนายความจำเลยมีนัดประชุมกับลูกค้าสำคัญเกี่ยวกับการถูกฟ้องล้มละลายที่ได้นัดไว้ก่อนหน้าที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทนายจำเลยในคดีนี้ และไม่อาจเลื่อนนัดอีกได้ อีกทั้งทนายจำเลยไม่ได้เป็นผู้กำหนดวันนัดศาล ทนายจำเลยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในบ่ายวันนี้
ส่วนทางโจทก์ไม่ได้ค้านการขอเลื่อนสืบโจทก์ในวันนี้ จึงเลื่อนสืบพยานโจทก์เป็นวันที่ 28 พ.ย. 2560 เวลา 09.00น. โดยเหลือการสืบโจทก์ที่ 3 (สืบยังไม่จบ) ถึงโจทก์ที่ 6
author
