19 เมษายน 2560 เป็นวันที่ต้องจารึกไว้ว่า เรือสำรวจแม่น้ำโขงจากประเทศจีนพร้อมเจ้าหน้าที่ ของฝ่ายจีน โดยบริษัท CCCC Second Harbor Consultant Co.LTD จะเริ่มเข้างานสำรวจภาคสนามเพื่อการเดินเรือในแม่น้ำโขงช่วงไทย – ลาว ตามโครงการปรับปรุงร่องแม่น้ำโขงเพื่อการเดินเรือพาณิชย์ระยะที่ 2 ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบไปเมื่อปลายปี 2559 ขณะที่เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ออกแถลงการณ์คัดค้านการสำรวจ-ระเบิดแก่งแม่น้ำโขง โดยระบุว่านี่เป็นการเปิดพื้นที่ทางอธิปไตยของประเทศให้กับจีนซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง
The North องศาเหนือ ได้คุยกับ ครูตี๋ นิวัตร ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มฮักเชียงของ ซึ่งติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขงมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จนถึงวันนี้
องศาเหนือ : วันนี้เรือจีนเทียบฝั่งเตรียมสำรวจแม่น้ำโขงแล้ว ครูติดตามเรื่องระเบิดแก่งมาโดยตลอด ครั้งนี้ถือว่าใกล้ตัวเข้ามาแล้ว
ครูตี๋ : เรื่องระเบิดแก่งในแม่น้ำโขงเพื่อการเดินเรือในเฟศ 1 เกิดมากว่า 15 ปีแล้ว ครั้งนั้นตึงเครียดพอสมควรว่าเราจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านร่วมกันรักษาระบบนิเวศน์ในพื้นที่ไว้ ซึ่งก็พอที่จะทำความเข้าใจและร่วมกันรักษาได้ในระดับหนึ่ง โดยในเฟศ 1 ที่ระเบิดแก่งเพื่อให้เรือขนาด 100 ตันเดินเรือมาจากจีนได้ ก็ระเบิดไปแล้ว 10 จุด ใน 11 จุด คงค้างที่คอนผีหลงในฝั่งไทย 1.6 กม. แต่ตอนนี้กลับถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเป็นการสำรวจในเฟศ 2 นับแต่ครม.มีมติให้สำรวจเมื่อ 27 ธ.ค.59 ซึ่งผมมีข้อสังเกตุว่าการรื้อฟื้นสำรวจเกาะแก่งครั้งนี้ อันตราย และวิกฤติที่สุด สถานการณ์ 50:50 มาก เพราะที่จริงแล้วรัฐบาลชุดนี้ น่าจะตระหนักถึงเรื่องอธิปไตยมากกว่าแต่กลับยินยอมให้สำรวจ ถ้าเราจะเปรียบเทียบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เมื่อมีการทักท้วงทั้งประเด็นสิ่งแวดล้อมและให้ตระหนักถึงอธิปไตย เขตแดน เพราะการระเบิดแก่งมีผลต่อเส้นเขตแดนที่เปลี่ยนแปลง รัฐบาลช่วงเวลานั้นก็รับฟัง แต่สถานการณ์ขณะนี้รัฐบาลกลับปล่อยให้มีการสำรวจและออกแบบ ทั้งที่ผมไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลอะไรที่จะทำให้เราต้องดำเนินการเช่นนี้ เพราะ 15 ปีที่ผ่านมาสิ่งที่เกิดขึ้นกับแม่น้ำ ผู้คนในพื้นที่ สะท้อนหลายอย่างว่าหนักขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเรื่องการขึ้นลงของน้ำที่ควบคุมไม่ได้เลย การพังทลายของตลิ่ง หรือสิ่งที่ผู้คนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ถ้าโครงการนี้สามารถเกิดขึ้นได้ก็เปรียบเสมือนเราได้ยกพื้นที่ให้กับประเทศจีนไปแล้ว
ผมคิดว่ารัฐควรตระหนักในเรื่องนี้มาก ไม่ควรซ้ำเติมแม่น้ำโขง และหากรัฐบาลเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ก็น่าจะสามารถจะคุยกับประเทศจีนได้ ยุคนี้การค้าขายเราดำเนินไปได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นทางสะพาน ทางรถ ทางรถไฟ ก็คุยกันไปแล้วในระดับหนึ่ง ด้านการเดินเรือพาณิชย์ก็ลดบทบาทลง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีการค้าทางเรือ ก็มีการเดินเรือค้าขายมาถึงเชียงแสนอยู่แล้วโดยเรือขนาด 100-200 ตัน สิ่งที่เราควรช่วยกันคิดคือจะรักษาสมดุลย์ของแม่น้ำโขงกันได้อย่างไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้กลับเป็นว่าจีนคิดเรื่องการค้าเกินความพอดี ต้องการรวบแม่น้ำโขงให้อยู่ในมือของตัวเอง นอกจากนั้น เรื่องนี้เป็นนโยบายระหว่างประเทศ เมื่อเกิดปัญหาเรื่องความไม่มั่นคงด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จะอย่างกันอย่างไร
เรือเล็กของจีนเข้ามายังแม่น้ำโขงเพื่อเตรียมสำรวจแล้ว ภาพจากแหล่งข่าวเชียงแสน
องศาเหนือ : ตอนนี้อีก 50 วัน บริษัทจีนจะสำรวจแม่น้ำโขงแล้ว สิ่งที่ภาคประชาชนจะทำคืออะไร
ครูตี๋ : จีนได้รับฉันทานุมัติให้เข้ามาสำรวจและจะเปิดช่องทางนี้ให้ได้ โดยเฉพาะจุดคอนผีหลง ซึ่งหากผ่านไปได้ ก็แล่นเรือสินค้าไปถึงหลวงพระบาง สิ่งที่เราจะทำคือแสดงออกทุกวิถีทางว่าเราไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการทำที่ผิดขั้นตอน ถ้าจะดูสิ่งที่เขาสำรวจพบว่ามี 3 ประเด็นคือ ด้านธรณีวิทยา ด้านวิศวกรรม และด้านชลศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องเทคนิคทั้งนั้น เป็นการสำรวจว่าจะทำอย่างไรให้เดินเรือได้ ไม่ได้สำรวจเพื่อการตัดสินใจถึงความคุ้มค่า หรือประโยชน์ที่จะได้หรือเสีย หรือเกาะแก่ง ดอนที่จะเอาออกนั้นมีค่าแค่ไหน เศรษฐศาสตร์นิเวศน์ไม่ได้พูดถึง และสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ทำให้เกิดผลกระทบอย่างไรก็ยังไม่มีการประเมิน ผมจึงคิดว่าต้องกลับไปทำตามขั้นตอนใหม่ ยุติการสำรวจและกลับมาคุยกันใหม่ การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ และรัฐบาลต้องมองถึงอธิปไตยว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตอนนี้ประเทศเพื่อนบ้านถือสนธิสัญญาอินโดจีนอยู่ ถ้ามีการระเบิดเกาะแก่งแล้วตะลิ่งพัง เกิดเกาะแก่งขึ้นใหม่ เกาะแก่งเหล่านั้นเป็นของใคร สิ่งที่เป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐจะต้องตระหนัก
เรือขนาดใหญ่ของจีน บริเวณเชียงแสน ภาพจากแหล่งข่าวเชียงแสน
องศาเหนือ : ครูตี๋คิดว่าประชาชนทั่วไปมองเรื่องนี้อย่างไร
ครูตี๋ : ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้อยู่แล้ว คนทั่วไปผมก็คิดว่ารับรู้ข้อมูลมากขึ้น กระแสสังคมก็ไม่เห็นด้วย แต่ว่าเรื่องนี้ประชาชนจะต้องทำอย่างไรได้บ้าง สิ่งที่เราทำคือพยายามทักท้วง ยื่นจดหมายถึงรัฐบาล ถึงนายก ให้ทบทวนและมองถึงอนาคตให้มากว่าจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก สิ่งที่เราเรียกร้องคือยุติการสำรวจ กลับมาทบทวนศึกษา ซึ่งนอกจากทางที่ปรึกษาฝ่ายจีนจะต้องศึกษาแล้ว ทางฝ่ายไทยเอง ก็ต้องรู้จักตัวเอง ศึกษาหรือรู้จักตนเองหรือยังว่า 96 กม.ที่จะปล่อยให้เขาเข้ามาสำรวจนี้ มีคุณค่า มีความหมายและสำคัญเชิงอธิปไตยอย่างไร และศึกษาหรือยังว่าได้เกิดผลกระทบจากการระเบิดแก่งและการเปิดเดินเรือที่ผ่านมาหรือยัง ทั้ง 2 อย่างยังไม่ได้ทำ แล้วไปให้สำรวจด้านเทคนิคเช่นนี้หรือ
แผนสำรวจจากจีน ภาพจากแหล่งข่าวเชียงแสน
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ออกแถลงการณ์คัดค้านการสำรวจ-ระเบิดแก่งแม่น้ำโขง
เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ออกแถลงการณ์คัดค้านการสำรวจ-ระเบิดแก่งแม่น้ำโขง
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง เรือจีนเตรียมสำรวจเกาะแก่งแม่น้ำโขง 19 เม.ย.นี้ https://thecitizen.plus/?p=18804