ออกอากาศ 27/01/2557
ขณะที่หลายฝ่ายกำลังหาทางออกให้กับประเทศ ก็มีกลุ่มหนึ่งที่ใช้การเดินเรียกว่าเดินธรรมยาตราต่อศาสนาเพื่อสันติภาพ ซึ่งเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวานนี้ เป็นอีกหนึ่งทางออก แต่ว่าแม้กิจกรรมนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงภาพใหญ่ของความขัดแย้งของสังคมในขณะนี้ได้ แต่พวกเขาบอกว่าอย่างน้อยก็เปลี่ยนแปลงจิตใจตนเอง ให้ยอมรับและเคารพความเห็นต่าง
เสียงสวดของศาสนิกชนฮินดู ความหมายไม่ต่างจากศาสนาอื่นใด การทำดีละเว้นความชั่วเป็นบัญญัติของพระเจ้า ที่ทุกคนพึงปฎิบัติเพื่อส่วนรวม วันสุดท้ายของการเดินธรรมยาตราศาสนา เพื่อสันติภาพ ทุกคนในขบวนได้ร่วมปฏิบัติศาสนกิจกับเพื่อนชาวซิกข์เเละฮินดู ด้วยการสวดมนต์เพื่อให้สันติสุขเกิดขึ้นในใจ เเละเผื่อแผ่ให้กับคู่ขัดเเย้งไม่ว่าฝ่ายนั้นจะยืนอยู่ข้างไหนในสังคม
ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์ อาสาสมัครสันติวิธี
จริงๆก็ห่วง เพราะว่าเราไม่อยากจะกลายเป็นอีกขั้วการเมืองอีกขั้วหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราก็คิดกันว่า เราจะไม่ใช้สัญญาลักษณ์ใดๆ เราจะไม่ประกาศตัวเป็นอีกขั้วหนึ่ง เราก็เดินในฐานะเพื่อนมนุษย์ เราก็เชิญผู้มาเดินว่าไม่ว่าจะคิดเห็นทางการเมืองในแบบไหน ก็มาร่วมเดินกับเราได้ ซึ่งเราก็มีทั้งสองขั้วมารวมเดินด้วยกัน
งามศุกร์ รัตนเสถียร อาจารย์ประจำสถาบันสิทธิมนุษย์ชนเเละสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
ชาวฮินดูก็บอกว่า เราจะคุยกันก่อนตาย หรือว่าเราจะตายกันก่อนคุย มันสำคัญที่เราจะประคองชีวิตทุกชีวิตให้อยู่รวมกันแม้ว่าแตกต่างกันแค่ไหน เราควรจะได้ยินเสียงมทันเป็นความทุกข์ซึ่งกันและกันและแบ่งปันกัน เพื่อที่จะหาทางออกร่วมกัน
ความห่วงใยต่อสถานการณ์ความรุนเเรง ผลักดันให้คนหลายกลุ่มออกมาเเสดงพลังผ่านกิจกรรมทางสังคม ศาสนาจึงรีบมีบทบาทในการเชื่อมโยง ให้คนที่คิดต่าง ยอมรับจุดยืนของฝ่ายตรงข้าม
อาทิตย์ ชูสกุลธนะชัย อาสาสมัครสถาบันสิทธิมนุษย์ชนเเละสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
คนทุกคนมีศรัทธาในศาสนา เราพยายามดึงศรัทธามาใช้ในการเชื่อมโยงความรู้สึกที่เราจะมีระหว่างกัน โดยเราจะมีพื้นที่ ที่เราจะสามารถเคารพความคิดเห็นหรือจุดยืนที่แตกต่างกันได้ ตรงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้น ที่แต่ละคนจะนำพื้นฐานหรือรากฐานทางความคิดของตนเองมาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวที่เราสามารถยอมรับและสามารถอยู่ร่วมกันได้ ภายใต้ความขัดแย้งที่กำลังเป็นอยู่
ตลอดสามวันของการเดินธรรมยาตราในกรุงเทพมหานคร เป้าหมายไม่ได้เรียกร้องให้ฝ่ายใดเปลี่ยนความเชื่อหรือศรัทธา แต่หากเป็นการเรียกร้องต่อตนเอง ในการเคารพความเชื่อเเละควาคิดเห็นที่เเตกต่าง เพราะทุกศาสนาล้วนมีคำสอนที่ใช้ประโยชน์ได้หากนำไปปฏิบัติจะเป็นหนทางสู่การสมานจิตใจ เพื่อให้เกิดความสงบสุขด้วยพลังเเห่งปัญญา