‘เหตุปะทะทุ่งยางแดง’ ประชุมนัดแรกคณะกรรมการฯ จังหวัด เตรียมลงพื้นที่ดูข้อเท็จจริง

‘เหตุปะทะทุ่งยางแดง’ ประชุมนัดแรกคณะกรรมการฯ จังหวัด เตรียมลงพื้นที่ดูข้อเท็จจริง

29 มี.ค. 2558 ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายเถกิงศักดิ์ ยกศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ยิงปะทะพื้นที่บ้านโต๊ะชูด ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ประชุมครั้งแรกเพื่อวางกรอบการทำงาน ก่อนที่คณะกรรมการฯ จะมีการลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริงต่อไป

จากกรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้น และเกิดการยิงปะทะในพื้นที่บ้านโต๊ะชูด ม.6 ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ถูกควบคุมตัว 22 ราย เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา

ต่อมา เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 58 นายวีรพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ลงคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ เลขที่ 3639/2558 โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 52/1(2) ดูแลให้มีการปฏิบัติและบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยและเป็นธรรมในสังคม 

รายชื่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณี จำนวน 15 คน มาจากตัวแทนหลายภาคส่วน ประกอบด้วย 

1.นายเถกิงศักดิ์ ยกศิริ รองผู้ว่าราชการ จ.ปัตตานี เป็นประธานกรรมการ 
2.รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ที่ได้รับมอบหมาย 
3.รองผู้บังคับการการตำรวจภูธรปัตตานี ที่ได้รับมอบหมาย 
4.ปลัดจังหวัด
5.นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี 
6.อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี หรือผู้แทน
7.ผู้แทนคณะกรรมการสิทธิ์มนุษย์ชนแห่งชาติ (จังหวัดปัตตานี) 
8.ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตรภิรมย์ศรี ผอ.ศูนย์เฝ้าระวัง 
9.นายมูฮำมัดอาลาวี บือแน สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ประจำอำเภอทุงยางแดง 
10นายมูฮำหมัด อายุป ปาทาน 
11.นายอายุ กาหะมะ ประธานชมรมอีหม่าม คอเต็บ บิหลั่น อ.ทุงยางแดง 
12.นายมะการิง หวัง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล
13.ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ทุงยางแดง  
14.ป้องกันจังหวัด เลขานุการ 
15.ผู้ช่วยป้องกันจังหวัด เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ส่วนกรรมการ

มีอำนาจหน้าที่ 4 ประการหลัก คือ 1.ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ได้รายละเอียดที่เกี่ยวข้องจากเหตุการณ์ดังกล่าว 2.ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน นับตั้งแต่รับทราบคำสั่ง 3.เมื่อดำเนินการไปแล้วเสร็จ รายงานผลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีทราบ 4.ดำเนินการอื่นตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีได้สั่งการ และมอบหมาย

20152903234529.jpg

20152903234540.jpg

ASTVผู้จัดการ รายงานว่า เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความคลางแคลงใจให้แก่ญาติผู้เสียชีวิต และประชาชนในพื้นที่ที่มีการกล่าวหาว่า ผู้เสียชีวิตเป็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ จนนำมาสู่การร้องเรียนข้อความเป็นธรรมจากทุกภาคส่วนว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ ทำให้ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ให้จังหวัดปัตตานี ตั้งคณะกรรมการที่มาจากทุกภาคส่วนชุดนี้ขึ้นมา เพื่อร่วมกันเร่งหาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพยานหลักฐานในที่เหตุ โดยเฉพาะอาวุธปืน และระเบิดชนิดขว้างที่เจอข้างตัวของผู้เสียชีวิตว่ามาจากไหน และการปฏิบัติหน้าที่มีการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และลดความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนในพื้นที่

นายเถกิงศักดิ์ ยกศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อต้องการให้คณะกรรมการรู้หน้าที่ของแต่ละส่วนในการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อมารวบรวมข้อมูลในทุกด้านตามกระบวนการยุติธรรม และเป็นกลางที่สุด เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคณะกรรมการชุดนี้จะลงพื้นที่หาข้อมูลทั้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบ รวมไปถึงแนวทางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมว่า คณะกรรมการจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส่ แล้วจะเร่งให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน

แม่ทัพภาค 4 ตั้งคณะกรรมการกลางแสวงหาข้อเท็จจริง รายงานผลใน 7 วัน

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวแห่งชาติ  รายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 28 มี.ค. 2558 ที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พลโทปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาค 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และผู้นำศาสนา ได้ร่วมกันชี้แจงแนวทางในการดำเนินการกรณีเหตุการณ์บ้านโต๊ะชูด ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี 

กรณีเหตุการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต เป็นอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 22 ราย ขณะนี้ได้ปล่อยตัวกลับภูมิลำเนาแล้ว 13 ราย ส่วนที่เหลือจะเร่งรัดการสอบสวนเพิ่มเติม หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะเร่งส่งตัวกลับภูมิลำเนาต่อไป

ในส่วนของการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มาใช้ โดยยึดหลักกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชนโดยเคร่งครัด ซึ่งได้เน้นย้ำและกำหนดเป็นนโยบายที่ชัดเจน ถึงประเด็นถึงการใช้ หลักสันติวิธีในการสร้างสันติสุข ใช้กรอบกฎหมายปกติเป็นหลัก ลดการใช้กฎหมายพิเศษลง เจ้าหน้าที่ต้องอดทนให้ถึงที่สุด เพื่อให้การติดตามจับกุมหรือควบคุมตัวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีการบาดเจ็บหรือสูญเสีย ซึ่งก่อนหน้านี้มี 4 เหตุการณ์ ที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถดำเนินการได้เป็นอย่างดี ภายใต้ความร่วมมือของทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และญาติพี่น้องผู้ต้องสงสัย

สำหรับเหตุการณ์มีประเด็นที่พี่น้องประชาชนและหลายๆ ฝ่าย ยังมีข้อสงสัย เพื่อความโปร่งใส เป็นธรรม ให้กับทุกฝ่าย และแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ จริงใจ ในการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน ขณะนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการกลางแสวงหาข้อเท็จจริง กรณีเหตุการณ์นี้ โดยคณะกรรมการกลางจะประกอบด้วย ผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชนในท้องที่เกิดเหตุ ผู้แทนองค์กรศาสนา สภาทนายความภาค 9 ผู้แทนจากมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ผู้แทนของจังหวัดปัตตานี ผู้แทนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดยมี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เป็นประธาน นายกิตติ สุระคำแหง ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานยุติธรรม เป็นเลขานุการ มีหน้าที่หาข้อเท็จจริงในทุกๆ เรื่อง และรายงานข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน เพื่อแจ้งให้พี่น้องสื่อมวลชนและประชาชนได้ทราบโดยทั่วกัน

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และส่วนราชการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรม โดยยึดหลักกฎหมาย หลักสิทธิมนุษยชน และความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ปราศจากการแทรกแซง หรือ อคติใดๆ เพราะพวกเราเชื่อว่า สันติสุขจะเกิดขึ้นได้อย่างถาวรโดยสันติวิธี

ขณะที่ สำนักข่าวไทย รายงานว่า นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี เปิดเผยถึงเหตุวิสามัญ 4 ศพ ที่บ้านโต๊ะชูด ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมาว่า แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ตั้งขึ้นคณะกรรมการกลางแสวงหาความจริงกรณีดังกล่าว โดยมีตนเป็นประธาน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและแสดงถึงความจริงใจที่มีต่อประชาชนในพื้นที่ ซึ่งการแต่งตั้งคณะการชุดนี้มีเวลาดำเนินการเพียง 7 วัน เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นพิเศษ แม้เวลาเร่งรัดมาก แต่คณะกรรมการจะทำงานด้วยความตั้งใจจริงและรอบคอบด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมา จึงมั่นใจว่าภายใน 7 วัน จะสามารถรวบรวมข้อสรุปได้ทั้งหมด เพื่อเสนอต่อแม่ทัพภาคที่ 4 ก่อนชี้แจงให้สาธารณะชนได้ทราบในข้อเท็จจริง เพราะข้อมูลส่วนใหญ่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ พบปะกับประชาชน รวมถึงญาติผู้สูญเสีย เพื่อเก็บข้อมูลไว้เรียบร้อย เรื่องเวลาจึงไม่ใช่ปัญหา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมถึงผู้ถูกควบคุม 22 คน หลังเหตุปะทะว่า ล่าสุดยังอยู่ในการควบคุมตัวอีก 9 คน ที่หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 41 และหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 43 หลังจากวานนี้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวไปแล้ว 13 คน

 

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ