นักวิชาการ มอ.ปัตตานี โพสต์แจงตั้งคำถามพร้อมชี้ปัญหา ‘โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา’ หลัง กฟผ.เผยแพร่รูปภาพร่วม เวที ค.3 สร้างความชอบธรรมมี ‘คนปัตตานี’ ร่วม แต่ไม่มีข้อมูลที่ได้ชี้แจง ร้องส่งเอกสารผลงานวิจัยมาศึกษาเพิ่ม พร้อมชี้อย่าสรุปเองว่าคนเทพาเอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน
17 ก.พ. 2559 จากกรณีเว็บไซต์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย http://www.egat.co.th เผยแพร่รายงานข่าว เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ชื่อ “โครงการโรงไฟฟ้าเทพา กฟผ. ศึกษาผลกระทบอย่างครบถ้วน มุ่งเน้นการมีส่วนร่วม สู่การเป็นโรงไฟฟ้าของชุมชน” (คลิกดูข่าว) ซึ่งเป็นบทสัมภาษณ์ของ นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการกิจการสังคม ในฐานะโฆษก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าเทพา จ.สงขลา ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการนำเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ให้ คชก.พิจารณา โดยเป็นการเดินหน้าตามแผนกำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP 2015)
นอกจากนั้นรายงานที่เผยแพร่ดังกล่าวยังระบุถึง การจัดทำ EHIA โครงการโรงไฟฟ้าเทพาซึ่งมีการรับฟังความเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ครั้งที่ 3 (ค.3) เมื่อวันที่ 27-28 ก.ค. 2558 ว่า นอกจากมีประชาชนในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตร เข้าร่วมแล้ว ยังมีประชาชนจาก จ.ปัตตานี เข้าร่วมจำนวน 31 คน และได้แสดงความคิดเห็นในเวทีรับฟังฯ จำนวน 2 คน คือ ดร.สมพร ช่วยอารีย์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และนายประยุทธ อาแว ประชาชน ในพื้นที่หมู่ 2 ต.ท่าเรือ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี โดยนำเสนอภาพถ่ายของทั้ง 2 คนประกอบ แต่ไม่ได้มีข้อมูลที่ได้นำเสนอในเวที
วันนี้ (17 ก.พ. 2559) ดร.สมพร ช่วยอารีย์ ได้โพสต์ข้อมูลในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีที่เกิดขึ้นโดยให้ข้อมูลเพิ่มเติมและตั้งคำถามต่อเวที ค.3 และโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ดังนี้
นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทาง กฟผ.ได้นำเรื่องนี้มาโพสต์และนำเสนอรูปผมในการเข้าร่วมเวที ค.3 มานำเสนอในเว็บไซต์เพื่อสร้างความชอบธรรมว่า คนปัตตานีได้มีส่วนร่วมแล้ว? แต่ผมขอให้ข้อมูลและตั้งคำถาม ดังต่อไปนี้
ในเวที ค.3 กำหนดขึ้น 2 วัน คือ 27-28 ก.ค. 2558 โดยแบ่งโครงการละวันครับ โดยที่
27 ก.ค. 2558 รับฟังความคิดเห็นในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน
28 ก.ค. 2558 รับฟังความคิดเห็นในโครงการท่าเทียบเรือฯ
จากข่าวของทาง กฟผ. ทราบมาว่า มีคนเข้าร่วมทั้ง 2 วันราวๆ วันละ ประมาณ 10000 คน (บางข่าวก็บอกว่า 7000+6000 คน ทั้งสองวัน)
คน อ.เทพา มีประชากรราวๆ 7-8 หมื่นคน หากเทียบดูก็มีคนเข้าร่วมราวๆ 1 ใน 7-8 คน ซึ่งในนั้นมีข่าวว่า มีคนปัตตานีมาร่วมด้วย 31 คน และนำเสนอความเห็น 2 คน รวมถึงผมด้วย
ทำไมผมถึงเข้าร่วม เพราะผมเป็นห่วงวิถีชีวิตที่อาจจะเปลี่ยนไปของชาวเทพาและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี 100 กิโลเมตร
คนปัตตานี มีกี่แสนคนครับ แล้วเข้าร่วม 31 คนเท่านั้น มันมากพอไหมครับที่จะบอกว่าคนปัตตานีมีส่วนร่วม? โดยส่วนตัวผมคิดว่ามันน้อยเกินไปไหมครับที่จะบอกว่า ชาวปัตตานีเข้าร่วมแล้ว มีส่วนร่วมแล้ว ผมไม่เห็นป้ายสักป้ายที่เขียนติดไว้ที่ข้างถนนในพื้นที่ปัตตานีเลย ว่าเชิญพี่น้องปัตตานีเข้าไปมีส่วนร่วมในการรับฟังความคิดเห็นในเวที ค.1-3 ที่ อบต.ปากบาง เลยครับ ผมไม่เคยเห็นครับ? หรือทาง ดร.อนุชาตฯ จะบอกว่าทำไว้แล้วก็หาข้อมูลมานำเสนอเลยครับ
คนหนองจิก แม้แต่พื้นที่ ต.บางราพา กระโดดข้ามคลองกันถึง ยังไม่ได้รับรู้เรื่องเหล่านี้ ผมเคยเข้าไปชวนชาวบ้านพูดคุย ชาวบ้านไม่ทราบข้อมูลในรายละเอียดเลย พอคนเข้าไปซักถาม หลังจากนั้น ทีมงาน กฟผ.ในวงจึงเข้าไปที่นั่น
ยอมรับกันดีไหมครับ ว่า ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องนี้จะขยายผลหรือพลาดแล้วหรือเปล่า พลาดแล้วจริงๆ ที่ไม่ได้คิดถึงกรณีผลกระทบถึงคนปัตตานี คนจะนะ คนสะบ้าย้อย คนนาทวี คนโคกโพธิ์ คนพื้นที่รัศมี 100 กิโลเมตร โครงการเน้นเอาแต่คนในพื้นที่ละแวกตำบลใกล้ๆ หรือเปล่า? และคนในพื้นที่อีกหลายคนก็ไม่ได้เข้าร่วมเลยครับ ลองไปหาคลิปเก่าๆ ที่ชาวบ้านให้สัมภาษณ์กับทางสื่อหลายช่องครับ
ส่วนเรื่องผลกระทบที่นำเสนอเรื่องซัลเฟอร์ไดออกไซด์นั้น ว่าครอบคลุม 30 กิโลเมตร ให้ตรวจสอบข้อมูลเสียใหม่ครับ แต่ถ้ายังยืนยันผมจะนำเสนอให้ดูครับ ว่าเป็นเช่นไรครับ ด้วยความเคารพทางวิชาการครับ ข้อมูลที่นำเสนอมานั้น ความเข้มข้นเหล่านั้น ช่วยอธิบายหรือส่งเอกสารผลงานวิจัยมาให้ผมสักเล่มนะครับ ผมอยากอ่านมากครับ เพราะผมไม่มั่นใจในผลการจำลองเหล่านั้นครับ และภาพแสดงผลเป็นเพียงภาพเดียว ทำมาเป็นแบบจำลอง 30 ปีเลยตลอดโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเลยครับ ว่าสิ่งเหล่านี้จะตกค้างและไหลไปไหนอย่างไรในพื้นที่ด้วยครับ อย่าเอาแค่ลอยอยู่ในอากาศแบบนี้ และค่าเหล่านั้นก็ต่ำเกินไป การที่ค่าต่ำมันก็ดีนะครับ แต่ผมไม่มั่นใจในแบบจำลอง จากประสบการณ์ของผมที่ทำงานทางด้านนี้มา
ลองเปิดแบบจำลองออกมาให้เห็นในรัศมี 300 กม. ดูซิครับ ว่าเป็นเช่นไร?
ผมถึงบอกว่า ให้เชิญท่านนักวิจัยทั้งหลายในโครงการลงมาเล่าให้ชาวบ้านและนักวิชาการในพื้นที่ฟังครับ เพราะเพียงลำพังเวที ค.3 นักวิจัยบนเวทียังบ่นกับผมเลยว่า ทาง กฟผ.ให้นำเสนอน้อย ทั้งๆ ที่เค้ามีเนื้อหาอีกเยอะที่จะนำเสนอผลการวิจัย ยังมีอีกหลายประเด็นครับ ที่ยังน่าห่วงกังวลและควรเปิดเผยทั้งหมด…แค่รายงานสรุปผล ค.3 ยังไม่กล้านำเสนอกับสาธารณะเลยครับ เล่มที่ส่งให้ สผ.นะครับ
ลองทบทวนและพิจารณาใหม่ครับ ถ้าทาง กฟผ.ที่รับผิดชอบในโครงการนี้จริงๆ จริงใจจริงๆ กับคนในพื้นที่นะครับ คิดและทำในสิ่งที่คนพื้นที่เค้าต้องการและห่วงใยนะครับ…
และอย่าสรุปเอาเองว่า คนเทพา เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน คนเทพาคนเอาถ่านครับ ในขณะที่ชาวบ้านตั้งแต่ ประจวบฯ ชุมพร ท่าศาลา หัวไทร กระบี่ ล้วนปฏิเสธมาครับ
ถ้าถ่านหินมันดีจริงๆ สำหรับยุคนี้ เวลานี้ คงไม่ยากเกินไปที่ กฟผ.จะสร้างองค์ความรู้เชิงประจักษ์ที่จะทำให้สังคมไทยเชื่อได้ครับ แต่ถ้านำเสนอไม่รอบด้านทุกมุมมอง อนาคตหากเป็นปัญหา องค์กรของท่านจะเสื่อมเสียและขาดความมั่นใจต่อภาคประชาชนครับ
ลองพิจารณากันดูครับ
ด้วยมิตรภาพครับ
นายสมพร ช่วยอารีย์
ดร.สมพร ช่วยอารีย์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การโพสต์ข้อความเป็นไปเพื่อตอบโต้เรื่องข้อมูล ไม่ได้อยากจะมีเรื่องอะไร และสุดท้ายผลกระทบที่เกิดจากเหตุการณ์นี้คือความเชื่อมั่นของคนไทยต่อหน่วยงาน กฟผ.จะยิ่งมีปัญหา
นอกจากนั้น ดร.สมพร ได้โพสต์ภาพ เพื่ออธิบายถึงการให้ข้อมูลของ กฟผ. ว่าได้จัดทำแบบจำลองครอบคลุมพื้นที่จังหวัดปัตตานีแล้ว ซึ่งอาจไม่ครบถ้วนในกรณีมลสารที่เคลื่อนที่ไปกับลมทางตรง
คงมีนักวิชาการไม่มากนักหรอกครับที่จะมานั่งทำข้อมูลเหล่านี้ให้เชิงประจักษ์ให้ กฟผ.เคืองครับแต่เพื่อความกระจ่างแจ้ง สำหร…
Posted by Somporn Chuai-Aree on Tuesday, February 16, 2016
ด้าน ดร.สมนึก จงมีวศิน นักวิชาการภาคประชาสังคมด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของเครือข่ายภาคตะวันออก โพสต์ลิงค์ข่าวและแสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า อาจทำให้ผู้คนโดยทั่วไปเข้าใจผิดในเจตนารมณ์ทางวิชาการของนักวิชาการท่านนี้ได้ อีกทั้งเรียกร้องฝ่ายวิชาการของ กฟผ.ตรวจสอบและรีบแก้ไข ตามวิถีขององค์กรที่มีธรรมาภิบาล มีจรรยาบรรณและคุณธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวควรทำ ก่อนที่อาจมีการดำเนินการตามกฎหมาย
ในข้อมูลเพื่อการอะไรสักอย่าง ของ กฟผ ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้ .. ได้มีการนำรูปอาจารย์นักวิชาการท่านหนึ่ง ซึ่งผมรู้จักเป็นอย…
Posted by Somnuck Jongmeewasin on Tuesday, February 16, 2016