สิทธิชุมชนมีความสำคัญเสมอ อย่างเช่นที่ตำบลสำราญใต้ อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ชาวบ้านที่นั่นไม่ต้องการโรงไฟฟ้าขยะที่กำลังจะเกิดขึ้นพวกเขาเดินหน้าแสดงเจตจำนงค์ของชุมชนอย่างแรงกล้า จนในที่สุดก็มีคำยืนยันยุติโครงการจากหน่วยงานในพื้นที่ออกมาแต่ชาวบ้านก็ยังเฝ้าจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
“แต่ก่อนเราอยู่กันอย่างปกติ แต่พอโรงงานนี้จะเกิดขึ้นมาเนี่ย ชาวบ้านก็ไม่เคยมีโรงงาน ก็ไม่อยากได้ เพราะเห็นที่อื่นก็เดือดร้อนกันไปหมด แล้วแต่ความเจริญเถอะ ไม่เจริญก็ช่าง ไปสร้างที่อื่นเถอะ”
นี่เป็นอีกความกังวลใจของชาวบ้านต่อโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะ ขนาด 5.5 – 9.5 เมกกะวัตต์ในพื้นที่ และได้เข้าพบกับนายวิเชียร ลักคนสุวรรณ์ นายอำเภอสามชัยเพื่อติดตามความคืบหน้า หลังส่งหนังสือร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา
ล่าสุด หน่วยงานราชการในพื้นที่ได้เปิดเวทีชี้แจงการดำเนินการโครงการดังกล่าวที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลสำราญใต้ และรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ซึ่งภายหลังการชี้แจง นายอำเภอสามชัยยืนยันจะทำหนังสือแจ้งไปยัง อบต.และผู้นำชุมชนทุกหมู่บ้าน เพื่อยุติการดำเนินโครงการตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งสร้างความพอใจแก่ชาวบ้านที่มาร่วมในเวทีรับฟังดังกล่าว
“ชาวบ้านเองก็รู้สึกพอใจ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้ความรู้เรื่องนี้สักครั้ง ไม่ได้รับความกระจ่างแบบนี้ มีวันนี้ได้รู้อย่างกระจ่าง แนวคิดของชาวบ้านก็เต็มเปี่ยมอีกครั้ง คือ เรื่องผลกระทบเนี่ย มาอันดับที่หนึ่งเลย เพราะพื้นที่ตรงนี้ เป็นพื้นที่ทำการเกษตร ทำการประมง เราไม่อยากให้มีมลพิษ มลภาวะเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำลายคุณภาพชีวิต วิถีชีวิตดั้งเดิมของเรา นี่คือชาวสำราญใต้ เรารักสำราญใต้” เสียงจาก สงวน สินธุ์โพด หนึ่งในชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุม
แม้จะคลายความกังวลใจต่อโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวลงบ้าง แต่…ชาวบ้านจะยังคงจับตาเฝ้าระวังการดำเนินการของบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการอย่างใกล้ชิด เพราะพวกเขามองว่าพื้นที่ ต.สำราญใต้ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์นั้น เป็นพื้นที่ทางการเกษตร และไม่มีปัญหาเรื่องการจัดการขยะ ดังนั้นการที่จะตั้งโรงไฟฟ้า และนำเอาขยะจากพื้นที่อื่นเข้ามาอาจส่งผลกระทบต่อคนในชุมชน และไม่คุ้มค่ากับการลงทุน