บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ฯ ร่อนหนังสือชี้แจงกรณีเปิดโครงการ “จากกันด้วยใจ” เผยให้เฉพาะพนักงานรับเหมาช่วง ยัน 50 ปีที่ผ่านมาในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บริษัทไม่มีนโยบายปลดพนักงาน ด้านสมาพันธ์แรงงานฯ เตรียมคุยในเครือ
6 ก.ค. 2559 นักสื่อสารแรงงาน รายงานผ่าน voicelabour.org ระบุ ฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีการเปิดโครงการสมัครใจลาออก ว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในโซเซียลเน็ทเวิร์ค ถึงโครงการสมัครใจลาออกสำหรับพนักงานรับเหมาช่วงของบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ทางบริษัทฯ ใคร่ขอชี้แจงรายละเอียดดังต่อไปนี้ว่า จากสถานการณ์ตลาดรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาส่งผลบริษัทฯ ต้องปรับลดกำลังการผลิตลง และมีพนักงานเกินความจำเป็นในการผลิต รวมทั้งต้องปรับลดจำนวนชั่วโมงการทำงานล่วงเวลา ทำให้รายได้รวมต่อเดือนของพนักงานลดลง
ดังนั้นเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้พนักงานได้มีทางเลือก บริษัทฯ จึงเปิดโครงการ “จากกันด้วยใจ” ให้แก่พนักงานรับเหมาช่วงเข้าร่วมโครงการสมัครใจลาออก ซึ่งพนักงานที่เข้าโครงการจะได้รับเงินชดเชยครบถ้วนตามกฎหมายแรงงานและบริษัทฯ ยังพิจารณาจ่ายเงินเพิ่มเติมพิเศษให้กับพนักงานที่เข้าร่วมโครงการอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ของตลาดรถยนต์ดีขึ้น ทางบริษัทฯ ยินดีที่จะรับพนักงานที่สมัครใจร่วมโครงการนี้กลับเข้าทำงานเป็นลำดับแรก โดยคงอัตราค่าจ้างพร้อมสวัสดิการตามเดิม รวมทั้งจะมีการนับอายุงานต่อเนื่อง
บริษัทยังยืนยันว่าระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมาในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บริษัทไม่มีนโยบายปลดพนักงานออกแต่อย่างใด รวมทั้ง โตโยต้ายังมีความมั่นใจว่าประเทศไทยยังคงมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคนี้ต่อไป
ด้านภูภาร สมายา ประธานสมาพันธ์แรงงานโตโยต้าประเทศไทย กล่าวถึงการเปิดโครงการ“จากกันด้วยใจ” ให้พนักงานรับเหมาช่วงของบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ลาออกโดยสมัครใจนั้น ในส่วนของสหพันธ์แรงงานฯ ทราบว่า เป็นการปรับตัวเรื่องกระบวนการผลิตของนายจ้าง และมีปัญหาในเรื่องของกำลังคนที่เกินด้วยการเปิดให้มีการสมัครใจลาออก
ประธานสมาพันธ์แรงงานโตโยต้าประเทศไทย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เท่าที่รับรู้ข้อมูลพนักงานเหมาช่วงมีการสมัครใจลาออกจำนวนมากเกินกว่าที่นายจ้างกำหนดไว้ จนในส่วนของหัวหน้างานต้องดึงรายชื่อบางส่วนของพนักงานที่ทำงานดีกลับไปไม่ให้ออกตามโครงการฯ และการผลิตสินค้าตัวใหม่ที่ต้องการทักษะแรงงานสูงกว่าเดิม ซึ่งกระบวนการผลิตของโตโยต้ายังเป็นการใช้กำลังคนยังไม่ได้นำโรบอทหรือหุ่นยนต์เข้ามาใช้กำลังคนจึงเกิน แต่ในอนาคตต้องมีการพัฒนาคน
สำหรับข่าวนี้ทางสหพันธ์แรงงานโตโยต้าฯ ซึ่งเป็นกรรวมตัวของสหภาพแรงงานในเครือก็มีการประชุมเพื่อที่จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวเช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เรียกประชุมเพื่อติดตามข้อมูล อย่างไรก็ตามในแต่ละแห่งแต่ก็เฝ้าระวังสถานการณ์อยู่
ส่วนโครงการ “จากกันด้วยใจ” นายจ้างก็จ่ายเงินให้กับพนักงานฯ ที่เข้าโครงการ และรับปากว่าจะรับกลับหากสถานการณ์ในบริษัทดีขึ้น ซึ่งการที่พนักงานฯ สมัครใจเข้าร่วมโครงการจนเกินกำหนดของบริษัทฯ นั้นอาจเป็นเพราะพนักงานฯ ต้องการเงินก้อนที่บริษัทให้ตอบแทน และพนักงานฯ ส่วนใหญ่อายุยังน้อย นอกจากนี้ในส่วนของ Carmaker ค่ายรถต่างๆ ก็มีความกังวลว่าจะมีผลกระทบหรือไม่อยู่เช่นกันในขณะนี้
หนึ่งในพนักงานโตโยต้า และสมาชิกสหภาพแรงงาน กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นพนักงานโตโยต้าอยากให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ เพราะพนักงานรับเหมาช่วงเหล่านี้เป็นแรงงานชั้นดีที่ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน อยากให้บริษัทฯ คิดถึงครอบครัวของแรงงานที่ยังมีภาระรับผิดชอบ การที่กล่าวถึงความเป็นพี่น้องผู้ใช้แรงงานจึงอยากให้ทางสหภาพแรงงานเข้ามาดูแลเพื่อให้พี่น้องแรงงานได้รับผลประโยชน์สูงสุด