เดินก้าวเเลก เพื่อการปฏิรูปที่ดิน

เดินก้าวเเลก เพื่อการปฏิรูปที่ดิน

9 พฤศจิกายน 2557 สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ร่วมกับเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนและประชาสังคมภาคเหนือ จัดกิจกรรมประกาศเจตนารมณ์ “เดิน ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย” เนื่องในวาระครบรอบ 40 ปี สหพันธ์ชาวนาชาวไร่แห่งประเทศไทย (สชท.) เพื่อรณรงค์และผลักดัน “หยุด 1+4” คือ หยุดแผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติกฎหมาย 4 ฉบับ เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย  

อย่างไรก็ตามกิจกรรม “เดิน ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย” นอกจากจะมีการทำบุญรำลึกการต่อสู้ และสูญเสียชีวิตของผู้นำเกษตรกรจากอดีตถึงปัจจุบัน ยังมีการทำพิธีกรรมบายศรีสู่ขวัญตามประเพณีชนเผ่าให้กับแกนนำ และอาสาสมัคร ที่ร่วมเดินรณรงค์และผลักดัน “หยุด 1+4” การปาฐกถาพิเศษ ดร.ประภาส ปิ่นตบแต่ง หัวข้อ “40 ปีความล้มเหลวการปฏิรูปที่ดินไทย” และมีการอ่านแถลงการรณ์ประกาศเจตนารมณ์ โดยตัวแทนเครือข่ายสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ และตัวแทนศูนย์ประสานงานเยาวชนสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD.) และเริ่มกิจกรรมรณรงค์ “ก้าวแลกเพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย” “หยุด 1+4”

นายดิเรก กองเงิน สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) กล่าวว่า ในปี พ.ศ.2557 นี้ ครบรอบ 40 ปี แห่งการก่อตั้ง “สหพันธ์ชาวนาชาวไร่แห่งประเทศไทย” เครือข่ายเกษตร ชาวนา ชาวไร่ขอน้อมรำลึก สดุดีและสืบสานประวัติศาสตร์การต่อสู้ของประชาชนและเหล่าผู้นำที่ล่วงลับและนับตั้งแต่ คสช. ออกคำสั่งที่ 64/2557 และแผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนการเคลื่อนไหว ซึ่งนอกจากปัญหาที่ดินของเกษตรจะไม่ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ในทางกลับกันคำสั่งและแผนแม่บทดังกล่าว ยังก่อให้เกิดผลกระทบกับเกษตรกรและผู้ยากจนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น สกน.จึงจัดกิจกรรม “ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย” ขึ้น โดยมีเป้าหมาย “หยุด 1+4” คือ หยุดแผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติกฎหมาย 4 ฉบับ เพื่อการปฏิรูปที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติภาษที่ดินอัตราก้าวหน้า, ร่างพระราชบัญญัติธนาคารที่ดิน, ร่างพระราชบัญญัติสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากร ในรูปแบบโฉนดชุมชน และร่างพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม

นายดิเรก กล่าวต่อว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งที่ 64/2557 เรื่องการปราบปรามการหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยมอบหมายให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กอ.รมน. ดำเนินการปราบปรามและจับกุมผู้บุกรุกป่า โดย คสช. มีเจตนารมณ์ที่จะปราบปรามนายทุน ผู้มีอิทธิพลและขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ  มีคำสั่งที่ 66/2557 ซึ่งเน้นย้ำว่าการดำเนินการต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ที่มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมนั้นๆ ก่อนคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้

แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลังคำสั่งประกาศใช้ กลับพบว่าได้มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติการโดยไม่แยกแยะว่าเป็นนายทุน ผู้มีอิทธิพล หรือประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ที่มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งได้อาศัยอยู่ในพื้นที่มาก่อน ตลอดจนได้มีเจ้าหน้าที่บางส่วนอ้างคำสั่งดังกล่าวไปข่มขู่คุกคาม ทำให้เกิดความวิตกกังวลและหวาดกลัว จนไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 มีการประกาศใช้แผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายคือการเพิ่มพื้นที่ป่าให้อุดมสมบูรณ์ให้ได้ 40% ของพื้นที่ประเทศ โดยใช้คำว่าการทวงคืนผืนป่าซึ่งเป็นที่ดินและที่อยู่อาศัยของคนจน

ซึ่งแผนแม่บทฯ ถูกจัดทำขึ้นโดยขาดการมีส่วนร่วมจากประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ และใช้ภาพถ่ายทางอากาศ เป็นหลักเกณฑ์การพิสูจน์ตาม มติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 ทำให้สร้างความไม่เป็นธรรมกับประชาชน และสร้างผลกระทบมากยิ่งขึ้น ซึ่งเนื้อความในแผนแม่บทฯ มีความขัดแย้งกับคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยเฉพาะข้อที่ 9.3 พัฒนาระบบการบริหารจัดการที่ดินและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ให้ประชาชนอยู่กับป่าได้ ปรับปรุงกลไกภาษีเพื่อกระจายการถือครองที่ดิน เร่งรัดจัดสรรที่ดินให้ผู้ยากไร้ รับรองสิทธิร่วมในการจัดการที่ดินของชุมชน กำหนดรูปแบบที่เหมาะสมของธนาคารที่ดิน เพื่อให้เป็นกลไกในการนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งขัดแย้งกับแนวทางการปฏิบัติงานของแผนแม่บทฯ

          ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ก็เพื่อ “หยุด 1+4” คือ หยุดแผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติกฎหมาย 4 ฉบับ และเริ่มก้าว ออกเดินเพื่อการรณรงค์ นายดิเรก กล่าวในตอนท้าย 

 

นิภาวรรณ แก้วแสนทิพย์ (หลิน) 086-0088269

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ