สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค ออกแถลงการณ์ จี้กสทช.แก้ประกาศ ห้ามค่ายมือถือกำหนดวันหมดอายุบัตรเติมเงินมือถือ
แถลงการณ์ กรณีปัญหาการกำหนดระยะเวลาการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (pre-paid)
"นับจากเดือนตุลาคม 2554 จนถึงขณะนี้นับได้ว่า กสทช. ยุคบุกเบิกได้เข้ามาทำงานจนผ่านระยะเวลาทดลองงานแล้ว ในฐานะสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคในการคุ้มครองตัวเอง จึงขอให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เร่งแก้ไขปัญหา การกำหนดระยะเวลาการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้า ,แบบเติมเงิน หรือพรีเพด เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีอยู่ว่า ร้อยละ 90 ของผู้บริโภคที่ใช้บริการโทรศัพท์มือถือนั้น เป็นแบบเติมเงิน ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 60 ล้านเลขหมายและเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ
แต่ผู้บริโภคทั้งหมดนี้ กลับต้องผจญอยู่กับปัญหาซ้ำซาก คือการถูกกำหนดระยะเวลาการใช้บริการ ถูกเร่งรัดให้ต้องใช้บริการเกินควร เช่น 10 บาทใช้งานได้เพียง 1 วัน ซึ่งเท่ากับเป็นการบังคับว่า ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแบบพรีเพดทุกคนต้องจ่ายเงินค่าสื่อสาร แม้ว่าจะใช้บริการหรือไม่ใช้บริการก็ตามเป็นเงินอย่างน้อย 10 บาทต่อวันให้กับผู้ให้บริการ หากฝ่าฝืนก็จะถูกยึดเงิน ยึดเลขหมายโทรศัพท์
ทั้งที่การกำหนดดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนข้อ 11 ของประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ซึ่งเท่ากับผู้ให้บริการได้กระทำการที่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง ของ กทช.เดิม หรือในปัจจุบันคือ กสทช. มานานกว่า 6 ปีแล้ว นอกจากนี้เมื่อเดือนสิงหาคม 2554 ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร เนื่องจาก กทช. ใช้เวลาในการพิจารณาแบบสัญญาฉบับใหม่นานกว่า 3 ปีทำให้ ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ กทช. ปฏิบัติหน้าที่ กสทช. เร่งพิจารณาแบบสัญญาโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้าของบริษัทให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน หรือกำหนดแบบสัญญามาตรฐานขึ้นมาเพื่อช่วยคุ้มครองผู้บริโภค
ดังนั้น สหพันธ์องค์กรผู้บริโภคจึงขอเรียกร้องให้ กสทช. บังคับให้ประกาศ กทช. เรื่อง มาตาฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ข้อ 11 การให้บริการโทรคมนาคมในลักษณะที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการเป็นการล่วงหน้าจะต้องไม่มีข้อกำหนดอันมีลักษณะเป็นการบังค้บให้ผู้ใช้บริการต้องใช้บริการภายในระยะเวลาที่กำหนด เว้นแต่ ผู้ให้บริการจะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการเป็นการล่วงหน้า มีผลบังคับใช้จริงในทางปฏิบัติ เพื่อปลดล็อคแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภคที่ใช้บริการโทรศัพท์แบบพรีเพดกว่า 60 ล้านคนทั่วประเทศ และปฏิบัติตามคำสั่ง ศาลปกครองกลางโดยเร่งพิจารณาแบบสัญญาฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จ พร้อมชี้แจงและกำหนดเวลาที่จะแก้ไขปัญหานี้อย่างชัดเจนภายใน 15 วัน ไม่เช่นนั้น จะดำเนินการฟ้องต่อศาลในฐานะที่ กสทช. ละเมิดคำสั่งศาลปกครองให้เป็นแบบอย่างต่อไป"
บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค
31 ม.ค. 55