สมัชชาคนจนแถลง ‘วันสตรีสากล’ จี้รัฐบาลคืนอำนาจอธิปไตย

สมัชชาคนจนแถลง ‘วันสตรีสากล’ จี้รัฐบาลคืนอำนาจอธิปไตย

20150903104505.jpg

ภาพจากแฟ้ม: สมัชชาคนจน

9 มี.ค. 2558 สมัชชาคนจน เผยแพร่แถลงการณ์ในวาระวันสตรีสากล 8 มี.ค. 2558 ระบุ หัวใจของวันสตรีสากล คือการที่ผู้หญิงได้มีจิตสำนึกและลุกขึ้นมาต่อต้านการกดขี่ขูดรีดที่กระทำต่อผู้หญิงทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม อันมีรากเหง้าจากลัทธิชายเป็นใหญ่ ซึ่งเป็นลักษณะอำนาจนิยมแบบหนึ่งที่มีอิทธิพลครอบงำแม้กระทั่งผู้หญิงด้วยกัน 

แถลงการณ์ ระบุด้วยว่า เผด็จการทหารอำนาจนิยมที่หวนกลับคืนสู่สังคมไทยในปัจจุบัน ยิ่งเป็นลัทธิอำนาจนิยมแบบชายเป็นใหญ่ที่เข้มข้นรุนแรงอย่างที่สุด เผด็จการทหารอำนาจนิยมได้กลายเป็นอุปสรรคต่อการต่อสู้ของผู้หญิงคนจน ในขณะเดียวกันก็หลอกล่อและเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนทั้งหญิงและชายไปจากประเด็นหลัก นั่นคือความเท่าเทียมและเป็นธรรมอย่างถ้วนหน้า ไปเป็นประเด็นฉาบฉวย 

แถลงการณ์ เรียกร้องว่า เพื่อที่จะแสดงความจริงใจต่อผู้หญิงเนื่องในวันสตรีสากล สิ่งที่รัฐบาลทหารจะต้องรีบทำโดยเร่งด่วนคือการยุติการรังควานต่อผู้หญิงคนจน รวมถึงครอบครัวและญาติพี่น้องทั้งชายและหญิง ที่ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมและสิทธิเสรีภาพในทุกด้าน โดยเฉพาะสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชน และสิทธิในการจัดการทรัพยากร และคืนอำนาจอธิปไตยแก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด พร้อมเรียกร้องให้ผู้หญิงทุกคนได้ตระหนักรู้และปลดปล่อยตัวเองจากลัทธิชายเป็นใหญ่

แถลงการณ์ในวาระวันสตรีสากล 8 มีนาคม 2558

จากการต่อสู้มาเกือบ 20 ปี สมัชชาคนจนเห็นว่า อำนาจรัฐที่ใช้ความอยุติธรรมและความรุนแรงมากดขี่ขูดรีดคนจนเพื่อผลประโยชน์ของทั้งชนชั้นนำและนายทุน ย่อมไม่สนใจว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจะเป็นชายหรือหญิง ด้วยเหตุนี้ ผู้หญิงในสมัชชาคนจนจึงต้องลุกขึ้นสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชายในทุกโอกาส การต่อสู้ของผู้หญิงในสมัชชาคนจน จึงเป็นไปในทิศทางเดียวกับการต่อสู้ของกรรมกรสตรีในสหรัฐอเมริกา ที่ลุกขึ้นต่อต้านการกดขี่และการทารุณเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2400 ซึ่งเป็นที่มาของวันสตรีสากล 

หัวใจของวันสตรีสากล คือการที่ผู้หญิงได้มีจิตสำนึกและลุกขึ้นมาต่อต้านการกดขี่ขูดรีดที่กระทำต่อผู้หญิง ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม อันมีรากเหง้าจากลัทธิชายเป็นใหญ่ ซึ่งเป็นลักษณะอำนาจนิยมแบบหนึ่งที่มีอิทธิพลครอบงำแม้กระทั่งผู้หญิงด้วยกัน ยิ่งสังคมมีวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่มากเท่าใด ผู้หญิงต้องตกอยู่ในความทุกข์ยากมากเท่านั้น เผด็จการทหารอำนาจนิยมที่หวนกลับคืนสู่สังคมไทยในปัจจุบัน ยิ่งเป็นลัทธิอำนาจนิยมแบบชายเป็นใหญ่ที่เข้มข้นรุนแรงอย่างที่สุด

เผด็จการทหารอำนาจนิยมได้กลายเป็นอุปสรรคต่อการต่อสู้ของผู้หญิงคนจน ในขณะเดียวกันก็หลอกล่อและเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนทั้งหญิงและชายไปจากประเด็นหลัก นั่นคือความเท่าเทียมและเป็นธรรมอย่างถ้วนหน้า ไปเป็นประเด็นฉาบฉวย เช่น การถกเถียงจำนวนผู้หญิงในสถาบันทางการเมืองต่างๆ การที่ผู้นำรัฐบาลทหารฉวยโอกาสในวันสตรีสากล กล่าวคำชื่นชมต่อผู้หญิง สัญญาจะผลักดันความเท่าเทียมและให้โอกาสผู้หญิงในการขับเคลื่อนประเทศ จึงเป็นการโกหกหลอกลวงและบิดเบือนความเป็นจริง เพราะคำชื่นชมและคำสัญญาดังกล่าวขัดแย้งกับธรรมชาติของเผด็จการทหารอำนาจนิยมโดยสิ้นเชิง

สมัชชาคนจนเห็นว่า เพื่อที่จะแสดงความจริงใจต่อผู้หญิงเนื่องในวันสตรีสากล สิ่งที่รัฐบาลทหารจะต้องรีบทำโดยเร่งด่วนคือการยุติการรังควานต่อผู้หญิงคนจน รวมถึงครอบครัวและญาติพี่น้องทั้งชายและหญิง ที่ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมและสิทธิเสรีภาพในทุกด้าน โดยเฉพาะสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชน และสิทธิในการจัดการทรัพยากร และคืนอำนาจอธิปไตยแก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด เรายังขอเรียกร้องให้ผู้หญิงทุกคนได้ตระหนักรู้และปลดปล่อยตัวเองจากลัทธิชายเป็นใหญ่

เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันสตรีสากล สมัชชาคนจนขอแสดงความสมานฉันท์กับพี่น้องผู้หญิงทุกคน ทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก ที่ร่วมกันต่อสู้เพื่อสถาปนาสังคมที่เท่าเทียม เป็นธรรม และมีสิทธิเสรีภาพแท้จริงเพื่อประชาชนทุกเพศ

 

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ