มูลนิธิผสานวัฒนธรรมร้องเลิกออกหมายจับ นศ.-หยุดดำเนินคดีพลเรือนในศาลทหาร

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมร้องเลิกออกหมายจับ นศ.-หยุดดำเนินคดีพลเรือนในศาลทหาร

22 มิ.ย. 2558 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ออกแถลงการณ์ “ยกเลิกการออกหมายจับนักศึกษา ยุติการดำเนินคดีพลเรือนในศาลทหาร การแสดงออกทางความคิดเห็นโดยสงบและปราศจากความรุนแรงไม่ใช่อาญชกรรม” ระบุถึงการทำกิจกรรมของนักศึกษาในการแสดงออกทางความคิดเห็น ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2558 ซึ่งรัฐมีความพยายามที่จะยุติบทบาทของนักศึกษาด้วยการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งทหารตำรวจจับกุมนักศึกษาทั้งที่กรุงเทพและที่ขอนแก่น

แถลงการณ์ระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้อ้างเหตุผลความจำเป็นด้านความมั่นคงที่มีการตีความอย่างกว้างขวางว่ากิจกรรมแสดงความคิดเห็นโดยสงบเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกฝ่ายควรอดทนอดกลั้นต่อกิจกรรมลักษณะดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่สอดคล้องกับแนวนโยบายด้านการปรองดองและแนวทางการปฎิรูปของรัฐบาล โดยไม่ขัดขวางและยึดมั่นแนวทางสันติเพื่อให้ประเทศไทยกลับคืนสู่หนทางประชาธิปไตยโดยเร็ว

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ระบุข้อเรียกร้องดังนี้ 1) ยุติการคุมคาม ติดตาม ทั้งผู้ปกครองและนักศึกษากลุ่มดาวดินและนักศึกษากลุ่มอื่นๆ ที่ได้ดำเนินกิจกรรมโดยสงบปราศจากความรุนแรง 2) ยุติการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกโดยการร่วมกลุ่ม การแสดงความคิดเห็น โดยสงบปราศจากความรุนแรง หน่วยงานความมั่นคงจะต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวัง มีความอดทนอดกลั้น เคารพต่อหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนสากล แม้จะอ้างว่ามีการใช้กฎหมายพิเศษภายใต้รัฐบาลนี้ก็ตาม

3) ยกเลิกหมายจับนักศึกษา รวมทั้งพนักงานสอบสวนและอัยการทหารสั่งคดีด้วยความเป็นธรรมต่อนักศึกษาดาวดิน 7 คนและนักศึกษาที่กรุงเทพ 9 คน โดยการสั่งไม่ฟ้อง และ 4) ยุติการดำเนินคดีพลเรือนในศาลทหาร

20152206182222.gif
 

 

ยกเลิกการออกหมายจับนักศึกษา ยุติการดำเนินคดีพลเรือนในศาลทหาร

การแสดงออกทางความคิดเห็นโดยสงบและปราศจากความรุนแรง

ไม่ใช่อาญชกรรม

กิจกรรมนักศึกษาในการแสดงออกทางความคิดเห็นโดยสงบและปราศจากความรุนแรงไม่ใช่อาชญกรรม นักศึกษามิใช่อาชญกรของรัฐ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 มีนักศึกษาทั้งกลุ่มที่แสดงออกทางสัญลักษณ์ด้วยกิจกรรม “เวลา” ที่หอศิลปกรุงเทพฯ และการแสดงออกทางสัญลักษณ์ที่อนุสาวรีย์จังหวัดขอนแก่น รัฐมีความพยายามที่จะยุติบทบาทของนักศึกษาด้วยการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งทหารตำรวจจับกุมนักศึกษาทั้งที่กรุงเทพและที่ขอนแก่น ที่ผ่านมารัฐติดตามนักศึกษามาโดยตลอดโดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาดาวดิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น อีกทั้งต่อมามีการเผยแพร่ผ่านสื่อสาธารณะว่าจะมีหมายเรียกผู้ปกครองของนักศึกษาที่ตกเป็นเป้าของการคุกคามของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้อ้างเหตุผลความจำเป็นด้านความมั่นคงที่มีการตีความอย่างกว้างขวางว่ากิจกรรมแสดงความคิดเห็นโดยสงบเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกฝ่ายควรอดทนอดกลั้นต่อกิจกรรมลักษณะดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่สอดคล้องกับแนวนโยบายด้านการปรองดองและแนวทางการปฎิรูปของรัฐบาล โดยไม่ขัดขวางและยึดมั่นแนวทางสันติเพื่อให้ประเทศไทยกลับคืนสู่หนทางประชาธิปไตยโดยเร็ว

ล่าสุดมีการแถลงถึงวิธีการกดดันโดยอาศัยอำนาจพิเศษในการออกหมายจับนักศึกษาดาวดินจำนวน 7 คนและนักศึกษาที่กรุงเทพจำนวน 9 คนโดยศาลทหาร กิจกรรมทั้งที่กรุงเทพและที่ขอนแก่นในวันครบรอบหนึ่งปีรัฐประหารเป็นกิจกรรมแสดงออกทางความคิดเห็นโดยสงบและปราศจากความรุนแรง เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่โดยปกติรัฐมีพันธกรณีตามหลักกฎหมายสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นรัฐสมาชิกในการสนับสนุน ส่งเสริม และเติมเติมให้กับทุกคน 

อีกทั้งเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2558 เวลา 13.30 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่น นักศึกษาจำนวน 3 คน ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ไปยังค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น ได้แก่ น.ส.ขวัญหทัย ปทุมถาวรสกุล, น.ส.จิรัชญา หาญณรงค์ และ นายกฤต แสงสุรินทร์ โดยทั้ง 3 คน จะนำรูปวาดเพื่อนนักศึกษา 7 คนไปตั้งบริเวณอนุสาวรีย์ดังกล่าว แต่ถูกตำรวจทหารดักยึดอุปกรณ์ภาพวาดพร้อมนำตัวทั้ง 3 ไปที่สภ.ขอนแก่น ก่อนคุมตัวต่อไปยังค่ายศรีพัชรินทร นักศึกษาทั้งสามคนไม่เคยถูกหมายเรียกแต่อย่างใด และไม่ได้กระทำการอันใดเป็นการผิดกฎหมาย ถึงแม้ว่าต่อมาได้รับการปล่อยตัวในวันเดียวกันเวลา 16.30 น. กระทำของเจ้าหน้าที่ที่จับกุมนักศึกษาทั้งสามคนโดยพลการเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุอีกทั้งเป็นการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอเรียกร้องให้

1) ยุติการคุมคาม ติดตาม ทั้งผู้ปกครองและนักศึกษากลุ่มดาวดินและนักศึกษากลุ่มอื่นๆ ที่ได้ดำเนินกิจกรรมโดยสงบปราศจากความรุนแรง

2) ยุติการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกโดยการร่วมกลุ่ม การแสดงความคิดเห็น โดยสงบปราศจากความรุนแรง หน่วยงานความมั่นคงจะต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวัง มีความอดทนอดกลั้น เคารพต่อหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนสากล แม้จะอ้างว่ามีการใช้กฎหมายพิเศษภายใต้รัฐบาลนี้ก็ตาม

3) ยกเลิกหมายจับนักศึกษา รวมทั้งพนักงานสอบสวนและอัยการทหารสั่งคดีด้วยความเป็นธรรมต่อนักศึกษาดาวดิน 7 คนและนักศึกษาที่กรุงเทพ 9 คน โดยการสั่งไม่ฟ้อง

4) ยุติการดำเนินคดีพลเรือนในศาลทหาร

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ