สุนัย ผาสุข ที่ปรึกษา Human Right Watch ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวนักข่าวพลเมือง C-Reporters ถึงมุมมองของพลเมืองกับการเดินหาความยุติธรรมที่สะท้อนถึงสภาวะบางอย่างของสังคมไทยปัจจุบัน ใน “นักข่าวพลเมือง: พลเมืองโต้กลับ“
กิจกรรมของพลเมืองโต้กลับในทางสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ถือว่าเป็นการแสดงออกทางความคิดแบบสงบสันติวิธี เป็นการใช้สิทธิตามกติกาพลมืองและสิทธิทางการเมืองไม่ควรจะเห็นว่ากิจกรรมอย่างพลเมืองโต้กลับเป็นภัยคุกคามหรือจะต้องถูกปิดกั้นไว้ก่อนแต่อย่างใด
Human Rights Watch เรามีจุดยืนตั้งแต่ต้นแล้วซึ่งตอบรับกับกติการะหว่างประเทศ นั้นคือ พลเรือนไม่ควรถูกนำไปพิจารณาคดีในศาลทหาร เพราะศาลทหารนั้นไม่ได้ตอบรับในหลักการความเป็นอิสระของศาล ความโปร่งใส ตรงไปตรงมา ในเรื่องของการพิจารณาคดีตามหลักการสากล
ศาลทหารนั้นมีข้อจำกัดอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงื่อนไขของประเทศไทยมีลักษณะเจาะจงยิ่งไปกว่านั้น คือ ศาลทหารนั้นเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างภายใต้การบังคับบัญชากระทรวงกลาโหม ซึ่งมีรัฐมนตรีเป็นสมาชิกของ คสช. ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจใช้กฏอัยการศึกสั่งห้ามไม่ให้มีกิจกรรมทางการเมืองใดๆ
เพราะฉะนั้นศาลทหารจึงถือเป็นส่วนหนึ่งของคู่ความไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเป็นอิสระเลย อัยการศาลทหารก็เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นตามหลักการสากลความเป็นอิสระของกระบวนการยุติธรรมมันจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในโครงสร้างของศาลทหาร
สำหรับกรณีของคณะพลเมืองโต้กลับ Human Rights Watch กำลังจะออกแถลงการณ์ในวันพรุ่งนี้ เพื่อตอกย้ำอีกครั้งว่า การแสดงของคณะบุคคลในพลเมืองโต้กลับซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นอย่างสันติไม่ควรจะต้องถูกปราบปรามดำเนินคดี ประการที่ 2 พวกเขาไม่ควรจะต้องถูกขึ้นศาลทหาร ตามหลักการสากลที่ว่าพลเมืองไม่ควรจะต้องถูกดำเนินคดีโดยศาลทหาร
ประการที่ 3 ที่สำคัญมากคือว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปรับปากให้คำสัญญากับประชาคมระหว่างประเทศไว้ว่าจะฟื้นฟูประชาธิปไตยในประเทศไทยผ่านการเลือกตั้ง จะเคารพสิทธิเสรีภาพสิทธิมนุษยชน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้มันตรงข้ามกับสิ่งที่ได้สัญญาไว้โดยตลอด
เราก็อยากจะย้ำเตือนคำสัญญาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ในเรื่องของการฟื้นฟูประชาธิปไตย ต้องเริ่มจากการยกเลิกกฎอัยการศึก เริ่มจากการรับฟังคนที่เห็นต่าง เริ่มจากการยอมรับเสรีภาพขั้นพื้นฐาน สิทธิเสรีภาพการแสดงออกอย่างสันติ การชุมนุมอย่างสันติ เหล่านี้เป็นพื้นฐานของการฟื้นฟูประชาธิปไตย แต่ถ้าหากสิทธิเสรีภาพเหล่านี้ยังคงถูกปิดกันด้วยกฎอัยการศึก เราก็จะไม่เห็นความหวังใดๆ ที่ประเทศไทยจะกลับเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตยได้