ประมวลแถลงการณ์ไทย-ปฏิกิริยาเทศ หลังเหตุระเบิดแยกราชประสงค์

แถลงการณ์ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท)
เรื่อง ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและขอให้ยุติการใช้ความรุนแรงกับประชาชนผู้บริสุทธิ์

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ใจกลางเมืองหลวงกรุงเทพฯซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีประชาชนสัญจรไปมาหนาแน่นเมื่อวันที่  17  สิงหาคม  2558 เวลาประมาณ 19.00 น.และเป็นเหตุให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ผู้เคราะห์ร้ายตกเป็นเหยื่อในเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตจำนวน 20 ราย และบาดเจ็บจำนวน 117 ราย

คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและบาดเจ็บอย่างสุดซึ้ง ขอไว้อาลัยกับดวงวิญญาณผู้เคราะห์ร้ายที่จากไป และขอให้ผู้ที่ยังรักษาตัวอยู่ในขณะนี้จงหายเป็นปกติในเร็ววัน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าใคร จากกลุ่มไหนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ

คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ไม่เห็นด้วยกับการใช้วิธีการรุนแรงกับประชาชนผู้บริสุทธิ์และขอประณามผู้ที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นใครจากกลุ่มไหนก็ตามและขอให้ยุติการใช้วิธีการรุนแรงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขไดๆ และขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการเป็นกรณีพิเศษเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ในเร็ววัน เนื่องจากเป็นการกระทำที่อุกอาจ ท้าทาย ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองและมีเจตนามุ่งประสงค์ต่อชีวิตผู้บริสุทธิ์อย่างชัดเจน เป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญประชาชน ส่งผลกระทบต่อด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยว ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก

คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ยังมีความเชื่อมั่นกับหน่วยงานที่รับผิดชอบและหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบจะเร่งดำเนินการคลี่คลายเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้ในเร็ววัน และคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ขอความร่วมมือจากสมาชิกทุกองค์กรออกแถลงการณ์ ร่วมรณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงกับผู้บริสุทธิ์โดยไม่เงื่อนไขไดๆ จึงแถลงการณ์มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

ด้วยความเชื่อมั่นในพลังของแรงงาน ร่วมต้านการใช้ความรุนแรง เพื่อปฏิรูปประเทศไทย
คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย
18 สิงหาคม 2558

แถลงการณ์ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 
เรื่อง ประณามการใช้ความรุนแรงและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยใช้ระเบิดสังหารต่อกลุ่มเป้าหมายประชาชนผู้บริสุทธิ์ในที่ชุมชนบริเวณราชประสงค์ 

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ จากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชุมชนบริเวณศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 เวลาประมาณ 19.00 น. โดยผู้ก่อความไม่สงบใช้ระเบิดสังหาร เพื่อมุ่งหมายชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริสุทธิ์ จนกระทั่งมีผู้เสียชีวิต จำนวน 20 ราย และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 125 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่มาแสวงบุญตามความเชื่อทางศาสนา ตามที่ปรากฏเป็นข่าวโดยทั่วไป

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ในการส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน เห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการก่อเหตุในพื้นที่ชุมชนซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก โดยใช้วิธีการที่โหดร้ายทารุณ ไร้มนุษยธรรม อันถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ในการนี้ จึงขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และครอบครัวของบุคคลดังกล่าวที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนผู้ที่สูญเสียทรัพย์สิน และผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อจิตใจมา ณ โอกาสนี้ รวมทั้งขอเรียกร้องและเสนอต่อทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

1. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรง ดังกล่าวและขอเรียกร้องให้ยุติการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

2. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติขอเป็นกำลังใจให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการควบคุมสถานการณ์ให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ทั้งในเรื่องการดำเนินการสืบสวน และสอบสวน เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย การดูแลรักษาพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ การเยียวยาผู้เสียหาย ผู้บาดเจ็บ และผู้ที่เสียชีวิตจากกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งต่อชาวไทยและชาวต่างประเทศ

3. ประชาชนทุกภาคส่วนควรรับฟังข่าวสารจากรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง หลีกเลี่ยงการส่งต่อข้อมูลต่างๆ ที่ไม่อาจหาแหล่งอ้างอิงได้ เนื่องจากอาจเป็นการสร้างกระแสข่าวให้เกิดความสับสน ตื่นตระหนก รวมทั้งร่วมกันสอดส่องดูแลในการสร้างระบบการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชุมชน ตลอดจนมาตรการต่างๆ ในการเฝ้าระวังและป้องปรามผู้ไม่หวังดีที่ก่อสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้เข้าสู่ภาวะปกติ และหาตัวผู้กระทำความผิดมารับโทษตามกฎหมายได้โดยเร็ว รวมทั้งพิจารณามาตรการในการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน อันจะนำมาซึ่งความสงบสุขของประเทศต่อไป

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
18 สิงหาคม 2558

แถลงการณ์ 
มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ

เรื่อง ประณามผู้ก่อเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร

จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อเวลาประมาณ 19 .00 นาฬิกา วันที่ 17 สิงหาคม 2558 ซึ่งทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ ในฐานะองค์กรทำงานส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ขอประณามผู้กระทำการก่อเหตุวางระเบิด ไม่ว่าจะกระทำด้วยเหตุแห่งความขัดแย้ง เหตุแห่งการก่อการร้าย เหตุแห่งการเสียผลประโยชน์ทางการเมือง หรือเหตุอื่นใดก็ตาม

การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม มุ่งประสงค์ที่จะฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและร่างกายของเพื่อนร่วมชาติ และเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นการกระทำให้สถานการณ์ของบ้านเมืองกลับไปสู่ภาวะแห่งความหวาดกลัว อีกครั้งหนึ่ง

มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติมีความห่วงใจต่อสถานการณ์ดังกล่าวและขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บตลอดจนครอบครัวของบุคคลเหล่านั้น

โดยมูลนิธิฯของเรียกร้องให้รัฐบาล และผู้เกี่ยวข้องดำเนินการดังนี้

1 เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย 

2 เรียกร้องให้ประชาชนทุกภาคส่วนร่วมมือกันในการสอดส่องดูแลความสงบเรียบร้อยภายในประเทศเพื่อไม่ให้สถานการณ์ขยายความรุนแรงมากไปกว่านี้

3 เรียกร้องให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่คิดจะกระทำการสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ ได้ยุติการกระทำดังกล่าว โดยหันมาร่วมกันสร้างความสงบสันติให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง เคารพในชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลผู้บริสุทธิ์

4 ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ เยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ และช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้

มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติของเป็นกำลังใจให้รัฐบาลเร่งดำเนินการกู้สถานการณ์ให้กลับสู้ปกติโดยเร็ว เพื่อให้ประเทศชาติซึ่งกำลังเดินไปสู่ทิศทางที่ดี โดยดำเนินการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นระหว่างประชาชนทุกคนทุกกลุ่ม เพื่อให้ความสันติกลับคืนมาสู่ประเทศชาติต่อไป

ด้วยความห่วงใย

มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ
17 สิงหาคม 2558