นายก อบต.สำโรงปราสาท ลั่น พร้อมเดินหน้าขุดลอกคลอง ตามงบประมาณปี 59 ยัน ไม่สนปัญหาทับที่ทำกินที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน รวมทั้งไม่ฟังเสียงมติที่ประชุมเมื่อ 7 ต.ค.57 ที่ให้ชะลอการดำเนินการใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อความปกติสุขของประชาชน อ้างมติที่ประชุม มีผลเพียงปีเดียว
รายงานโดย ศรายุทธ ฤทธิพิณ
สำนักข่าวปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน
17 ส.ค.58 นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงปราสาท ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการพัฒนาตำบล โดยที่ประชุมประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน ทั้งนี้ นายก อบต.แจ้งต่อที่ประชุมว่า งบประมาณปี 59 มีมติอนุมัติให้ขุดคลองในที่ดินของราษฎร พร้อมจะดำเนินการขุดแน่นอน จะไม่ยอมถอยให้กลุ่มประชาชนผู้เดือดร้อนอีกต่อไป
นางฉวี มณฑล สมาชิก อบต.สำโรงปราสาท หมู่ที่ 13 ต.สำโรงปราสาท อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านผู้เดือดร้อนชุมชนหนองตาเปียง (กรณีพื้นที่พิพาทสาธารณประโยชน์โคกป่าแดง) ได้มารวมตัวกันที่ สภา อบต. สำโรงปราสาท เพื่อคัดค้านการตั้งงบประมาณขุดคลองสาธารณะในที่ดินกรณีปัญหาดังกล่าว พร้อมกันนี้ได้ยื่นเสนอแปรญัตติให้ตัดโครงการขุดลอกคลองออก โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลมีนโยบายชะลอการดำเนินคดี และชะลอการขุดลอกคลอง ตามมติการประชุม เมื่อ 7 ต.ค.57 ระหว่างขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(พีมูฟ) กับสำนักปลัดสำนายกรัฐมนตรี ที่ มล.ปนัดดา ดิสกุล เป็นประธาน
อีกทั้งโครงการดังกล่าวไม่มีในแผนพัฒนาหมู่บ้าน ดังนั้น นายกฯ อบต.จะนำมาทำเป็นข้อบัญญัติไม่ได้ ขณะเดียวกัน นายก ฯ อบต.ให้เหตุผลว่า มติเมื่อวันที่ 7 ต.ค.57 นั้น สามารถใช้ได้เพียงปีเดียว ซึ่งปีนี้อยู่ในส่วนการตั้งงบประมาณของปี 2559 ซึ่งจะมีผล 1 ต.ค.58 นี้
นางฉวี กล่าวต่ออีกว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค.58 นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงปราสาท นำร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 โดยเสนอโครงการขุดคลองรอบที่สาธารณประโยชน์โคกป่าแดง ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทที่ราษฎรอาศัยอยู่ นอกจากนี้ยังทำหนังสือถึงนายอำเภอ และที่ดินอำเภอเพื่อออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) ทับโฉนดที่ดิน และ ส.ค.1 ของชาวบ้านที่ยังไม่ออก นสล. ขณะนี้อยู่ระหว่างจังหวัด/อำเภอ ทำหนังสือประสานอธิบดีกรมที่ดินเพื่อเพิกถอนโฉนด และออก นสล.
ก่อนหน้านั้น เมื่อ 30 มิ.ย.58 นายก อบต.สำโรงปราสาท รวมทั้งนายอำเภอปรางค์กู่ ได้มีหนังสือถึงที่ดินอำเภอปรางค์กู่ เพื่อขอให้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงทับที่ดินโฉนดและที่ดิน สค.1 ซึ่งเป็นที่ดินของราษฎรผู้เดือดร้อน ที่ยังไม่เพิกถอน ปัจจุบันอยู่ระหว่างประสานอธิบดีกรมที่ดินเพื่อออก นสล.
“ปัญหาเริ่มก่อตัวขึ้น เกิดจากความพยายามที่จะออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง โดยช่วงนั้นได้มีหนังสือคำสั่งอำเภอที่ 357/2539 แต่งตั้งคณะกรรมการชี้แนวเขต โดยได้รวมเอาที่ดินทำกินของชาวบ้านและที่มีเอกสารสิทธิเข้าไปด้วย ทั้งที่ได้มีการวัดแนวเขตร่วมกัน และปักเสารั้วเป็นที่ชัดเจน ขณะที่ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่มาแต่สมัยบรรพบุรุษ จนบางพื้นที่ได้มีการออกเอกสารสิทธิให้แล้ว นอกจากนี้เมื่อปี 2551 ยังได้มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิชาวบ้าน ทั้งๆ ที่ชาวบ้านได้ถือครองประโยชน์ทำมาหากินมาแต่ก่อน” นางฉวี กล่าว
ต่อมาได้อาศัยช่วงหลังการทำรัฐประหาร โดยคำสั่ง คสช.ที่ 64 /57 เข้ามาทำการขับไล่ชาวบ้านให้ รื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง และอพยพออกจากพื้นที่ แม้กระบวนการแก้ไขปัญหาชาวบ้านจะร่วมกันผลักดันเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม กระทั่งมีมติ ให้ชะลอการไล่รื้อและยุติดำเนินการใดๆ ที่จะก่อให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ ตามมติที่ประชุมระหว่างพีมูฟกับสำนักปลัดนายกรัฐมนตรี
“มาถึงวันนี้ นายก อบต.กลับมีท่าทีแข็งกร้าว ไม่ยอมฟังเสียงใดๆ ในกระบวนการแก้ไขปัญหา รวมทั้งไม่ยอมฟังเสียงของผู้ที่จะได้รับความเดือดร้อน จึงอยากขอให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงมาดูพื้นที่ ร่วมกันแก้ไขปัญหาตามนโยบายที่มีมติร่วมกันก่อนต่อหน้านี้” สมาชิก อบต.สำโรงปราสาท กล่าว