รวมพลังนักสื่อสาร…ชายแดน

รวมพลังนักสื่อสาร…ชายแดน

เพราะเราเชื่อว่าการสื่อสารมีพลังในการเปลี่ยนแปลงได้ เราจึงได้รวมกลุ่มระดมพลังของคนที่พอมีทักษะในการทำคลิปบ้างเพื่อมาพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนและเติมเต็มการสื่อสารเพื่อจะได้นำเสนอเรื่องราวแต่ละพื้นที่ของตัวเองสู่สาธารณะได้บ้าง โดยเป็นกลุ่มคนที่อยู่พื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา ในแต่ละพื้นที่ หลากหลายอายุ อาชีพและช่วงวัย นัดพบกันที่บ้านโพธิ์กระสังข์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ

ปฐมบทการรวมตัว

          คงเพราะคิดมาตลอดว่า ทำอย่างไรแต่ละพื้นที่เรานั้นจะได้มีการนำเสนองานในพื้นที่ตัวเองที่หลากหลายและเกิดคุณค่าในตัวเอง ที่ไม่ได้แค่ทำให้จบ ๆ ไป งานแต่ละชิ้นควรมีคุณค่านำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ยิ่งดี หรือมีราคาค่าตอบแทนให้ด้วยก็ยิ่งดีไม่น้อย ทั้งหมดนั้นก็ได้คิดเพื่อทบทวนในการชักชวนกลุ่มผู้คนที่คิดว่าน่าจะพอมีทักษะในตัวหรือมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ที่อยู่ในเขตละแวกพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาบ้านเรา หรือกลุ่มคนที่ทำงานชุมชน ขับเคลื่อนสังคม มีเรื่องราวประเด็นในพื้นที่ตัวเองเป็นทุนเดิม ให้มาร่วมนำเสนอหรือเติมเต็มในมุมการสื่อสารที่พอเป็นเรื่องราวหรือสกุ๊ปข่าวได้ก็ยิ่งดี และจะหาทางช่วยในการผลักดันให้งานที่พอจะเติมเต็มได้ถูกนำเสนอในช่องรายการหลักของช่องสื่อสาธารณะ อย่าง ไทยพีบีเอส ได้อีกทางหนึ่งด้วย

          จึงได้ชักชวนในกลุ่มแรก ได้แก่ กลุ่มสำนึกรักบ้านเกิดศรีตระกูล (อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ) , กลุ่มสำนักรักบ้านเกิดศรีสะเกษ (อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ) และไร่อิงกัน (อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ) และขยับมาชักชวนกลุ่มที่เคยร่วมอบรมการผลิตสื่อด้วยมือถือ ได้การตอบรับมาคือ ลัดดาโคกหนองนา และได้เติมเต็มอีกคนคือ แจ็คสามัญชน ต่อมาได้ติดตามผลงานของ ต้นฮักสตูดิโอ และมีลุงวัฒน์สอนศิลป์ มาอีกทีม ทั้งหมดล้วนได้ชักชวนมาร่วมขบวนด้วยกันในด้านการเติมเต็มองค์ความรู้การส่งเสริมด้านสื่อให้เป็นในทิศทางเดียวกัน เหล่านี้เป็นทีมที่คุ้นเคยและรู้จักกันเป็นการส่วนตัวและติดตามชื่นชมผลงานกันและกันเป็นทุนเดิมแล้ว เท่านั้นยังไม่พอก็ยังมีการชักชวนมาเติมเต็มจากกลุ่มต่าง ๆ ที่ชวนกันมาเรียนรู้แลกเปลี่ยนกันด้วย

กำหนดนัดหมาย

          จากวิธีคิดและการชักชวนสอบถาม ได้คำตอบว่า การพบปะกันของกลุ่มใหม่และกลุ่มใหม่ล้วนเป็นคำตอบที่น่าสนใจไม่น้อย แม้ทว่าโครงการหรือที่มาของการใช้เงินไม่มีช่องทางที่ตอบโจทย์นัก แต่ด้วยใจที่อยากชวนมาพูดคุยแลกเปลี่ยนและเสนอแนะแลกเปลี่ยนกันมันช่างโอชะกว่าการคิดหาเงินมาทำเป็นไหน ๆ แต่เงินทุนค่าใช้จ่ายก็สำคัญไม่น้อยเช่นกัน แต่การได้มาเจอกันสำคัญกว่า จึงได้สอบถามอีกหนถึงวันที่นัดหมายและการเดินทางรวมถึงสิ่งที่จะมาพบเจอกันจะชวนกันเรียนรู้แลกเปลี่ยนกันเรื่องใดเป็นหลัก  เมื่อทุกอย่างลงตัวจึงได้กำหนดนัดหมายเป็นพื้นที่ที่มีสัญญาณเน็ตเสถียรและมีพื้นที่ให้นั่งคุยกันและแลกเปลี่ยนกันได้โดยไม่ต้องเช่าสถานที่ จึงได้ตกผลึกว่าเป็นที่ “บ้านสวนกอนกวย” โพธิ์กระสังข์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ โดยนัดเป็นวันอาทิตย์ ที่ 15 กันยายน 2567 คราพื้นที่และวันเวลานัดหมายสอบถามยังสมาชิกทุกท่านพร้อม จึงร่างกำหนดการออก พอเป็นสังเขป  ส่วนข้าวปลาอาหารได้แจ้งไว้เป็นคร่าว ๆ จะมีอาหารพื้นฐานเป็นแบบเรียบง่ายและหากสมาชิกคนไหนมีอะไรมาเติมเต็มกันก็นำมาได้ เป็นคำรบสองที่เอ่ยบอกให้เข้าใจตรงกัน นั่นเพราะกิจกรรมเราไม่ได้ทำเป็นโครงการหรือได้ทุนรอนจากแหล่งใดมาเป็นฐานกำหนดจัดนั่นเอง

มิตรภาพบนผองข้อความ

          ข้อดีของความเป็นคนชายแดน คือ อาณาเขตของเรา มีภูเขามีแม่น้ำ มีต้นไม้มีสรรพสิ่ง มีวิถีวัฒนธรรม มีรากเหง้า มีภาษาชาติพันธุ์ มีฮีตคองและปัญหาอีกมากมาย ที่เป็นฐานการพบเจอของเราอันเป็นข้อที่น่าท้าทายไม่น้อย

          เช้าวันอาทิตย์ที่นัดหมาย หน้าชานบ้านไม้ ถูกจัดโต๊ะแบบเรียบง่ายรอต้อนรับสำหรับคณะได้แบบไม่ถึงกับแออัดสัก 10 กว่าชีวิต มีทีวีและโน้ตบุ๊กรอการเติมเต็มในมุมนักสื่อสาร

ผมเตรียมข้าวไรซ์เบอร์รี่และกระเจี๊ยบไว้นะ เตรียมอุปกรณ์ให้ด้วย จะนำไปสมทบ

ปลายสายทักเป็นเสียงมาผ่าน messenger จากกลุ่มสำนึกรักบ้านเกิดศรีตระกูล ในเช้าตรู่ของวันปฏิบัติการให้รับรู้ว่าคณะที่มามีอะไรมาร่วมแบ่งปัน

ผมไปช้าหน่อยนะ จะเอาหนูและกบไปด้วย หนูคัวไว้แล้วส่วนกบยังไม่ได้ทำเลย จะเตรียมไปร่วมเป็นอาหารกินกัน และจะมีคณะไปร่วมอีกรวมกันไปจากที่นี่ 3 ชีวิตครับ

         ปลายสายจากบนเขาสูงสุดในระแวกนี้ นั่นคือ ต้นฮักสตูดิโอ จากทับทิมสยาม 07

“ผมกำลังเตรียมปอเปี๊ยะไปด้วยครับ”

          แจ็คสามัญชน แจ้งมาเพิ่มเติม

          เล็กน้อยจากคำสนทนาและปลายสายแจ้งถึงของติดมือมาร่วมขบวนการประสากันและกัน

แต่ละนามของนักสื่อสารชายแดน

          กระบะคันแรก เทียบหน้าบ้านก่อนกวักเรียกจอดหลังบ้านมาพร้อมข้าวสารและถุงกระเจี๊ยบสองห่อใหญ่ มาถึงก็เดินดุ่มเข้าครัวและดำเนินการจัดการแก๊สไฟหุงต้มและดำเนินการเป็นการรอคณะ

          คณะที่สอง มาพร้อมกัน 2 ชีวิตจากตำบลโนนสูง และตำบลห้วยจันทร์ ขึ้นมาทักทาย

          ต่อมา รถมาเทียบหน้าบ้าน เป็นกระบะ สูงวัยเครางาม ทักทายแล้วต้อนรับพอหอมปากหอมคอ

          ตามด้วย ไร่อิงกัน จอดเทียบหน้าบ้านแล้วมาพร้อมน้ำดื่มแพ็คใหญ่

          ตามมาติด ๆ ด้วยรถเก๋งคันงามจอดหน้าบ้าน มาพร้อมปอเปี๊ยะ ถุงใหญ่ และมีเสริมด้วยกระบะอีกคันจากตำบลกันทรอม

          เวลาที่ไม่ได้ฟิกว่าต้องชัดเจน มีล่วงบ้างเล็กน้อย จำต้องเริ่มพูดคุยและสนทนาด้วยการมอบหมายให้พี่ใหญ่สุดผู้มีเครางามและมากประสบการณ์ กล่าวเป็นวรพจน์เกริ่นเรียกพลังกัน

“พวกเรามีอุปกรณ์ในมือ สามารถถ่ายได้ ตัดต่อได้ แค่เราไปเห็นสิ่งดีงามในชุมชน ในหมู่บ้านเรา นำเสนอออกมาสู่สายตาข้างนอกได้ ก็ดีเป็นไหน ๆ วันนี้ดีใจได้มารู้จักคนรุ่นใหม่ มีมุมมองดี ๆ ใหม่ ๆ ยินดีแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ไปด้วยกันครับ”        

พัทธ์ฒวรรตน์ จันทร์นาม หรือ ลุงวัฒน์สอนศิลป์

          พัทธ์ฒวรรตน์ จันทร์นาม หรือ ลุงวัฒน์สอนศิลป์ กล่าวเป็นปฐมเปิดการแลกเปลี่ยนกันโดยไม่ต้องพิธีรีตองเป็นทางการนัก

หลังจากนั้นไม่นานนัก คณะสุดท้ายจากพื้นที่สูง ก็มาพร้อมกับลังโฟมกล่องใหญ่ ที่มีหนูพร้อมประกอบอาหารและกบตัวเบิ้มอีกร่วม 20 ตัวมาด้วย

จึงให้แต่ละคนแต่ละคณะได้รู้จักกันด้วยการแนะนำว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน ทำอะไรกันบ้าง ซึ่งพอสรุปบทบาทแต่ละคนได้สังเขปดังนี้

  • พี่ลัดดา จาก ลัดดาโคกหนองนา แห่งบ้านน้อยแสงตะวัน ต.โนนสูง อ.ขุนหาญ ผู้เคยฝึกปรือการตัดต่อด้วย Capcut มาระยะหนึ่ง และมีนำเสนอชิ้นงานบนสเตตัสตัวเองตลอด
  • พี่ยาว จากบ้านห้วยจันทร์ ต.ห้วยจันทร์ อ.ขุนหาญ ผู้มาเรียนรู้การสื่อสารร่วมกัน โดยมีพื้นที่นำเสนออยู่ละแวกน้ำตกห้วยจันทร์ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของคนขุนหาญและใกล้เคียง
  • พี่ไพรัตน์ จากบ้านจองกอ ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ หมู่บ้านสุดท้ายของตำบลกันทรอม มีพื้นที่ยาวติดไปถึงชายแดนไทยกัมพูชา เป็นผู้นำชุมชนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจการสื่อสารและการเรียนรู้ใหม่ ๆ เสมอ ๆ
  • พี่พล แห่งไร่อิงกัน จากบ้านตาตา ต.โพธิ์กระสังข์ อ.ขุนหาญ ผู้นำเยาวชนและคนรุ่นใหม่ที่ใช้ที่ตัวเองเป็นที่ทำเกษตรปลอดภัยและศูนย์เรียนรู้คนสามวัย
  • พี่แจ็ค ไร่สามัญชน จากหนองผือ ต.ห้วยจันทร์ เจ้าของผลงานคลิปมากมาย โดยเฉพาะการเดินทางนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวในเขตชายแดนไทยกัมพูชา
  • พี่สุพัฒน์ อาร์ตบ้าน ๆ จากกลุ่มสำนึกรักบ้านเกิดศรีตระกูล อ.ขุขันธ์ ผู้นำรุ่นใหม่ที่ทำงานหนุนการทำงานชุมชนและขับเคลื่อนการสำนึกรักบ้านเกิดและคุ้มครองผู้บริโภค ทำงานได้หลากหลายทั้งถ่ายภาพ วีดิโอ และทำเกษตรปลอดภัยด้วย
  • ลุงวัฒน์ สอนศิลป์ วิทยากรด้านศิลปะอารมณ์ดี สอนศิลปะให้กับโรงเรียนที่ไม่มีครูศิลปะให้เข้าใจง่ายและทำกิจกรรมเพื่อสังคมมากมาย
  • พี่นัท หรือพี่ต้น แห่งต้นฮักสตูดิโอ จากทับทิมสยาม 07 ต.บักดอง วิทยากรและศิลปินการเขียนวาดการ์ตูน ความสามารถหลากหลาย รับออกแบบ โคกหนองนา 3D ทำคลิป และสอนศิลปะ ทำเกษตรผสมผสานอยู่บนเขาสูง
  • อาจารย์จุง ซากุระ ศิลปินจากสำโรงเก่า ต.บักดอง ที่มีชื่อเสียงการวาดภาพประกอบบทเรียนภาษาไทย มานะมานี
  • พี่นุช จาก ต.บักดอง ผู้มากฝีมือด้านอาหารทำมือ และการหมักผลไม้หลากหลายชนิดให้ชวนใหลหลง

          เมื่อทุกอย่างได้รู้จักกันเป็นเบื้องต้น ให้รู้และติดตามกันได้อย่างไร ก็ได้เติมเต็มในด้านการสื่อสารกันเป็นลำดับต่อไป

แลกเปลี่ยน เติมเต็มในมุมสื่อสาร

          น้ำกระเจี๊ยบหวาน ๆ ปอเปี๊ยะ และผลไม้ รวมถึงอาหารกินเล่น ถูกเสริฟตามโต๊ะเป็นระยะ ก่อนเริ่มด้วยการสร้างความเข้าใจร่วมกันถึงการทำงานที่ไม่ได้ยึดว่าใครเก่งหรือโดดเด่นกว่าใคร เพราะการสื่อสารที่มีล้วนเป็นบทบาทที่สำคัญที่แต่คนนำเสนอเรื่องราวตัวเองได้เป็นทุนเดิมแล้ว จึงฉายภาพให้เห็นการทำงานที่จะขยับและชวนเคลื่อนไปด้วยกัน ในมุมมองของ “นักสื่อสารภาคพลเมือง” หรือ “นักข่าวพลเมือง” ที่นำเสนอออกผ่าน “ไทยพีบีเอส” และการได้ถูกนำเสนอนั้น ๆ ไปสะท้อนอะไร ไปบอกกล่าวให้ใครได้รับรู้และเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากน้อยแค่ไหน อยู่ที่การนำเสนอของผู้บอกเล่านั้น ๆ อีกทั้งบทบาทของสกุ๊ปแต่ละชิ้นนั้นล้วนเป็นประวัติศาสตร์ทั้งนั้น เพราะได้เก็บเรื่องราว ภาษา สำเนียง ปัญหา วิถีวัฒนธรรม และสีหน้าแววตาของผู้คนเอาไว้อย่างเป็นฐานข้อมูลชั้นดี

          ก่อนจะชวนคิดต่อว่า หากเราจะนำเสนอแต่ละชิ้นไปนั้น เป้าหมายหลักต้องการสื่อสารใจความอะไรออกไป ให้คนกลุ่มไหนได้รับรู้ และถ้าเรานำเสนอเอง เราจะเล่าหรือบอกกล่าว เขียนบทบาทนั้น ๆ อย่างไรบ้าง ผ่านการตั้งคำถามและออกแบบวิธีการเล่าเรื่องด้วยตัวเอง

          และชวนโหลด application C Site การปักหมุดเรื่องราวที่เราพบเจอและนำเสนอในพื้นที่ตัวเองแล้วนั้น นำมาปักหมุดบอกต่อบนสื่อของไทยพีบีเอส ซึ่งผู้เข้าร่วมทุกคนต่างให้ความร่วมมือและร่วมนำเสนอปักหมุดเรื่องราวที่ตัวเองมีอยู่แล้วนำเสนอบอกกล่าวได้แบบเรียบง่าย ก่อนการพักเบรกร่วมกัน

อาหารฝีมือกันเอง

          ครั้นการพูดคุยและแลกเปลี่ยนกันที่หน้าบ้านอย่างเป็นกันเอง และเสนอแนะในมุมที่สร้างสรรค์ ภารกิจต่อไป จึงเคลื่อนขยายตัวเองไปเข้าครัวเสมือนหนึ่งว่าคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพียงเอ่ยถามว่าอะไรอยู่ตรงไหนมุมไหน ทุกอย่างก็ถูกหยิบจับและเสียงเครื่องครัวตำโขลก สับ และเสียงปะทะของอาหารวัตถุดิบกับไฟและเสียงกระทะตะหลิวก็ดังขึ้น ตามมาด้วยกลิ่นที่ชวนกลืนน้ำลาย

          ผัดหนู ลาบหมู ต้มยำซี่โครงหมู เมนูเรียบง่ายจากนานาฝีมือ ทั้งเจ้าบ้านที่เตรียมวัตถุดิบให้และวัตถุดิบที่ผู้ร่วมวงนำมาสมทบ ถูกจัดวางเรียงบนบ้านไม้ก่อนที่จะมานั่งกินแบบกันเองล้อมวงพาข้าว และออกรสชาติเพราะเมนูเด็ดได้หนูที่เตรียมตรงมาจากทับทิมสยาม 07 คงมากกว่า 3-4 ตัวเป็นแน่ ชวนกันกินและเติมกันอย่างแซ่บนัวเลยเทียว

พระนักสื่อสาร

          เวลาแห่งความแซ่บนัวนั้น หลวงพ่อ พระนักสื่อสารแห่งวัดกุดนาแก้ว ได้ทักทายแวะมาร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย ทั้งที่ก็มีภารกิจรับนิมนต์ร่วมกิจกรรมบุญมหาสังฆทานในเขตอำเภอขุนหาญและใกล้เคียง ก็ยังแวะมาร่วมให้กำลังใจและร่วมเสนอแนะในการสื่อสาร โดยได้แนะนำว่า

          “การสื่อสารมันมีพลัง แต่พระเองก็ต้องระวังไม่น้อยเหมือนกัน เกรงจะกระทบในอีกด้าน แต่ที่ทำอยู่คือการใช้สื่อในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบของสงฆ์เอง ทั้งในรูปแบบของกิจกรรมสังคมเอง ก็ได้อาศัยการสื่อสารทั้งนั้น เพราะเกิดประโยชน์ในระยะยาว และการสื่อสารขึ้นเทศน์บนธรรมาสน์เช่นในอดีตก็ต้องถูกปรับเปลี่ยนไปเช่นกัน ให้เข้ากับยุคสมัยเรา”

          พระไพบูลย์ วีรจิตฺโต วัดกุดนาแก้ว นับว่าเป็นพระนักสื่อสารรุ่นใหม่แม้ท่านจะมีอาวุโสมากแล้วก็ตาม เปิดใจเรียนรู้การสื่อสารได้อย่างสนิทใจ และใช้การสื่อสารสู่สังคมสงฆ์ สังคมคนชายแดนได้เป็นอย่างดีด้วย

          และร่วมเรียนรู้วิธีการโพสต์คลิป และปักหมุดการนำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ ใน Application C Site ด้วย

สรุปประเด็น ก่อนจะมาเป็นคลิป สกุ๊ปข่าว

          เมื่อภัตตาหารเที่ยงสมบูรณ์ พักผ่อนกันตามอิริยาบท ก็เริ่มต่อด้วยเชิงวิชาการอีกเล็กน้อยว่าด้วยการสรุปเรื่องราว ประเด็นที่เกิดขึ้น และชวนลำดับภาพตัดต่อคลิปให้เห็นจากกิจกรรมที่เกิดขึ้นว่า ทั้งหมดล้วนเกิดจากการตั้งคำถามที่ถูกเรื่อง และตัดต่อด้วย Application Capcut แบบง่ายด้วย Cut ชน Cut ไม่ใส่ Effect ใดๆ ให้ชวนน่าฉงนนัก ทั้งหมดสรุปลงด้วยการเป็นคนที่ตั้งคำถามเหมือนเราไม่รู้อะไร ถามแหล่งข่าว สอบถามแหล่งข้อมูลให้เขาเล่าให้ฟังว่ามันคืออะไร อย่างไร ในแต่ละประเด็นที่นำเสนอไปนั้น ซึ่งทั้งหมดนั้นสามารถทำได้ด้วยมือถือเครื่องเดียว ทั้งถ่ายทำตัดต่อได้เลย

ปัจฉิมการพูดคุย

          การรวมกลุ่มกันด้วยคนที่รักและมีทักษะด้านการสื่อสารที่แตกต่างกัน แต่มีพื้นที่และภูมิเดิมคือสามารถสื่อสารได้เป็นทุนเดิม จึงมีการเสนอให้มีการพบปะแลกเปลี่ยนกันในไลน์กลุ่มรวมถึงได้กำหนดนัดหมายกันอีกครั้งอย่างน้อย 2 เดือน/การเจอกันครั้ง และจะมีการอัพเดตข้อมูล เรื่องราวสถานการณ์และเรื่องเล่าต่าง ๆ กันและกันบนไลน์กลุ่ม และความคืบหน้าจะได้นัดเจอกันที่ไหนอย่างไร ค่อยหาคำตอบร่วมกันบนแพลตฟอร์มไลน์ร่วมกัน

          หลากเรื่องราวภายใต้กรอบเวลาที่วันหนึ่งได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกัน เหมือนว่าผ่านไปเร็วมากจนไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่า ได้เวลาอำลากันและกัน

          งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา การพบปะพูดจาแบบวิถีคนชายแดนที่มาจากหลากหลายอาชีพที่มีความรักความชอบในสิ่งเดียวกันก็ย่อมถูกกล่าวการอำลาไม่ต่างกัน

          รถแต่ละคันถูกขยับและขับพ้นจากไป ด้วยมิตรภาพที่งดงามที่มีให้กัน

          และครั้งนี้ ก็นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดีอีกหนึ่งชิ้นที่ทำให้ได้เห็นมิตรภาพที่งดงามและพลังของคนตัวเล็กตัวน้อยในพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา ได้มาผลึกกำลังร่วมกัน และแลกเปลี่ยน นำเสนอเรื่องราวที่ตัวเองทำได้อยู่แล้ว มาเพิ่มเติมหมุดหมายปักหมุดและร้อยเรื่องของคนชายแดนนั้น ๆ สู่สายตาสาธารณะหลากหลายช่องทางได้อีกทางหนึ่ง

การสื่อสารที่ดีอยู่ที่การหยิบเรื่องราวมาร้อยเรื่องนำเสนอส่งต่อออกไปสู่สายตาสาธารณะอย่างสร้างสรรค์

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ