มหกรรมสินค้าเกษตรอินทรีย์และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของสมาชิกกลุ่มเกษตรอินทรีย์
กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๔
วันที่ ๒๗-๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๔ ณ ข่วงเกษตรอินทรีย์จังหวัดเชียงใหม่ ริมคลองชลประทาน จากตลาดต้นพยอมทางไปพืชสวนโลก
เป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่าการทำการเกษตรในระบบเกษตรเคมีเชิงเดี่ยว ทำให้ประเทศมีอาหารบริโภคเพียงพอ และมีส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ แต่เนื่องจากขั้นตอนการผลิตอาหารดังกล่าว (๑) เน้นการพึ่งพิงปัจจัยการผลิตภายนอกไร่นาและชุมชน โดยเฉพาะการใช้พันธุ์พืชลูกผสมที่ต้องการน้ำ ปุ๋ยเคมี สารเคมีป้องกันกำจัดโรคแมลงอย่างเข้มข้น รวมทั้งใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย (๒) เน้นการพึ่งแรงงานจำนวนมากและในช่วงเวลาเดียวกัน (๓) พึ่งองค์ความรู้จากภายนอกจนละเลยภูมิปัญญาท้องถิ่น (๔) ลงทุนสูง (๕) พึ่งตลาดต่างประเทศ ได้ทำให้เกิดปัญหาแก่เกษตรกรหลายประการ เช่น การเป็นหนี้เพราะรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตไม่พอที่จะชำระคืนเงินต้น หลายรายต้องขายที่ดินใช้หนี้ และสุขภาพทรุดโทรมจากการใช้สารเคมี การบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนสารเคมี และเครียดจากภาวะหนี้ที่พอกพูน ในขณะที่ผู้บริโภคก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างจากเกษตรกร โดยเฉพาะจากการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนสารเคมีป้องกันกำจัดโรคแมลง สารปฏิชีวนะ สารเร่งเนื้อแดง และสารกันบูด เป็นต้น
นอกจากนี้ระบบเกษตรเคมีเชิงเดี่ยว ยังทำให้วัฒนธรรมการผลิตและการบริโภคเปลี่ยนแปลง สิ่งแวดล้อมถูกทำลาย พันธุกรรมพืชสัตว์พื้นบ้านสูญหาย ความหลากหลายทางชีวะภาพลดลง เกิดความไม่มั่นคงทางด้านอาหาร เกิดการเอาเปรียบระหว่างเกษตรกรและผู้บริโภค และเกิดปัญหาของสังคมต่อเนื่องตามมาอีกมากมาย
ท่ามกลางของปัญหาดังกล่าว ช่วง ๒๐ ปีที่ผ่านมาได้มีเกษตรกรในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน) ได้ริเริ่มและพัฒนา “เกษตรอินทรีย์ในระบบเกษตรกรรมยั่งยืน และระบบตลาดเกษตรอินทรีย์ที่เป็นธรรม” ทั้งด้วยตัวของเกษตรกรเอง และการสนับสนุนจากภาครัฐและองค์กรพัฒนาเอกชน จนปัจจุบันนี้ได้เกิด“พื้นที่รูปธรรมที่เป็นตัวอย่างหรือเรียกว่า “ชุมชนเกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่งหมายถึง ชุมชนของกลุ่มเกษตรกรเกษตรกรกรรมยั่งยืน และกลุ่มผู้บริโภคสีเขียวที่ร่วมมือกันในการจัดการระบบอาหารของชุมชน สร้างระบบตลาดที่เป็นธรรม สร้างสภาวะแวดล้อมที่กระตุ้นการสร้างสรรค์ เท่าทัน พึ่งตนเอง และเพิ่มพูนความสามารถของคนในชุมชนให้เอื้อต่อการพัฒนาจนเกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุลยั่งยืน สร้างสภาพสังคมให้เป็นธรรม มีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดี” เกิดขึ้นในทุกจังหวัดของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ ซึ่งผลจากการทำดังกล่าว ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่มีอาหารอินทรีย์บริโภคเพียงพอ มีรายรับต่อเนื่อง ปลดหนี้ได้ มีเงินส่งลูกเรียนจบมหาวิทยาลัย หลายครอบครัวซื้อที่ดินทำการเกษตรเพิ่ม มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันผู้ทำเกษตรอินทรีย์และตลาดเกษตรอินทรีย์ที่เป็นธรรม ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อยและมีจำนวนน้อยมาก รวมทั้ง ๔ จังหวัดประมาณ ๕,๐๐๐ ครอบครัว จากครอบครัวเกษตรกรรวมทั้ง ๔ จังหวัดประมาณ ๖๑๖,๔๔๖ ครอบครัว หรือประมาณ ๐.๘๑ % เท่านั้น
เพื่อให้เกษตรกรและผู้บริโภคได้เข้าใจเกษตรอินทรีย์ในระบบเกษตรกรรมยั่งยืนและระบบตลาดที่เป็นธรรมและปรับเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์และบริโภคสินค้าอินทรีย์มากขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เข้าใจแนวคิดเกษตรอินทรีย์ ตลาดที่เป็นธรรมและการพัฒนาเป็นผู้ประกอบการทางสังคม และเพื่อให้สื่อมวลชนได้มีข้อมูลด้านนี้เผยแพร่สู่สาธารณชน ทางกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ ประกอบด้วยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง จึงได้ร่วมจัดมหกรรมสินค้าเกษตรอินทรีย์และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของสมาชิกกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ ครั้งที่ ๒ ประจำปี ๒๕๕๔
กิจกรรมในงาน
วันอังคารที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๔
๐๗.๓๐-๐๘.๓๐ น. ลงทะเบียนพร้อมรับประทานอาหารเช้า
๐๘.๓๐-๐๙.๐๐ น. ชี้แจงกำหนดการเยี่ยมชมไร่นา โดย คุณเกษศิรินทร์ พิบูลย์
๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. แบ่งกลุ่มคณะสื่อมวลชนศึกษาดูงานในพื้นที่ของเครือข่ายเกษตรอินทรีย์จังหวัดเชียงใหม่
๑.สหกรณ์เกษตรกรรมยั่งยืนแม่ทา จำกัด อำเภอแม่ออน ประสานการงานโดยคุณจรัญญา สังขชาติ
๒.เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ลุ่มน้ำแม่ฮาวตำบลสบเปิง อำเภอแม่แตง ประสานการงานโดยคุณเกษศิรินทร์ พิบูลย์
๓.เครือข่ายเกษตรอินทรีย์อำเภอสารภี ประสานการงานโดยคุณเกียรติศักดิ์ ฉัตรดี
* รับประทานอาหารกลางวันในพื้นที่เยี่ยมชมแต่ละจุด
๓.๒ ข่วงแลกเปลี่ยนเรียนรู้
วันพุธที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๔
๑๒.๐๐-๑๓.๐๐ น. รับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน
๑๓.๐๐-๑๖.๐๐ น. เสวนาเรื่อง “ยกระดับเครือข่ายระบบตลาดที่เป็นธรรมสู่ผู้ประกอบการทางสังคม”
แลกเปลี่ยนโดย
๑) คุณวัลลภา แวนวิลเลียนส์วาร์ด กรรมการมูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีปและประธานเครือข่ายตลาดสีเขียวกทม.
๒) คุณเบญจมาพร จันทรพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม (สสส.)***
๓) คุณสุพรรณ กำเพ็ญ ผู้ประสานงานเครือข่ายแม่กาดเกษตรอินทรีย์
๕) คุณโชคสกุล มหาค้ารุ่ง เครือข่ายเกษตรกรพันธสัญญา
๔) ดร. ชมชวน บุญระหงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันชุมชนเกษตรกรรมยั่งยืน
ผู้ดำเนินรายการ อาจารย์ ดร. สมคิด แก้วทิพย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยบริหารศาสาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
๑๖.๐๐-๑๖.๓๐ น. นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการการจังหวัดลำพูน เยี่ยมชมข่วงเกษตรอินทรีย์
๑๖.๓๐-๑๗.๓๐ น. เสวนาทิศทางพัฒนาเกษตรอินทรีย์และตลาดกษตรอินทรีย์กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน๑
โดย นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการการจังหวัดลำพูน ***และตัวแทนเกษตรกรจากจังหวัดลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน และเชียงใหม่
ดำเนินรายการโดยคุณจีระวรรณ โสดาวัฒน์ ผู้จัดการสมาคมมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ภาคเหนือ
๑๗.๓๐-๑๙.๐๐ น. ร่วมรับประทานอาหารอินทรีย์ ท่ามกลางบรรยากาศล้านนา
วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๔
๑๐.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. เสวนาเรื่อง “พันธุกรรมพืชพื้นบ้านกับความมั่นคงทางอาหาร”
แลกเปลี่ยนโดย
๑) คุณวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (BioThai)
๒) ตัวแทนเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน
ผู้ดำเนินรายการ คุณรุ่งสุรีย์ ชัยศร กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จ. ลำปาง
๑๒.๐๐–๑๓.๐๐ น. รับประทานอาหารกลางวัน
๑๓.๓๐–๑๔.๓๐ น. ทอดผ้าป่าเมล็ดพันธุ์พืชพื้นบ้าน และพิธีส่งมอบเมล็ดพันธ์พืชพื้นบ้านให้พี่น้องเกษตรกรภาคกลางที่ถูกน้ำท่วม
ส่งมอบโดย ตัวแทนเกษตรกรเกษตรอินทรีย์ทั้ง ๔ จังหวัดรับมอบโดย คุณวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (BioThai)
ดำเนินกิจกรรมโดย คุณสมัย แก้วภูศรี ผู้อานวยการศูนย์เรียนรู้เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านเกษตรอินทรีย์ลุ่มน้ำลี้ จ.ลำพูน
ผู้รับผิดชอบการจัดงาน และที่ติดต่อ
๑) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑
โดยนายบุญเวทย์ ศรีพวงใจ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน
โทรศัพท์/โทรสาร๐๕๓๕๑๑๑๙๒
๒) ดร. ชมชวน บุญระหงษ์
เลขานุการมูลนิธิพัฒนาศักยภาพชุมชน
๓๖๓ หมู่ ๔ ต. หนองจ๊อม อ. สันทราย จ. เชียงใหม่ ๕๐๒๑๐
โทรศัพท์/โทรสาร ๐๕๓ ๓๕๔๐๕๓-๔ มือถือ ๐๘๑ ๘๘๕๖๒๗๒ boonrahong@hotmail.com