http://www.youtube.com/watch?v=Gcw5Nkvlctk (Embedding disabled, limit reached)
เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในจังหวัดพะเยาได้ให้ข้อมูลแก่เรา พบว่า ในปัจจุบันนี้ ได้มีการบุกรุกผืนป่าของนายทุนที่ต้องการหาผลประโยชน์ และบุคคลนอกพื้นที่ เรามาดูกันครับว่า ชาวบ้านในเขตป่าสงวนแห่งชาติในจังหวัดพะเยา เขามีการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้กันอย่างไร
“คนนอกพื้นที่ตามหลัก เขาจะไม่ให้เข้ามา ถ้ามาประกอบอาชีพแถบนี้ จะมาเอาผลประโยชน์บ้านนี้ ไปขายบ้านอื่น ไม่ได้ เว้นแต่ เฉพาะคนบ้านนี้ตัดไปขายหรือว่าทำอะไร เราก็ไม่ห้ามกันเพราะว่าคนแถวนี้หากินกับป่าลุงเป็นคนผู้น้อย ก็จะไปบอกผู้ใหญ่บ้าน แล้วแต่ผู้ใหญ่บ้านจะใช้อำนาจของแกจะไปทำอะไร ถ้าบอกว่าขาย มันเป็นสิทธิของคนที่ขาย แต่ถ้าเขาไปจอง มาหากินเอาอะไรขาย ชาวบ้านเห็น เขาก็จะปรับ กักรถ สมมุติเป็นรถอีแต๊น เขาก็จะไม่ให้ออก ต้องเสียเงินให้เขาก่อน” จากการสัมภาษณ์ลุงชนะ ทำให้รู้ว่า คนต่างถิ่นหรือคนนอกพื้นที่สามารถเข้ามาซื้อที่ดินได้ แต่ชาวบ้านไม่อนุญาตให้เข้าไปบุกรุกผืนป่า หรือเข้าไปหาผลประโยชน์ได้ ถ้าหากเจอจะดำเนินการฟ้องร้องต่อผู้ใหญ่บ้านในทันที
เรามาดูวิธีการแก้ไขปัญหาของรัฐว่า ถ้าหากเกิดการบุกรุกป่าไม้จะมีวิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างไร “กรณีมีชาวบ้าน การข่าวสายข่าว หรือว่าสื่อต่างๆที่มาแจ้ง เกี่ยวกับการบุกรุก ถางป่าก็ดี ตัดไม้ทำลายป่าก็ดี ถ้าแจ้งเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็จะรวมกำลังไปที่เกิดเหตุ การแจ้งนี่ก็ต้องแจ้งมีจุดประสงค์ มีเป้าหมาย ไปตรงตามเวลา ไปตรงจุด คนที่แจ้งก็ต้องบอกจุดตำแหน่งด้วยว่า ตรงนี้ที่ไหนอยู่ในป่าอะไรติดกับอะไรเพราะว่าจะเป็นการสะดวกต่อเจ้าหน้าที่ จะได้ไปได้ถูกต้อง ถ้าไปก็จะไปตามที่ได้ดำเนินคดีแจ้ง ต้องออกตรวจสอบตามพื้นที่ เป้าหมายที่ถูกแจ้งไว้ ยกตัวอย่างเช่นการถางป่าก็ต้องมีการเตรียมอุปการณ์ GPS วัดพื้นที่ป่าว่ามีจำนวนกี่ไร่ที่เขาถาง ในเขตป่าอะไร เช่นอยู่เขตป่าสงวน อยู่เขตอุทยาน การจับกุมก็จะมีการนำกำลังไป ไม่ว่าจะประสานกาน ตชด.หรือผู้ใหญ่บ้านหรือว่ากำนัน เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนร่วม ไปทำงานด้วยกัน”
ถึงจะมีการบุกรุกผืนป่ามากขึ้นทุกปี แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐ กรมป่าไม้และประชาชนก็ยังคงทำหน้าที่ปกป้องป่าต่อไป ไม่ให้ผู้ที่ต้องการหาผลประโยชน์มาทำลายป่าไม้ แหล่งชีวิต และที่ทำมาหากินของชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่กับป่าไม้อย่างพึ่งพาอาศัยกัน