‘พีมูฟ’ ยุติชุมนุมวันนี้หลังรัฐบาลตั้งอนุกก.แก้ปัญหา 7ด้าน

‘พีมูฟ’ ยุติชุมนุมวันนี้หลังรัฐบาลตั้งอนุกก.แก้ปัญหา 7ด้าน

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ‘พีมูฟ’ ประกาศยุติการชุมนุมวันนี้ (17 ตุลาคม) หลังมีการเจรจากับรัฐบาลและมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง

ถนนราชดำเนินนอก / ‘พีมูฟ ยุติการชุมนุมเรียกร้องวันนี้  หลังจากรัฐบาลรับข้อเสนอการแก้ไขปัญหาเชิงนโยบาย 10 ข้อ  และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหา 7 คณะ  เช่น  การแก้ปัญหาที่ดินทั้งระบบ  ผลกระทบจากการพัฒนาภาครัฐ  สวัสดิการโดยรัฐ  สิทธิที่อยู่อาศัย  ฯลฯ  โดยจะประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาครั้งแรกภายในเดือนตุลาคมนี้  ย้ำหากรัฐบาลไม่ทำตามข้อตกลงจะกลับมาชุมนุมใหม่  ด้าน วราวุธ ศิลปอาชา’ รมว.พม. เป็นประธานอนุกรรมการแก้ปัญหาสิทธิที่อยู่อาศัย

ตั้งคณะอนุกรรมการแก้ปัญหา 7 ด้าน

ตามที่เครือข่ายภาคประชาชนในนาม ‘ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม’ (ขปส.) หรือ ‘P-Move’ (People Movement)  ได้ชุมนุมตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา  บริเวณประตู 5 (หลังทำเนียบรัฐบาล ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ)  เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลรวมทั้งหมด 10 ข้อ  เช่น  การแก้ไขรัฐธรรมนูญ  การคุ้มครองวิถีชีวิตสิทธิกลุ่มชาติพันธุ์   การแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน  การคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม  นโยบายรัฐสวัสดิการ  ปัญหาที่อยู่อาศัย  ฯลฯ  โดยตัวแทนกลุ่มพีมูฟได้ประชุมร่วมกับตัวแทนฝ่ายรัฐบาลที่มีนายภูมิธรรม  เวชยชัย  รองนายกรัฐมนตรี  และมีการเจรจาเพื่อจัดตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหารวม 7 ด้าน  จนได้ข้อยุติเบื้องต้นแล้วนั้น

วันนี้ (17 ตุลาคม)  เวลาประมาณ 12.40 น. บริเวณที่ชุมนุมประตู 5  ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ได้แถลงข่าวยุติการชุมนุม  หลังจากปักหลักชุมนุมมาตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา  รวมเวลา 15 วัน  โดยรัฐบาลได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาของกลุ่มพีมูฟ  รวม 7 คณะ  มีนายภูมิธรรม  รองนายกฯ เป็นประธานคณะกรรมการ  ประกอบด้วย

1.คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ  2.คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม       3.คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐ   4.คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนสวัสดิการโดยรัฐ

5.คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาสิทธิสถานะและบุคคล   6.คณะอนุกรรมการสิทธิที่อยู่อาศัยและการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน   และ  7.คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย

2

เริ่มประชุมแก้ปัญหา 7 ด้านภายในเดือนตุลาคมนี้

นายประยงค์ ดอกลำใย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมหรือ ‘พีมูฟ’  กล่าวว่า พีมูฟได้เจรจากับรัฐบาลอย่างไม่เป็นทางการ 2 ครั้ง  โดยประชุมร่วมกับคณะกรรมการ ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย  รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม และได้นำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี 2 ครั้ง คือ วันที่ 10 และ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา

หลังจากมีมติ ครม.วันที่ 16 ตุลาคม  ได้มีการประสานงานฝ่ายเลขานุการ คือส่วนราชการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องมาทำความเข้าใจ และกำหนดแผนการทำงานร่วมกัน ในวันนี้ (17 ตุลาคม) โดยเชิญผู้แทนหน่วยงานในระดับกรมที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทั้ง 10 เรื่อง เพื่อทำข้อตกลงร่วมกันที่ตึก ก.พ.ร. โดยจะใช้อนุกรรมการแก้ไขปัญหาในการทำงานภายใต้หลักประกันทั้งหมด 4 เรื่อง ดังนี้

3
นายภูมิธรรม  รองนายกฯ (สวมสูท/กลาง) ประชุมร่วมกับผู้แทนพีมูฟครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ทำเนียบรัฐบาล
  1. การเจรจาหลักการและแนวทางการแก้ไขปัญหา 6 ข้อ 2. เมื่อได้หลักการร่วมกัน ได้เสนอปัญหาให้รัฐบาลในรูปแบบข้อเสนอเชิงนโยบาย 10 เรื่อง และปัญหารายกรณี 266 กรณี 3. ต้องมีการเจรจารายปัญหา ขณะนี้ได้เจรจาข้อเรียกร้องทั้ง 10 เรื่อง และต้องกระจายปัญหารายกรณีไปสู่กลไกเร่งรัดการแก้ไขปัญหา  และ 4. พีมูฟต้องการได้รับการยืนยันจากสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ตลอดระยะเวลาการชุมนุม 15 วัน ได้มีกระบวนการต่าง ๆ เกิดขึ้น และจะดำเนินการอย่างไรหลังจากนี้ รวมถึงบันทึกเอกสารทั้งหมดแจ้งมายังประธานกรรมการบริหารพีมูฟอย่างเป็นทางการ

“การประชุมอนุกรรมการทั้ง 7 คณะ จะเริ่มประชุมครั้งแรกภายในเดือนตุลาคมนี้   เพื่อพิจารณาการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของอนุกรรมการ  บางเรื่องที่สามารถสั่งการได้ในทันทีต้องมีข้อยุติภายใน 30 วัน เรื่องระยะกลางให้เวลาดำเนินการ 90 วัน และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย นโยบาย และมติ ครม. ต้องแก้ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี”  นายประยงค์กล่าว

ส่วนกรณีเร่งด่วน 3 กรณี  คือหลีเป๊ะ จ.สตูล, บางกลอย จ.เพชรบุรี และโฉนดชุมชนคลองโยง จ.นครปฐม ได้เจรจาให้สำนักงานสำนักนายกรัฐมนตรีจัดทำหนังสือแจ้งหน่วยงานรับทราบโดยด่วน และต้องยุติภายใน 30 วัน

นอกจากนี้นายประยงค์ได้กล่าวว่า  สภาผู้แทนราษฎรมีแนวโน้มสนับสนุนนโยบายของพีมูฟ หากมีการยกร่างกฎหมายต่าง ๆ ขึ้นมา พีมูฟจะไปรณรงค์กับพรรคการเมืองเพื่อให้สนับสนุน  นอกจากนั้นพีมูฟยังคงขับเคลื่อนกับฝ่ายตุลาการ เพื่อเรียกร้องให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ศาลต้องเปลี่ยนระบบการพิจารณาจากระบบกล่าวหาเป็นระบบไต่สวน เพื่อให้คนจนสามารถหยิบยกข้อเท็จจริงมาต่อสู้คดีได้อย่างเป็นธรรม

“ครั้งนี้พีมูฟไม่ได้เรียกร้องแก้ปัญหารายกรณีเป็นหลัก แต่เราสรุปบทเรียนการต่อสู้ 13 ปี เห็นว่าต้องแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้างเพื่อไม่ให้ปัญหาวนเวียน จึงขมวดเรื่องทั้งหมดแยกเป็นกลุ่มปัญหา และเสนอนโยบาย 10 ด้าน และเรายืนยันว่าหากประสบความสำเร็จ ผู้ได้ประโยชน์จะไม่ใช่แค่พีมูฟ เราไม่ได้เรียกร้องปัญหาส่วนตัว แต่เรียกร้องสังคมที่เป็นธรรม ส่วนรายกรณีต้องแก้ไปด้วยอยู่แล้ว ซึ่งเราคงต้องทำงานร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายนโยบาย ฝ่ายการเมือง เช่น การจัดทำกฎหมายนิรโทษกรรมคดีทวงคืนผืนป่า จะมีผู้ได้รับประโยชน์อย่างน้อย 48,000 คดี ซึ่งเราต้องอาศัยฝ่ายค้านด้วย” นายประยงค์ย้ำ

นายจำนงค์ หนูพันธ์ ประธานกรรมการบริหารขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม กล่าวว่า พีมูฟยังคงยืนยันว่าหากการดำเนินการไม่เป็นไปตามที่เจรจากันไว้ พีมูฟพร้อมเคลื่อนไหวใหญ่แน่นอน ซึ่งครั้งหน้าอาจขอชุมนุมในระยะเวลาที่ยาวกว่าเดิม เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปในระดับนโยบาย ไม่ใช่เพียงแค่รายกรณี

4
ร้อยเอกธรรมนัส  พรหมเผ่า  รมว.เกษตรและสหกรณ์  รองประธานแก้ไขปัญหาพีมูฟพบปะผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม

แถลงยุติการชุมนุม

นัฐาพันธ์ แสงทับ รองประธานกรรมการบริหารขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ได้อ่านแถลงการณ์ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เรื่อง “ประกาศยุติการชุมนุมพีมูฟทวงสิทธิ เดินติดตาม กำกับ ตรวจสอบ การทำงานของรัฐบาล”  เนื่องจากได้บรรลุข้อเรียกร้องทั้งหมดตามเจตนารมณ์ โดยผ่านการประชุม ครม. 2 ครั้ง มีแนวทางในการผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบาย 10 ด้านอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงแก้ไขปัญหากรณีเร่งด่วนและกรณีอื่นๆ อีกรวม 266 กรณี  และมีกลไกให้ติดตามเร่งรัดดำเนินการต่อเนื่อง  ซึ่งพีมูฟขอขอบคุณรัฐบาลที่เร่งดำเนินการตามข้อเรียกร้องด้วยความราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

“เรายืนยันจะยังใช้การเมืองบนท้องถนนของเราติดตาม ตรวจสอบ การทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และจะยังใช้ทุกกลไก ทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ ผลักดันข้อเรียกร้องของเราอย่างถึงที่สุด หากภายหลังรัฐบาลแสดงท่าทีไม่จริงใจต่อการแก้ไขปัญหา หรือจะสร้างผลกระทบด้วยการผลักดันนโยบายที่เอื้อพวกพ้องตนและกลุ่มทุน ทิ้งประชาชนไว้ข้างหลัง เราก็พร้อมจะกลับมาชุมนุมเคลื่อนไหวทุกเมื่อ ตามสิทธิ เสรีภาพ ในการชุมนุมที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ และหลักการสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ”  ผู้แทนพีมูฟกล่าวก่อนจะยุติการชุมนุม

5
ผู้แทนพีมูฟแถลงยุติการชุมนุม

ย้อนดูข้อเรียกร้อง 10 ด้าน

กลุ่มพีมูฟมีข้อเรียกร้องเชิงนโยบายรวมทั้งหมด 10 ข้อ  ดังนี้  1. ด้านสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย ขอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ที่มีบทบัญญัติกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนในด้านต่าง ๆ ขอให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมทุกกระบวนการทุกขั้นตอน

  1. ด้านการกระจายอำนาจ ขอให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรง เพื่อปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่นโดยการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นและสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  2. ด้านนโยบายการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ขอให้เร่งออกกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ
  3. ด้านนโยบายที่ดินและการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม ขอให้มีการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน โดยผลักดัน พ.ร.บ.ภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า
  4. ด้านนโยบายการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ขอให้ยกเลิกนโยบายทวงคืนผืนป่าและแผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เพราะการดำเนินนโยบายดังกล่าวทำให้มีการละเมิด คุกคามชีวิตทรัพย์สินและส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่อาศัยและทำกินในที่ดินป่าทั่วประเทศ
  5. ด้านการป้องกันภัยพิบัติ ขอให้มีคณะกรรมการส่งเสริมระบบการจัดการภัยพิบัติโดยชุมชน เพื่อลดความเสี่ยงของประชาชนในการเตรียมความพร้อมก่อนเกิดเหตุ การช่วยเหลือระหว่างเกิดเหตุ และการฟื้นฟูเยียวยาหลังเกิดเหตุ
  6. การคุ้มครองชาติพันธุ์และสิทธิความเป็นมนุษย์ เพื่อให้เกิดความมั่นคงต่อชุมชนและชาติพันธุ์ในทุก ๆ ด้าน ขอให้เร่งลงนามรับรองร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิและส่งเสริมวิถีชุมชนกลุ่มชาติพันธ์และชนเผ่าพื้นเมือง พ.ศ. ….
  7. ด้านสิทธิของคนไร้สถานะ แต่งตั้งกรรมการแก้ไขปัญหาสิทธิสถานะเป็นกรรมการกลางที่มีผู้ทรงคุณวุฒิมีภาคประชาชนที่มีประสบการณ์เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน
  8. ด้านนโยบายรัฐสวัสดิการ โดยเสนอนโยบายและสวัสดิการถ้วนหน้าจากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการ

10.ด้านที่อยู่อาศัย  โดยให้รัฐจัดสรรที่ดินให้ประชาชนอยู่อาศัย  จัดสรรงบประมาณแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย  หยุดใช้มาตรการไล่รื้อชุมชน

6

รมว.พม. เป็นประธานแก้ปัญหาด้านสิทธิที่อยู่อาศัย

อย่างไรก็ตาม  ข้อเรียกร้องทั้ง 10 ด้าน  รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหารวมทั้งหมด 7 ด้าน  ประกอบด้วย  1.คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ  2.คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม       3.คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐ   4.คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนสวัสดิการโดยรัฐ

5.คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาสิทธิสถานะและบุคคล   6.คณะอนุกรรมการสิทธิที่อยู่อาศัยและการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน   และ  7.คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)  นายวราวุธ  ศิลปอาชา รมว.พม.ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการสิทธิที่อยู่อาศัยและการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน    โดยมี     นายกฤษดา  สมประสงค์  ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’ เป็นเลขานุการคณะอนุกรรมการชุดนี้

7
นายวราวุธ  รมว.พม. (ที่ 6 จากซ้าย) มอบบ้านที่ซ่อมใหม่ให้แก่ผู้ประสบวาตภัยที่ จ.สุพรรณบุรีเมื่อเร็วๆ นี้

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ