โรงพยาบาลแม่สอด อบรมพัฒนาศักยภาพพยาบาลผู้จัดการรายกรณีโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ที่ห้องประชุมเพชรชมพู ชั้น 5 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา โรงพยาบาลแม่สอด คณะกรรมการพัฒนาระบบบริการผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(DM/HT)จังหวัดตาก การพัฒนาศักยภาพพยาบาลผู้จัดการรายกรณีโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (เบาหวาน DM และโรคความดันโลหิตสูง HT) ระยะสั้น เพื่อพัฒนาศักยภาพของพยาบาลเป็น Case manager สำหรับการจัดการรายกรณีโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง และสร้างเครือข่ายในการให้คำปรึกษาและศูนย์กลางการจัดระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง โดยมีนายแพทย์จรัล วิวัฒน์คุณูปการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด เป็นประธานเปิดการอบรม ซึ่งมีเจ้าหนน้าที่จากโรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในจังหวัดตากเข้าร่วม 100 คน
นายแพทย์พิสิฐ ลิมปธนโชติ นายแพทย์เชี่ยวชาญ ( ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม )โรงพยาบาลแม่สอด กล่าวว่า คนไทยป่วยด้วยโรคเบาหวาน 3.2 ล้านคน แต่เข้าถึงระบบบริการเพียงร้อยละ 41 ป่วยเป็นความดันโลหิตสูง 10 ล้านคน เข้าถึงบริการร้อยละ 29 จากข้อมูลการประเมินผลการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่2 และความดันโลหิตสูงของเครือข่ายวิจัยกลุ่มสถาบันการแพทย์ศาสตร์แห่งประเทศไทย พบว่าผู้ป่วยเบาหวาน สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีร้อยละ 35.6 จังหวัดตากควบคุมได้ร้อยละ 47.08 ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง สามารถควบคุมระดับความดันได้ดีร้อยละ 65.3
จ.ตาก ผลการควบคุมร้อยละ 59.68 จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องมีการจัดการโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงเป็นพิเศษ การจัดการรายกรณี เป็นรูปแบบบริการที่เน้นการประสานบริการต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อการดูแลผู้ป่วยที่อาจเกิดปัญหาซับซ้อน ระบบบริการมุ่งเน้นการจัดการผู้ป่วย โดยมีวัตถุประสงค์การป้องกัน ควบคุมโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงไว้ 4ด้านคือ 1.ลดการเกิดโรค ( ป้องกันและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม) 2.ลดภาวะแทรกซ้อนและความพิการ 3. ลดอัตราการตาย การรักษาภาวะแทรกซ้อน4. ชะลอการเพิ่มของค่าใช้จ่าย (การดูแลตามเวชปฏิบัติ)
นายแพทย์จรัล วิวัฒน์คุณูปการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด กล่าวว่า คณะกรรมการพัฒนาระบบบริการโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จังหวัดตาก ที่ดูแลเรื่องเบาหวานและความดันโลหิตสูงของโรงพยาบาลทุกแห่ง ได้จัดให้มีการประชุมการพัฒนาศักยภาพพยาบาลผู้จัดการรายกรณี โรคไม่ติดต่อเรื้อรังระยะสั้นขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพของพยาบาลเป็น Case manager สำหรับการจัดการรายกรณีโรคผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง มีความรู้ ทักษะในการจัดการรายกรณีสำหรับผู้ป่วยตั้งแต่ระยะเสี่ยงต่อการเกิดโรคจนถึงระยะลุกลามเกิดภาวะแทรกซ้อนของระบบต่างๆ มีการสร้างเครือข่ายในการให้คำปรึกษาและศูนย์กลางการจัดระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง นำไปสู่การพัฒนาระบบการทำงานและเพื่อดูแลสุขภาพผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ
////////////////////////////////////////////////////////
author
