แสตมฟอร์ด จับมือ อิมแพ็ค ปั้นหลักสูตร Event Management
พัฒนาบุคลากรคุณภาพระดับสากล รองรับตลาดไมซ์ (MICE) ที่กำลังเติบโต
มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด สถาบันการศึกษานานาชาติในเครือมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างลอรีเอท จับมือ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ศูนย์ฯ ชั้นนำ 1 ใน 5 ของภูมิภาคเอเชีย ร่วมพัฒนาหลักสูตร “Event Management” ซึ่งเป็นหลักสูตรการศึกษาแรกที่ถูกออกแบบขึ้น เพื่อร่วมพัฒนาศักยภาพและตอบโจทย์ความต้องการบุคคลากรไมซ์ที่มีคุณภาพระดับสากล รองรับธุรกิจไมซ์ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง และสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศไทยมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี อีกทั้งร่วมยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของบุคลากรไมซ์ ทางด้านการทำงานและภาษาเพื่อให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้
ด้านนาย จิลลส์ คลอเด เบอร์นาด มาเฮ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Laureate International Universities ประเทศไทย เผยว่า “เรามีทิศทางการพัฒนาบัณฑิตที่ชัดเจน จากการศึกษาของนักวิชาการของมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด เรื่อง แนวโน้มการจ้างงานในยุคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนผ่านการสำรวจความคิดเห็นของภาคธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศพบว่า 3 ปัจจัยแรกที่มีผลต่อการจ้างงานมากที่สุด คือ ทักษะการทำงานหรือประสบการณ์ตรงของบัณฑิตจบใหม่ที่เคยฝึกงานที่ตรงกับสายงานที่จะสมัครมาก่อน และข้อที่สำคัญถัดมา คือความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ที่มีผลต่อการพิจารณารับบัณฑิตจบใหม่เข้าทำงานในองค์กรชั้นนำในปัจจุบัน และลำดับสุดท้ายที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือ นักศึกษาจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีที่เอื้อประโยชน์ต่อการทำงานอันจะนำมาซึ่งการทำงานที่ราบรื่น
ทั้งนี้จะเห็นว่า 3 ปัจจัยนี้ถูกนำมาต่อยอดพัฒนาเป็นหลักสูตรต่างๆ ของมหาวิทยาลัย การร่วมมือกับอิมแพ็คในการพัฒนาหลักสูตรถือเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัย เพื่อตอบโจทย์ตลาดแรงงานได้อย่างลงตัว กล่าวคือหลักสูตร Event Management เป็นหลักสูตรแห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ภาคเอกชนผู้ที่มีความชำนาญในการจัดงานอย่างอิมแพ็คลงมาพัฒนาหลักสูตรด้วยตัวเอง หลักสูตรนี้จึงเป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพของบัณฑิตจบใหม่และลดช่องว่างของการขาดประสบการณ์การทำงานของบัณฑิตปริญญาตรีด้านอุตสาหกรรมไมซ์ ด้วยการเสริมโครงการฝึกงานจริงร่วมกับอิมแพ็ค ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมไมซ์ ที่สามารถให้มุมมองเชิงลึกในการทำงาน ตลอดจนความร่วมมือต่างๆ ที่นักศึกษาจะได้รับเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ในการทำงานจริงๆ แบบเข้มข้นตลอดหลักสูตรและจุดแข็งของมหาวิทยาลัยในด้านภาษา กอปรกับการที่นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้ใน สังคมแบบ Multicultural Environment ตั้งแต่ยังอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ดนั้น สามารถตอบโจทย์การทำงานในยุคของประชาคมอาเซียนได้อย่างลงตัว ในยุคนี้หลายๆบริษัทไม่เพียงต้องการบัณฑิตที่มีความสามารถในด้านการทำงานและภาษาเท่านั้น แต่ยังต้องการบุคลากรที่มี International Mindset คือกล้าคิดกล้าทำกล้าพูดอย่างสร้างสรรค์ และสามารถทำงานร่วมกับคนหลากหลายสัญชาติได้”
“อิมแพ็ค เป็นบริษัทระดับประเทศที่จัดงานใหญ่ระดับนานาชาติหลายครั้ง และทุกๆ ครั้งก็มีการทำงานร่วมกับชาวต่างชาติมากมาย สิ่งหนึ่งที่อิมแพ็คย้ำเสมอสำหรับการคัดเลือกบุคลากร คือ ไม่เพียงแต่ต้องการคนเก่งที่มีประสบการณ์เท่านั้น แต่ยังต้องการบุคลากรที่มีความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ และรู้จักการทำงานร่วมกับคนต่างชาติ ต่างวัฒนธรรมได้อีกด้วย ความสำเร็จของแสตมฟอร์ดที่ผ่านมาจากการร่วมเป็นพันธมิตรกับหลากหลายบริษัทชั้นนำนั้นพบว่าบริษัทเหล่านั้นรับนักศึกษาของแสตมฟอร์ดเข้าทำงานตั้งแต่ก่อนเรียนจบ เพราะถูกใจความสามารถด้านภาษาที่โดดเด่นและที่สำคัญนักศึกษาของแสตมฟอร์ดมีแนวคิดเชิงลึกที่สร้างสรรค์ในอุตสาหกรรมนั้นๆ ที่สามารถตอบโจทย์และมีส่วนช่วยเหลือพัฒนาองค์กรได้มาก เพราะได้รับการเทรนจากมืออาชีพในสาขานั้นๆ อย่างแท้จริง ทั้งหมดนี้ คือ หนึ่งในกลยุทธ์ของแสตมฟอร์ดในเรื่องของความเข้มแข็งทางเครือข่ายทางธุรกิจ ที่สามารถนำมืออาชีพที่หาตัวจับยากในด้านต่างๆ มาสอนมุมมองแนวคิดที่ทันสมัยและตอบโจทย์ให้กับนักศึกษารวมทั้งสร้างเครือข่ายอาชีพตั้งแต่ยังอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย” นายจิลลส์ กล่าวสรุป
นายลอย จุน ฮาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า “ปัจจุบันตลาดไมซ์มีการขยายตัวค่อนข้างสูง และประเทศไทยเองมีศักยภาพในการจัดงานขนาดใหญ่ได้มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สอดคล้องกับข้อมูลของทีเส็บ หรือ สำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ที่วางเป้าหมายให้เมืองไทยเป็นจุดมุ่งหมายของการจัดงานอันดับ 1 ในอาเซียน ซึ่งประเทศในกลุ่มสมาชิกจะให้ความร่วมมือพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ให้มีศักยภาพในการแข่งขันและสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้ากิจกรรมไมซ์จากฝั่งยุโรปและอเมริกาให้มากขึ้น ทำให้ความต้องการบุคลากรมีมากตามไปด้วย ประเทศไทยจึงต้องเร่งพัฒนาความสามารถในการทำงานและภาษาเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับนานาประเทศได้
ที่ผ่านมาเราพบว่าประเทศไทยยังขาดความพร้อมกับโอกาสนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านไมซ์เฉพาะทางและความสามารถด้านภาษาอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ เราจึงได้ริเริ่มแนวคิดที่จะพัฒนาบุคลากรของเราเอง ในแบบฉบับเฉพาะตามที่ตลาดไมซ์ต้องการเพื่ออุดช่องโหว่ของปัญหา กลยุทธ์ Local Partnership Strategy ถูกนำมาใช้ด้วยการมองหาพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อรุกตลาดและสร้างความได้เปรียบในตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงอย่างไมซ์ เราทำการคัดเลือกหลากหลายมหาวิทยาลัยทั้งของภาครัฐและเอกชน และเราพบว่ามหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด เป็นมหาวิทยาลัยที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในด้านการพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถในการแข่งขันกับนานาชาติได้มากที่สุด”
นายลอย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทั้งนี้สืบเนื่องจากหนึ่งในปณิธานของมหาวิทยาลัยที่ชัดเจน คือ การผลิตบัณฑิตคุณภาพที่มีความสามารถพร้อมปฏิบัติงาน มีความเชี่ยวชาญในภาษาอังกฤษ ภายใต้สังคมการเรียนรู้นานาชาติที่แวดล้อมด้วยนักศึกษาและคณาจารย์ชาวต่างชาติอย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้คือบุคลากรในอุดมคติที่เราต้องการพัฒนา การร่วมเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ดครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพของอิมแพ็คในการผลิตบุคลากรไมซ์คุณภาพ อันจะเป็นการส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ และยังช่วยลดต้นทุนรวมถึงเวลาด้านการสอนงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ ที่จะทำให้เหนือคู่แข่งด้วยข้อได้เปรียบของมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด ที่นำเสนอหลักสูตรอินเตอร์ทำให้บัณฑิตจบใหม่ที่ในอนาคตอาจเป็นหนึ่งในบุคลากรของอิมแพ็คสามารถแทรกเข้าไปในตลาดเป้าหมายอย่างตลาดต่างประเทศที่ต้องการได้ง่ายขึ้นอีกด้วย”
นางนิชาภา ยศวีร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ สำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า เปิดเผยว่า “ทีเส็บมีพันธกิจหลักตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์กร คือ การพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของอุตสาหกรรมไมซ์ โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับธุรกิจ ดังนั้น สสปน. หรือ ทีเส็บ จึงได้จัดทำหลักสูตรไมซ์มาตรฐานสากลสำหรับการเรียนการสอนด้านไมซ์ในสถาบันอุดมศึกษา เสริมศักยภาพด้านไมซ์ให้แก่อาจารย์ นักศึกษา ผู้ประกอบการไมซ์ สร้างผู้นำไมซ์สำหรับอนาคตซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
การจัดทำหลักสูตร Event Management ภาษาอังกฤษ นับเป็นหลักสูตรการสอนที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการสร้างขีดความสามารถของบุคลากรในอุตสาหกรรมไมซ์ และนับเป็นนิมิตหมายอันดียิ่งที่ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร Event Management โดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาระดับนานาชาติอย่างมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ดที่โดดเด่นในด้านการศึกษาและภาษาอังกฤษ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้ประเทศไทยสามารถผลิตบัณฑิตคุณภาพด้านไมซ์ที่มีความสามารถด้านภาษาได้เป็นจำนวนมาก”
“สำหรับในปี 2559 ทีเส็บยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาด้านการศึกษา โดยจะจัดทำและยกระดับมาตรฐานหลักสูตรการเรียนการสอนด้านไมซ์ทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากลและมุ่งเสริมศักยภาพอาจารย์และนักศึกษาไมซ์ รวมทั้งขยายเครือข่ายภาคการศึกษากับพันธมิตรในต่างประเทศ เพื่อจัดวางให้ประเทศไทยเป็นศูนย์การศึกษาด้านไมซ์แห่งอาเซียน (ASEAN MICE Education Hub)” นางนิชาภากล่าวปิดท้าย