ปัจจุบันชุมชนบ้านฮวกเป็นพื้นที่ชายแดนไทย (Embedding disabled, limit reached)-ลาว รวมทั้งเป็นที่ตั้งของจุดผ่อนปรนชั่วคราว ทำให้เกิดการไปมาหาสู่กันของทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวเป็นประจำ โดยชุมชนบ้านฮวกมีประชากรทั้งหมด 1263 คนโดยประมาณ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม รองลงมารับจ้างและค้าขาย และจากการที่มีทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ชายแดน ทำให้ชุมชนบ้านฮวกมีข้อได้เปรียบเรื่องการค้าขายกับฝั่งลาว ไม่ว่าจะเป็นการรับซื้อของจากฝั่งลาวเพื่อมาขายในฝั่งไทย การรับจ้างเหมาเพื่อขับรถรับ-ส่งจากฝั่งลาวมาซื้อข้าวของในฝั่งไทย รวมทั้งการมีตลาดการค้าชายแดนในวันที่ 10 และ 30 ของทุกเดือน ทำให้ในวันดังกล่าวมีผู้คนมากกว่าปกติ และส่งผลให้การค้าด่านบ้านฮวกคึกคัก แต่อย่างไรก็ดีนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันชุมชนบ้านฮวกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งทางด้านประชากรที่เพิ่มมากขึ้น การตั้งถิ่นฐาน การตั้งโฮมสเตย์ ทำให้พื้นที่บ้านฮวกกลายเป็นพื้นที่การค้าและการลงทุนของนายทุน(คำสัมภาษณ์ของเจ้าของโฮมสเตย์) ดังนั้นหากมีการพัฒนาจุดผ่อนปรนให้มีขีดความสามรถในการเป็นจุดศูนย์กลางปัจจัยพื้นฐานแก่ประชาชน จะต้องคำนึงถึงมุมมองความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ แต่หากในอนาคตพื้นที่ชุมชนบ้านฮวกสามารถพัฒนาเชื่อมโยงระหว่างประเทศได้ ในแง่ของการเป็นประตูเข้า-ออก ด้านการขนส่งสินค้า และหัตถอุตสาหกรรม จะเป็นการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในอนุภาคลุ่มน้ำโขง และอินโดจีนที่สำคัญ เนื่องจากในอนาคตหากมีการเปิดจุดผ่อนปรนให้เป็นด่านการค้าถาวรเช่นที่ด่านเชียงแสนแห่งนี้ จะทำให้ลักษณะของอาชีพและสังคมของชุมชนบ้านฮวกเปลี่ยนแปลงไป จะเป็นลักษณะของการค้าขายมากกว่าการทำเกษตรกรรมเช่นดังก่อน ดังนั้นหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้คำแนะนำแก่ชาวบ้านในด้านของการค้าขาย การส่งออก การนำเข้า จะเป็นการส่งเสริมมุมมองที่ดีในการเปิดด่านถาวรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนี้ได้.