ชุมชนบ้านแม่ต๋ำน้อยเป็นชุมชนขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในตำบลแม่กา จังหวัดพะเยา เป็นชุมชนที่มีกลุ่มชาติพันธุ์อย่างชนเผ่าเย้า(เมี่ยน) และลีซอ(ลีซู) อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก พวกเขายังคงรักษาวัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมของตนเองให้คงอยู่ วิถีชีวิตของชุมชนส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเกษตร เช่น การปลูกข้าวโพด มันสำปะหลัง และข้าว นอกจากนี้ยังมีผู้สูงอายุและกลุ่มแม่บ้านที่ปักผ้าลายดั้งเดิมเพื่อเลี้ยงชีพ เด็กๆในชุมชนได้รับการศึกษาตามสิทธิขั้นพื้นฐานที่ควรจะได้รับ
แต่ในอดีตที่ผ่านมาจากกรณีตัวอย่างในสารคดีเรื่อง Children of the mist ที่ภายในตอนนั้นเด็กในชนเผ่าม้งบางคนยังคงถูกละเมิดสิทธิในการศึกษา เนื่องจากพ่อและแม่ยังคงยึดถือวัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมของตนเอง จนละเลยเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานในการศึกษาที่เด็กควรจะได้รับ เช่น ฉากที่แม่ของดี้ไปตามดี้ที่โรงเรียนให้กลับมาที่บ้านเพื่อไปแต่งงาน ซึ่งทางครอบครัวของดี้ไม่รู้เรื่องสิทธิการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เด็กควรจะได้รับ
ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่จริงๆแล้วกลุ่มชนชาติพันธุ์ เช่น ชนเผ่าเย้าและลีซอที่อาศัยอยู่ในบ้านแม่ต๋ำน้อยที่เราได้ลงพื้นที่สำรวจ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ได้เข้าใจและรู้ถึงเรื่องเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 เรื่องสิทธิในการได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าเด็กทุกคนในประเทศไทยมีสิทธิได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รัฐมีหน้าที่จัดให้มีการศึกษาที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้สำหรับเด็กทุกคน ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติหรือฐานะทางเศรษฐกิจอย่างไร ผู้ปกครองของเด็กที่อาศัยอยู่ในชุมชนบ้านแม่ต๋ำน้อยก็ส่งเสริมให้เด็กได้รับการศึกษาตามสิทธิการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เรื่องนี้ปลุกกระแสความสนใจในตัวของกลุ่มผู้เขียนที่หลังจากดูสารคดีเรื่องนี้ แล้วได้ลงพื้นที่สำรวจชุมชนแม่ต๋ำน้อยทำให้อยากเข้าไปเรียนรู้ว่าคนในชุมชนบ้านแม่ต๋ำน้อยรู้ถึงสิทธิที่ตัวเองควรได้รับอย่างสิทธิการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างไร มีแนวทางการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง เพื่อสร้างความเท่าเทียมในสังคมการให้ทุกคนได้รับสิทธิในการศึกษาฟรีเพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิการศึกษาและบทบาทของพวกเขาในการช่วยปกป้องสิทธินี้ และการรู้ถึงสิทธิและหน้าที่พลเมืองการรับรู้ถึงหน้าที่รับรู้ถึงสิทธิมนุษยชนจะช่วยให้เด็กเข้าใจหน้าที่ของตนเองในฐานะพลเมืองเช่นการศึกษา การเรียกร้องสิทธิ หรือแม้แต่การเลือกตั้ง
อยากช่วยปลุกกระแสให้ทุกคนกล้าที่จะเรียกร้องสิทธิของตัวเองหากเจอปัญหาควรที่จะคิดวิเคราะห์หาวิธีแก้ปัญหาซึ่งจะทำให้เข้าใจถึงปัญหาสังคมและมีวิจารณญาณในการแสดงความคิดเห็นพลเมืองที่มีความรู้จะสามารถใช้สิทธิของตัวเองเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้
การศึกษามีความสำคัญในการสร้างชุมชนและพลเมือง โดยเฉพาะชาวชนเผ่าที่การเข้าถึงการศึกษา ไม่ได้เป็นแค่เพียงสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่ยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการพัฒนาตัวเองและการมีส่วนร่วมในสังคม การที่ได้รับการศึกษาทำให้มีการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้ มีศักยภาพและประสิทธิภาพ มีความเข้าใจในสิทธิของตนเอง และยังช่วยปกป้องวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของตนเอง ซึ่งจะส่งผลให้ชุมชนมีเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้โดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากรัฐเพียงอย่างเดียว
จากการที่เราได้ลงพื้นที่ชุมชนบ้านแม่ต๋ำน้อย ทำให้เราได้เห็นและรับรู้อะไรหลายๆอย่างเป็นการเปิดโลกของกลุ่มผู้เขียน
ซึ่งอยากให้สังคมหรือคนรุ่นใหม่ได้รับรู้ว่าสังคมของกลุ่มชาติพันธุ์เองก็มีการรับรู้ในเรื่องของสิทธิการศึกษา ซึ่งแม้ว่าจะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยห่างไกลจากตัวเมือง แม้ว่าหลายๆอย่างจะเข้าไม่ถึงคนกลุ่มนี้ แต่ในเรื่องของสิทธิและการศึกษา พวกเขาไม่ได้ขาดความรู้ในเรื่องนี้เลย
ผู้เขียน กลุ่มRiseTogather