สถานการณ์ในสารคดีมีความคล้ายคลึงกับปัญหาใน ชุมชนแม่ต๋ำบุญโยง จังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นชุมชนเกษตรกรรมที่เผชิญปัญหาการขาดแคลนน้ำที่ใช้เพื่อการเกษตร ชาวบ้านในพื้นที่ต้องพึ่งพาน้ำฝนตามฤดูกาล และน้ำที่ถูกปล่อยจาก อ่างแม่ต๋ำ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม การจัดสรรน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรไม่สมบูรณ์ และเกิดความไม่แน่นอนในรายได้ของเกษตรกร
การขาดแคลนแหล่งกักเก็บน้ำที่เหมาะสมสำหรับการเกษตรในพื้นที่เป็นปัญหาหลักที่ทำให้ชุมชนต้องพึ่งพาธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสถานการณ์นี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของผลกระทบที่เกิดจากการขาดการจัดการทรัพยากรน้ำที่ยั่งยืน
สารคดีเรื่องนี้ทำหน้าที่เป็น “เสียง” ของกลุ่มคนที่ลุกขึ้นมารับผิดชอบต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยตนเอง เช่นเดียวกับชาวบ้านในชุมชนแม่ต๋ำบุญโยงที่สามารถใช้สื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารปัญหาการขาดแคลนน้ำและเรียกร้องการสนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ สื่อพลเมือง (Civic Media) เป็นเครื่องมือที่สามารถสะท้อนปัญหาเหล่านี้ และสร้างแรงบันดาลใจให้ชุมชนอื่น ๆ ลุกขึ้นมาแก้ปัญหาเช่นกัน
หนังเรื่องนี้จุดประกายความคิดให้ผู้ชมมองเห็นความสำคัญของการเปลี่ยนแปลง แม้จะเริ่มต้นจากสิ่งเล็กน้อย แต่ก็สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแหล่งน้ำในชุมชน หรือการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างสื่อที่เน้นการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น บอร์ดเกม หรือสื่อวิดีโอ สามารถนำปัญหาเหล่านี้ไปเผยแพร่ในวงกว้าง เพื่อสร้างความตระหนักรู้และผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
ชุมชนแม่ต๋ำบุญโยงจึงเป็นตัวอย่างที่ดีในการเริ่มต้นสร้างการเปลี่ยนแปลง ด้วยความร่วมมือของชาวบ้านและการสนับสนุนจากสื่อเพื่อขยายผลไปสู่การแก้ไขปัญหาในระดับที่ใหญ่ขึ้น