26 ธ.ค. 2558 เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. เว็บไซต์ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (TJA) เผยแพร่จดหมายตอบอย่างเป็นทางการ หลังจากสมาคมนักข่าวพม่า (Myanmar Journalists Association – MJA) ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 25 ธ.ค. 2558 ขอให้ทั้ง 2 สมาคมร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการแสวงหาความจริงเกี่ยวกับการใช้อำนาจของราชการและระบบกฎหมายไทยในการตัดสินคดีสังหารนักท่องเที่ยวที่เกาะเต่า
จากกรณี เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2558 ศาลจังหวัดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พิพากษาให้ประหารชีวิตนายซอ ลิน หรือโซเรน และนายเว พิว หรือวิน จำเลยในคดีเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันฆ่า นายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราและฆ่า น.ส.ฮันนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ ชาวอังกฤษ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย.57 ที่ ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
จดหมายตอบกลับมีใจความสำคัญว่า สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมให้สื่อมวลชนทำหน้าที่อย่างมืออาชีพ และมีความรับผิดชอบในการแสวงหาความจริงและผดุงความยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคดีสะเทือนขวัญที่เกาะเต่า ที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้ ดังนั้นจึงมีความยินดีที่จะทำงานเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ
อย่างไรก็ตาม คำตัดสินของศาลในวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด เพราะจำเลยทั้งสองสามารถยื่นอุทธรณ์คดีได้ นอกจากนี้สื่อมวลชนไทยยินดีที่จะนำเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริง และหลักฐานที่ได้จากการสืบสวนคดีตามความเป็นจริง ซึ่งในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนคดีนี้ในระยะเวลาที่ผ่านมา สื่อมวลชนของไทยเองก็ได้รายงานข่าวเจาะลึกเกี่ยวกับคดีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้เราเชื่อว่าการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของทั้งสองสมาคม จะยิ่งส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาคมนักข่าวและประชาชนของทั้งสองประเทศ พร้อมๆ กับการส่งเสริมความยุติธรรม อันนับได้ว่าเป็นคุณธรรมหลักประการหนึ่งของมวลมนุษยชาติ
เนื้อความในจดหมายตอบกลับดังกล่าว มีดังนี้
สำหรับจดหมายเปิดผนึกของหลังจากสมาคมนักข่าวพม่า มีเนื้อหาดังนี้
จดหมายเปิดผนึกถึงสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ขอให้ทั้ง 2 สมาคมร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการแสวงหาความจริงเกี่ยวกับการใช้อำนาจของราชการและระบบกฎหมายไทยในการตัดสินคดีสังหารนักท่องเที่ยวที่เกาะเต่าซึ่งศาลจังหวัดสมุยได้ตัดสินประหารชีวิตแรงงานชาวเมียนมา 2 คนที่ตกเป็นจำเลยในคดีดังกล่าว
ขอให้สมาคมนักข่าวทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมทำงานด้วยกันเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติอันเป็นที่รักของเรา และเพื่อธำรงความยุติธรรมมาร่วมแสดงให้โลกเห็นว่านักข่าวเมียนมาและนักข่าวไทยร่วมกันต่อสู้เพื่อความยุติธรรม สิทธิมนุษยชน และคุณค่าตามระบอบประชาธิปไตย